แนะหน้าร้อน กินไอศกรีมแต่พอดี ลดเสี่ยงน้ำหนักตัวเพิ่ม

​สธ. 16 เม.ย.- กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข แนะช่วงหน้าร้อน ควรจำกัดปริมาณในการกินไอศกรีม เพราะมีส่วนผสมของไขมันอิ่มตัวและน้ำตาลสูง หากบริโภคมากไป เสี่ยงไขมันสะสม-น้ำหนักตัวเพิ่ม


นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ช่วงหน้าร้อน ไอศกรีมเป็นของหวานที่หลาย ๆ คน กินเพื่อคลายร้อน ซึ่งควรจำกัดปริมาณในการกิน เพราะไอศกรีมส่วนใหญ่มีส่วนประกอบหลักคือน้ำตาลและไขมันนม หรือผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากนม เช่น โยเกิร์ต นมผง นมเปรี้ยว และยังมีสารให้ความหวาน เช่น กลูโคสไซรัป ฟรุกโตส น้ำผึ้ง หรืออาจมีน้ำมันพืช ไข่ กะทิ นอกจากนี้ ไอศกรีมยังนิยมกินกับวาฟเฟิลโคน วิปปิ้งครีม และของตกแต่งหน้าเพิ่มด้วย หากกินมากเกินไป ขาดการออกกำลังกาย อาจทำให้ผู้บริโภค เสี่ยงไขมันสะสม น้ำหนักเพิ่มขึ้น หลีกเลี่ยงไอศกรีมที่มีไขมันสูง และระวังน้ำตาลที่อยู่ในไอศกรีมด้วย เนื่องจากไอศกรีมบางประเภทแม้มีไขมันศูนย์เปอร์เซ็นต์ กลับมีน้ำตาลสูงถึง 3.5 – 6.5 ช้อนชา ดังนั้น จึงควรบริโภคแต่พอควร สำหรับผู้ที่มีคอเรสเตอรอลในเลือดสูง ควรเลือกกินไอศกรีมที่มีไขมันน้อย หรือไม่มีไขมันเลย เช่น ไอศกรีมเชอร์เบต ส่วนผู้ที่มีไตรกลีเซอร์ไรด์ในเลือดสูง สามารถกินไอศกรีมเป็นครั้งคราว จำกัดคาร์โบไฮเดรต ไขมัน และน้ำตาลในอาหาร เนื่องจากส่วนผสมของไขมันและน้ำตาลที่มีอยู่ในปริมาณมาก ส่งผลทำให้ระดับไตรกลีเซอร์ไรด์ในเลือดสูงขึ้นได้

​ทางด้าน ดร.แพทย์หญิงสายพิณ โชติวิเชียร ผู้อำนวยการสำนักโภชนาการ กล่าวว่า การเลือกกินไอศกรีม ควรหลีกเลี่ยงชนิดที่มีไขมันและน้ำตาลสูง เนื่องจากไอศกรีมดัดแปลง 1 แท่ง (50 – 70 กรัม) ให้พลังงาน 150 – 230 กิโลแคลอรี มีไขมันอิ่มตัว 12 – 15 กรัม มีน้ำตาล 4 – 5 ช้อนชา ไอศกรีม 1 สกู๊ป (100 กรัม) ให้พลังงาน 250 – 350 กิโลแคลอรี มีไขมันอิ่มตัว 7 – 11 กรัม น้ำตาล 6 – 9 ช้อนชา โดยใน 1 วัน ไม่ควรกินไขมันและน้ำตาลเกิน 6 ช้อนชา ไอศกรีมจึงควรกินเป็นครั้งคราวและจำกัดปริมาณไอศกรีม การเลือกกินไอศกรีมเลือกชนิดไขมันน้ำตาลน้อย และไม่เพิ่มโคน กินควบคู่กับผลไม้ เพื่อทำให้น่ากินมากขึ้น และควรกินแบบพอดี ไม่เยอะจนเกินไป เนื่องจากส่วนผสมของไขมันและน้ำตาลที่มีอยู่ในปริมาณมาก ก่อนซื้อควรดูฉลากโภชนาการ เป็นส่วนประกอบก่อนการบริโภค เพื่อทำให้ทราบปริมาณพลังงาน น้ำตาล และไขมัน จะได้หลีกเลี่ยงไม่ให้ กินมากเกินไป โดยสังเกตสัญลักษณ์ทางเลือกสุขภาพ (Healthier choice) และเลือกกินไอศกรีมจากผู้ผลิต ที่มีมาตรฐานเชื่อถือได้ ลดความเสี่ยงโรคระบบทางเดินอาหารจากไอศกรีมที่ไม่สะอาด .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”