สธ. 11 เม.ย.- “อนุทิน” ย้ำ แพทย์จะเป็นผู้วินิจฉัยการให้ “ยาแพกซ์โลวิด” แก่ผู้ป่วย ตามความเหมาะสม ผู้ป่วยคนใดไม่ได้รับยาอะไรเลยแปลว่ามีร่างกายแข็งแรง
นายอนุทิน ชาญวีรกูลรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่าแพทย์จะวินิจฉัยให้ยากับผู้ป่วย ตามความเหมาะสมไม่มีคำว่าขี้เหนียว ไม่เก็บรักษายาไว้ เพื่อการใด ไม่ว่ายาฟาวิพิราเวียร์ โมลนูพิราเวียร์ ส่วนการที่ผู้ป่วยบางรายไม่ได้รับยาใดๆ ยิ่งแปลว่าสุขภาพของผู้ป่วยคนนั้นดีมาก นายอนุทินกล่าวว่า ยาแพกซ์โลวิด จะไม่ได้ซื้อครั้งนี้ครั้งเดียวหากมีความจำเป็น จะจัดซื้ออีก ขอให้ประชาชนมั่นใจว่าแพทย์ บุคลากรที่ทำการดูแลรักษาผู้ป่วยทำตามแนวทางวิธีการรักษาที่ได้มาตรฐาน ขอความกรุณาประชาชนรับฟังข้อมูลอย่างเป็นทางการ ส่วนตนเองให้ความเคารพกับความคิดเห็นจากบุคลากรทางการแพทย์ทุกคน แต่ขอให้ข้อมูลที่นำมาพูดถึง เป็นข้อมูลที่อ้างอิงจากความเป็นจริง
ด้านแพทย์หญิงเปี่ยมลาภ แสงสายัณห์ หัวหน้ากลุ่มงานอายุรศาสตร์ปอด สถาบันโรคทรวงอก กรมการแพทย์ ระบุว่า ยาแพกซ์โลวิด ใช้กับผู้ป่วยที่อยู่ในกลุ่ม 608 และมีประวัติฉีดวัคซีนไม่ครบ 3 เข็ม และอธิบายกลไกของการป่วยปอดอักเสบว่าเมื่อร่างกายติดเชื้อ ร่างกายจะสะสมสารต้านอักเสบออกมาโต้ตอบ กับไวรัสโดยอัตโนมัติ แต่เมื่อเราได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว จะทำให้การกระตุ้นการอักเสบ ของร่างกายน้อยลง อาการจึงไม่รุนแรงจนถึงปอดอักเสบ
ส่วนยาแพกซ์โลวิดจะเข้าไปช่วยลดการอักเสบของร่างกาย เช่นกัน จึงลดการเสียชีวิตในกลุ่มผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง แต่การรับยาแพกซ์โลวิด ก็มีข้อบ่งชี้ค่อนข้างมาก ต้องให้ในกลุ่มที่มีความจำเป็นจริงๆ คือ อาการเริ่มต้นและปานกลางไม่ใช่อาการรุนแรงแล้ว จนถึงขั้นปอดอักเสบ เพราะจะมีเซลล์อักเสบ ที่ร่างกายผลิตออกมาเองที่จะโต้ตอบกับยา จนทำให้การรักษาไม่ได้ผล
นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า จากนี้จะมีการตรวจรับยา โดยให้ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข กระจายไปตามโรงพยาบาลใหญ่ๆ และกรมการแพทย์จะออกข้อ กำหนดการใช้ยาแพกซ์โลวิด อย่างละเอียดต่อไป .-สำนักข่าวไทย