ปิดรับสมัครเลือกตั้ง ‘ผู้ว่าฯ กทม.’ ลงชิงเก้าอี้ 31 คน

กทม. 4 เม.ย.- กทม.สรุปมีผู้สมัคร “ผู้ว่าฯ กทม.” 31 คน ผู้สมัคร ส.ก. 382 คน หลังจากนี้จะตรวจสอบคุณสมบัติก่อนประกาศรายชื่อผู้มีคุณสมบัติครบถ้วนเป็นทางการ 11 เม.ย.นี้


สรุปผลการรับสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครและสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร

(4 เม.ย.65) นายขจิต ชัชวานิชย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร ในฐานะผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำท้องถิ่นกรุงเทพมหานคร แถลงข่าวผลการรับสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) โดยมี นายสมชัย สุรกาญจน์กุล ประธานกรรมการการเลือกตั้งประจำท้องถิ่นกรุงเทพมหานคร นายวันชัย ใจกุศล กรรมการการเลือกตั้งประจำท้องถิ่นกรุงเทพมหานคร นายอภิชัย ทองประสม กรรมการการเลือกตั้งประจำท้องถิ่นกรุงเทพมหานคร ร่วมแถลงข่าว ณ อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร 2 เขตดินแดง


ตามที่ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำกรุงเทพมหานคร ได้เห็นชอบให้มีการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร โดยกำหนดวันสมัครรับเลือกตั้ง ระหว่างวันที่ 31 มีนาคม 2565 – 4 เมษายน 2565 ระหว่างเวลา 08.30 – 16.30 น. ณ อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร 2 ดินแดง นั้น ผลการรับสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร ภาพรวมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยเมื่อครบกำหนดเวลาการรับสมัคร มีผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร รวมจำนวน 31 คน
แบ่งเป็น ผู้สมัครชาย 25 คน ผู้สมัครหญิง 6 คน โดยเรียงตามหมายเลขผู้สมัครรับเลือกตั้ง ดังนี้

หมายเลข 1 นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร
หมายเลข 2 พ.ท.หญิงฐิฏา รังสิตพล มานิตกุล
หมายเลข 3 นายสกลธี ภัททิยกุล
หมายเลข 4 นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์
หมายเลข 5 นายวีรชัย เหล่าเรืองวัฒนะ
หมายเลข 6 พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง
หมายเลข 7 นางสาวรสนา โตสิตระกูล
หมายเลข 8 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์
หมายเลข 9 นางสาววัชรี วรรณศรี
หมายเลข 10 นายศุภชัย ตันติคมน์
หมายเลข 11 น.ต.ศิธา ทิวารี
หมายเลข 12 นายประยูร ครองยศ
หมายเลข 13 นายพิศาล กิตติเยาวมาลย์
หมายเลข 14 นายธเนตร วงษา
หมายเลข 15 พล.อ.ต.ทูตปรีชา เลิศสันทัดวาที
หมายเลข 16 นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์
หมายเลข 17 นายอุเทน ชาติภิญโญ
หมายเลข 18 นางสาวสุมนา พันธุ์ไพโรจน์
หมายเลข 19 นายไกรเดช บุนนาค
หมายเลข 20 นางอมรพรรณ อุ่นสุวรรณ
หมายเลข 21 นายนิพัทธ์พนธ์ สุวรรณชนะ
หมายเลข 22 นายวรัญชัย โชคชนะ
หมายเลข 23 นายเฉลิมพล อุตรัตน์
หมายเลข 24 นายโฆสิต สุวินิจจิต
หมายเลข 25 นายประพัฒน์ บรรจงศิริเจริญ
หมายเลข 26 พล.ต.ท.มณฑล เงินวัฒนะ
หมายเลข 27 นายภูมิพัฒน์ อัศวภูภินทร์
หมายเลข 28 นายสราวุธ เบญจกุล
หมายเลข 29 นายกฤตชัย พยอมแย้ม
หมายเลข 30 นายพงศา ชูแนม
หมายเลข 31 นายวิทยา จังกอบพัฒนา

ผู้สมัครที่อายุมากที่สุด 75 ปี และอายุน้อยที่สุด 43 ปี ส่วนผลการรับสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร มีผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร 50 เขต รวมจำนวน 382 คน โดยสำนักงานเขตที่มีผู้สมัคร ส.ก. มากที่สุด ได้แก่ เขตดุสิต และเขตสวนหลวง จำนวน 10 คน สำนักงานเขตที่มีผู้สมัคร ส.ก. น้อยที่สุด จำนวน 8 เขต ได้แก่ เขตสัมพันธวงศ์ เขตตลิ่งชัน เขตภาษีเจริญ เขตหนองแขม เขตบางพลัด เขตดินแดง เขตบางซื่อ และเขตคันนายาว โดยมีผู้สมัคร จำนวน 6 คน ผู้สมัคร ส.ก.อายุน้อยที่สุด ได้แก่ เขตลาดกระบัง อายุ 25 ปี และอายุมากที่สุด ได้แก่ เขตราชเทวี อายุ 82 ปี


หลังจากปิดรับการสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครและสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำท้องถิ่นกรุงเทพมหานครจะดำเนินการตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้สมัครรับเลือกตั้งไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และจะประกาศรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้ง ภายใน 7 วัน นับแต่วันปิดรับสมัคร คือวันที่ 11 เมษายน 2565 ตามมาตรา 52 แห่ง พ.ร.บ. การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 และข้อ 97 ของระเบียบ กกต. ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 หลังจากประกาศรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งแล้ว หากผู้สมัครไม่มีรายชื่อสามารถยื่นคัดค้านได้ ภายใน 3 วัน คือวันที่ 14 เมษายน 2565

สำหรับผู้สมัครที่ประสงค์จัดทำประกาศหรือแผ่นป้ายเกี่ยวกับการหาเสียงเลือกตั้ง สามารถจัดทำได้ 2 ดังนี้ 1.ประกาศเกี่ยวกับการหาเสียงเลือกตั้ง ขนาดความกว้างไม่เกิน 30 เซนติเมตร และยาวไม่เกิน 42 เซนติเมตร จำนวนไม่เกิน 10 เท่าของหน่วยเลือกตั้ง 2.ป้ายเกี่ยวกับการหาเสียงเลือกตั้ง ขนาดความกว้างไม่เกิน 130 เซนติเมตร และยาวไม่เกิน 245 เซนติเมตร จำนวนไม่เกิน 5 เท่า ของหน่วยเลือกตั้ง โดยขอความร่วมมือผู้สมัครรับเลือกตั้งในเรื่องการปิดประกาศและการติดแผ่นป้ายหาเสียงเลือกตั้ง ให้ดำเนินการตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำท้องถิ่นได้ประกาศกำหนด โดยต้องคำนึงถึงความเหมาะสม ความเป็นระเบียบเรียบร้อย ความสะอาด ความปลอดภัย ความมั่นคงแข็งแรง มีทัศนียภาพและทัศนวิสัยที่ดี ไม่ก่อให้เกิดอันตรายแก่ประชาชนหรือยานพาหนะ รวมทั้งไม่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินต่อทางราชการหรือประชาชน และจะต้องไม่เป็นการกีดขวางทางสัญจร การจราจร ฯลฯ พร้อมทั้งได้แนบประกาศฉบับดังกล่าว หลักเกณฑ์และวิธีปิดประกาศและแผ่นป้ายเกี่ยวกับการหาเสียงเลือกตั้งของการไฟฟ้านครหลวงให้กับผู้สมัครรับเลือกตั้งในวันรับสมัครเลือกตั้ง เพื่อเป็นการเน้นย้ำให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งดำเนินการได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย

นอกจากนี้ ผู้สมัครสามารถดำเนินการหาเสียงเลือกตั้ง โดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ อาทิ เว็บไซต์ โซเชียลมีเดีย ยูทูป แอปพลิเคชั่น อีเมล์ SMS หรือสื่ออิเล็กทรอนิกส์ประเภทอื่นๆ ได้จนถึงเวลา 18.00 น. ของวันก่อนวันเลือกตั้ง หรือเวลา 18.00 น. วันที่ 21 พฤษภาคม 2565

ในส่วนของการดำเนินการเลือกตั้งภายหลังการปิคการรับสมัคร คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำท้องถิ่นกรุงเทพมหานคร จะเริ่มเข้ามามีบทบาท ในการกำกับ ดูแล ให้การเลือกตั้งดำเนินไปด้วยความเรียบร้อย ตามมาตรา 27 ได้แก่ 1. เสนอแนะและให้ความเห็นชอบ การกำหนดหน่วยเลือกตั้ง ที่เลือกตั้ง การแต่งตั้งเจ้าพนักงานผู้ดำเนินการเลือกตั้ง ประจำหน่วยเลือกตั้ง (กปน.หน่วยละ 9 คน) รวมทั้งการอบรม 2. การตรวจสอบและให้ความเห็นชอบ บัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง การเพิ่มถอนชื่อในบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งตามที่นายทะเบียนเสนอ 3. กำกับ ดูแล และอำนวยการ การลงคะแนนเลือกตั้ง การนับคะแนน การประกาศผลการนับคะแนนของที่เลือกตั้ง 4. การกำหนดสถานที่รวบรวมผลคะแนน และการรวบรวมผลคะแนนจากทุกหน่วยเลือกตั้ง และรายงานผลการนับคะแนนต่อผู้อำนวยการเลือกตั้งประจำกรุงเทพมหานคร และ 5. ปฏิบัติการอื่น ๆ ตามที่กฎหมายเลือกตั้งหรือกฎหมายอื่นกำหนดไว้ หรือตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (ระดับชาติ) มอบหมายในการปฏิบัติงานดังกล่าว คณะกรรมการเลือกตั้งประจำท้องถิ่นกรุงเทพมหานคร มีอำนาจในการแต่งตั้ง คณะอนุกรรมการ คณะทำงาน หรือบุคคล ช่วยปฏิบัติงานได้ตามสมควร

ทั้งนี้ คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำท้องถิ่นกรุงเทพมหานครเริ่มปฏิบัติงาน ตั้งแต่มีประกาศให้มีการเลือกตั้ง และสิ้นสุดการปฏิบัติหน้าที่เมื่อคณะกรรมการการเลือกตั้งประกาศผลการเลือกตั้ง แต่หากมีการเลือกตั้งแทนตำแหน่งที่ว่าง การเลือกตั้งใหม่ การนับคะแนนใหม่ การยุบสภากรุงเทพมหานคร ให้คณะกรรมการชุดหลังสุดปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ต้องมีการสรรหาใหม่ .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้ว่าฯ สงขลา จัดคิวนายอำเภอรับ-ส่ง “เดชอิศม์” ทุกสัปดาห์

กทม. 18 ส.ค.-ผู้ว่าฯ สงขลา ทำหนังสือด่วน จัดคิวนายอำเภอ เวียนต้อนรับ-ส่ง “เดชอิศม์” สนามบินหาดใหญ่ ทุกสัปดาห์ นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ทำหนังสือด่วนที่สุด ที่ สข 0017.3/17839 เรื่อง ขอความอนุเคราะห์อำนวยความสะดวก นายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เรียน นายอำเภอเมืองสงขลา ด้วยจังหวัดสงขลาได้รับแจ้งว่า นายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย มีกำหนดเดินทางมาราชการในพื้นที่จังหวัดสงขลา เพื่อตรวจราชการสำคัญตามนโยบายรัฐบาล และมีกำหนดเดินทางกลับไปปฏิบัติราชการ ณ กรุงเทพมหานคร ในวันที่ 18 สิงหาคม 2568 โดยสายการบินแอร์เอเชีย เที่ยวบินที่ FD 3103 เวลา 08.25-09.50 น. เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกแก่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย จังหวัดสงขลาจึงขอให้ท่านดำเนินการ ดังนี้ 1. เชิญนายอำเภอเมืองสงขลา ร่วมส่งนายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ณ ห้องรับรอง ท่าอากาศยานหาดใหญ่ […]

ดราม่า “ไข่เจียวปู 4,000” ถึงหูพาณิชย์

กรุงเทพฯ​ 18 ส.ค.​-“จตุพร” สั่งกรมการค้าภายในตรวจสอบประเด็น​ดราม่า​ “ไข่​เจียวปู” ร้าน​ Michelin Guide สูงถึง​จานละ 4,000 บาท​ จาก​ที่​แจ้งราคาในเมนู​ 1,500​ บาท ย้ำ​ไม่ตรงปกไม่ได้ กรณี “พีชชี่” ยูทูบเบอร์ชื่อดัง โพสต์เล่าประสบการณ์สั่งไข่เจียวปูร้านดังราคาเมนู 1,500 บาท แต่ถูกเก็บจริง 4,000 บาท กำลังเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในโลกออนไลน์ ล่าสุด นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ระบุว่า จะมอบหมายให้กรมการค้าภายใน ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ขณะนี้​ยังไม่ได้รับรายละเอียด​ แต่โดยหลักการแล้ว ราคาที่เรียกเก็บจากผู้บริโภคต้องตรงกับราคาที่ระบุในเมนู หาก “ไม่ตรงปก” จะบั่นทอนความเชื่อมั่นทางการค้า “การค้าขายจะยั่งยืนได้ต้องอาศัยความไว้เนื้อเชื่อใจ หากผู้บริโภครู้สึกว่า​ ราคาไม่ตรงกับที่เห็นในเมนู ย่อมเสียความรู้สึก” นายจตุพรกล่าว เรื่องนี้เริ่มจาก “พีชชี่” โพสต์ผ่าน X เมื่อวันที่ 15 ส.ค. ระบุว่าไปทานไข่เจียวปู ซึ่งเป็นร้านอาหารไทยเพียงไม่กี่แห่งที่ได้รับการบรรจุใน Michelin Guide โดยเมนูระบุราคา 1,500 […]

“บิ๊กต่าย” ถกบอร์ดกลั่นกรอง เลื่อน “สำราญ-อิทธิพล” ขึ้นรอง ผบ.ตร.

กรุงเทพฯ 17 ส.ค. – ผบ.ตร. นั่งหัวโต๊ะประชุมกลั่นกรองแต่งตั้งนายพลสีกากี เลื่อน “สำราญ-อิทธิพล” ขึ้นรอง ผบ.ตร. ที่ห้องประชุม 2 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เป็นประธานคณะกรรมการพิจารณาการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับ ตร. หรือ “บอร์ดกลั่นกรอง” พิจารณาแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับรอง ผบ.ตร.-ผบก. โดยมี พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.กรไชย คล้ายคลึง รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.นิรันดร เหลื่อมศรี รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จตช. และ พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง ผบช.สกพ. และเลขานุการ เข้าร่วมประชุม ทั้งนี้ […]

เสียงเรียกแห่งความอร่อย…ก๋วยเตี๋ยวแต้จิ๋วโบราณเชียงใหม่

เชียงใหม่ 17 ส.ค. – โดดเด่นไม่เหมือนใคร “ก๋วยเตี๋ยวแต้จิ๋วสูตรโบราณ” ของอาแปะตี๋อ้วน ที่แต่งกายแบบล้านนาโบราณ เดินหาบขายตามตลาดและย่านชุมชนใน จ.เชียงใหม่ มานานกว่า 10 ปีแล้ว โดยใช้การตีกังสดาล หรือระฆังวงเดือน เรียกลูกค้า สะดุดตาผู้พบเห็น หลายคนติดใจในรสชาติและราคาที่ย่อมเยา จนมีลูกค้ามากมาย .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“หลวงพ่ออลงกต” ยืนยันยังไม่ลาออกจากเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ

18 ส.ค. – ปมร้อน “หลวงพ่ออลงกต” ขอลาออกจากเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ เปิดทางให้ตรวจสอบวัด ล่าสุด “หลวงพ่ออลงกต” ยืนยันยังไม่ลาออก ขอเวลาจัดการทุกเรื่อง คาด 1 เดือนชัดเจน วันนี้ (18 ส.ค.) มีกระแสข่าวว่า “พระราชวิสุทธิประชานาถ” หรือ “หลวงพ่ออลงกต” ประกาศลาออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ เพื่อรับผิดชอบต่อสถานการณ์และเปิดทางให้กระบวนการตรวจสอบดำเนินไปอย่างโปร่งใส ขณะที่ นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เปิดเผยกับทีมข่าวสำนักข่าวไทยว่า สำนักงานพระพุทธศาสนาฯ กำลังติดตามข่าวดังกล่าว แต่ยังไม่ได้รับหนังสือขอลาออกอย่างเป็นทางการ คาดว่าจะเกิดความชัดเจนในวันพรุ่งนี้ (19 ส.ค.) ส่วนเหตุผลที่หลวงพ่ออลงกตลาออก คาดว่าเปิดทางให้กระบวนการตรวจสอบเดินหน้าได้ พศ.แจ้งวัดหักลดหย่อนเงินบริจาคต้องผ่านระบบ e-Donation ผอ.พศ. ยังกล่าวถึงกรณีอธิบดีกรมสรรพากรทำหนังสือแจ้งมายังสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เมื่อวันที่ 15 ส.ค.ที่ผ่านมา แจ้งว่ากำหนดให้การบริจาคให้แก่วัด มูลนิธิ สมาคม กองทุน และองค์การต่างๆ ซึ่งผู้บริจาคได้รับสิทธิหักลดหย่อนเงินบริจาค ต้องใช้ระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e-Donation) ของกรมสรรพากรเท่านั้น โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 […]

“ภูมิธรรม” ​เผยเจรจาเขตแดนไม่จบง่าย ลั่นไม่เคยพูดยุบ ศบ.ทก.

ทำเนียบ 18 ส.ค.- “ภูมิธรรม” ​เผยเจรจาเขตแดนไม่จบง่าย​ ต้องรอผลประชุม​ RBC​-GBC มอบตำรวจภูธร​ภาค​ 3 รับเรื่องร้องทุกข์​ประชาชน-​ราชการ​ ส่งอัยการสั่งฟ้องแพ่ง​-อาญา​ “กัมพูชา” ส่วนฟ้อง “ฮุนเซน​” หรือ​ “ฮุน​ มาเนต​” ให้เป็นไปตามข้อกฎหมาย​ ไม่ตอบจัดการเครือข่ายนักการเมืองในไทย​ ชี้​หากทำก็ไม่ใช่เรื่องที่ต้องเปิดเผย​ ลั่น​ไม่เคยพูดสักคำ​ ยุบ ศบ.ทก. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยภายหลังการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ ว่า ขณะนี้สถานการณ์บริเวณชายแดนไทยกัมพูชายังต้องเฝ้าระวัง จึงต้องติดตามอย่างใกล้ชิด ส่วนเรื่องการเจรจาเขตแดนทั้งหลายยังไม่จบง่ายๆ และยังรอการประชุม ตามกรอบต่างๆ ซึ่งการประชุม RBC จะเกิดขึ้นในช่วงวันที่ 25-27 สิงหาคมนี้ ขณะที่วันที่ 8-10 กันยายนจะเป็นการประชุม GBC ที่เมืองเสียมราฐ ประเทศกัมพูชา ทั้งนี้ได้สั่งการให้หน่วยราชการติดตามข่าวสาร และประสานงานกันอย่างมีเอกภาพ โดยเฉพาะในเรื่องข่าวสารที่สร้างความสับสนและความเข้าใจผิดให้กับพี่น้องประชาชน พร้อมยอมรับว่าขณะนี้มีกระบวนการไอโอ จึงขอช่วยกัน อย่าตกเป็นเหยื่อของเรื่องนี้ พร้อมย้ำว่ารัฐบาลยึดผลประโยชน์ประเทศชาติอธิปไตยของประเทศทรัพย์สินและชีวิตของพี่น้องประชาชนเป็นที่ตั้ง จึงขอความร่วมมือจากทุกฝ่าย ขณะเดียวกันที่ประชุม สมช.ยังมีการพิจารณาเรื่องการดำเนินคดีตามกฎหมาย กรณีกัมพูชาใช้กำลังทหารและอาวุธยุทโธปกรณ์ในการคุกคามอธิปไตยของไทย […]

ทบ.แจงบ้านหนองจานอยู่ในเขตไทย เดิมเป็นที่ลี้ภัยชาวเขมร

กองทัพบก 18 ส.ค.- ทบ. แจงพื้นที่บ้านหนองจาน อยู่ในเขตประเทศไทย เดิมเคยเป็นที่ช่วยเหลือชาวกัมพูชาลี้ภัยจากการสู้รบชั่วคราว ภายหลังพบมีการขยายชุมชน ละเมิด MOU43 แม้ฝ่ายไทยมีการประท้วงอย่างต่อเนื่อง จากกรณีที่มีชาวกัมพูชาได้ออกมาร้องเรียนเรื่องการวางรั้วลวดหนามของทหารไทยบริเวณบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว โดยกล่าวอ้างว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นดินแดนของตนนั้น พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่าแท้จริงแล้วพื้นที่ดังกล่าวเป็นอาณาเขตของประเทศไทย ซึ่งอยู่บริเวณบ.หนองจาน ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว รอยต่อแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ระหว่างหลักเขตแดนที่ 46 และ 47 นอกจากนี้ยังพบว่าฝ่ายกัมพูชาละเมิดข้อตกลงในพื้นที่อ้างสิทธิ์ โดยการสนับสนุนให้ราษฎรมาสร้างถิ่นฐานอย่างถาวร ทั้งในบริเวณพื้นที่อ้างสิทธิ์ และนอกบริเวณพื้นที่อ้างสิทธิ์ในฝั่งประเทศไทย ซึ่งกองทัพบก โดยกองกำลังบูรพา ได้ดำเนินการประท้วงร้องเรียนฝ่ายกัมพูชาในเวทีต่างๆ มาอย่างต่อเนื่อง ทั้งระดับหน่วยทหารในพื้นที่ และผ่านกระทรวงการต่างประเทศ ตั้งแต่ปี 2557 จนถึงปัจจุบัน แต่ฝ่ายกัมพูชากลับนิ่งเฉย ไม่มีการชี้แจงในรายละเอียด หรือแก้ไขใดๆ จึงยืนยันได้ว่าฝ่ายไทยได้ใช้การแก้ปัญหาโดยสันติวิธีมาตลอด โฆษกกองทัพบก กล่าวต่อว่าสำหรับปัญหา ณ ปัจจุบัน ฝ่ายกัมพูชา มีเจตนาอันไม่บริสุทธิ์ พยายามจะใช้ประชาชนให้เป็นผู้ออกหน้าในการรุกล้ำพื้นที่อธิปไตยประเทศไทยในบริเวณดังกล่าว ทั้งนี้ อาจเพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับฝ่ายทหารโดยตรง ทำให้เข้าใจได้ว่า […]

ผู้ว่าฯ สงขลา ยืนยันไม่ได้ออกคำสั่งรับ มท.3

สงขลา 18 ส.ค.-ผู้ว่าฯ สงขลา ยืนยันไม่ได้ออกคำสั่งให้นายอำเภอจัดเวรต้อนรับ-ส่ง “เดชอิศม์” ส่วนมีใครคิดจะปลอมแปลงขึ้นมาก็ต้องตรวจสอบกันต่อไป นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ออกมากล่าวถึงเรื่องที่มีหนังสือคำสั่งทางราชการให้นายอำเภอของจังหวัดสงขลาทั้ง 16 อำเภอจัดเวรต้อนรับ-ส่ง และจัดห้อง VIP พร้อมอาหารว่าง ต้อนรับ รัฐมนตรีช่วยกระทรวงมหาดไทย นายเดชอิศม์ ขาวทอง ซึ่งรายละเอียดในหนังสือกล่าวว่าให้นายอำเภอเมืองสงขลาปฏิบัติหน้าที่ในวันที่ 18 สิงหาคม 2568 คือในวันนี้ ว่าไม่เป็นความจริง ตนไม่ได้ออกหนังสือฉบับนี้ เพราะหนังสือที่ตนลงนามฉบับสุดท้ายในวันนั้นคืองานประชุม ส่วนความจริงตอนนี้มอบหมายให้รองผู้ว่าราชการที่เกี่ยวข้องตรวจสอบเรื่องนี้แล้ว แต่ให้ข้อคิดว่าหนังสือที่จะขอใช้พื้นที่หน่วยงานจากท่าอากาศยาน ก็ต้องเป็นลายเซ็นของผู้ว่าราชการเท่านั้น ส่วนมีใครคิดจะปลอมแปลงหรือทางหนังสือปลอมขึ้นมาก็ต้องตรวจสอบกันต่อไป แต่จะให้ได้ความจริงให้เร็วที่สุด เมื่อมีการสอบถามเรื่องความขัดแย้งของจังหวัดสงขลาราชการจังหวัดสงขลากล่าวว่าท่านไม่น่าจะมีความขัดแย้งกับใคร เพราะไม่เคยทำงานในพื้นที่มาก่อน เพิ่งมารับตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาในครั้งแรก ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ยังกล่าวอีกว่า วันและเวลาดังกล่าวที่มีการออกหนังสือ ตนก็ไม่ได้อยู่ในพื้นที่ ไปธุระส่วนตัวงานแต่งงานของญาติที่จังหวัดนครศรีธรรมราช แต่จะให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องหาความจริงเรื่องนี้ให้เร็วที่สุดเพราะถือว่าเป็นการทำผิดอย่างมาก.-สำนักข่าวไทย