ชวนหญิงไทยตรวจเต้านม พบมะเร็งเร็วอัตรารอดสูง

กรุงเทพฯ 1 เม.ย. – กรมอนามัยชวนหญิงไทยอายุ 20 ปีขึ้นไป ตรวจเต้านมเป็นประจำทุกเดือน ชี้พบก้อนเนื้อมะเร็งเร็ว มีโอกาสรอด 75-90% แนะออกกำลังกาย เพิ่มกินผัก ผลไม้ ลดอาหารที่มีไขมัน และควบคุมน้ำหนัก จะช่วยป้องกันมะเร็งเต้านม


นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า โรคมะเร็งเต้านม พบมากเป็นอันดับ 1 ของมะเร็งในผู้หญิงไทย ซึ่งจากข้อมูลของสถาบันมะเร็งแห่งชาติ ระบุว่า มีผู้ป่วยเฉลี่ยรายใหม่ 18,000 คน/ปี หรือ 49 คน/วัน มีผู้เสียชีวิตจากมะเร็งเต้านมประมาณ 4,800 คน หรือคิดเป็น 13 คน/วัน ซึ่งกลุ่มเสี่ยงมะเร็งเต้านมส่วนใหญ่จะพบในหญิงที่มีอายุมากขึ้น โดยเฉพาะอายุมากกว่า 40 ปีขึ้นไป มีประวัติครอบครัวเป็นมะเร็งเต้านม มะเร็งรังไข่ หรือมีประวัติเคยเป็นมะเร็งเต้านมมาก่อน หรือมีก้อนบริเวณเต้านม ที่ผลการตรวจพบว่าผิดปกติ มีประจำเดือนครั้งแรกก่อนอายุ 12 ปี หมดประจำเดือนหลังอายุ 55 ปี หรือเคยรับการฉายรังสีบริเวณทรวงอกก่อนอายุ 30 ปี และผู้หญิงที่สูบบุหรี่จัด ดื่มสุรา ไม่ออกกำลังกาย โดยพบว่าผู้หญิงอายุ 15-49 ปี ที่น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น 10 กิโลกรัม จะมีโอกาสเกิดมะเร็งเต้านมเพิ่มขึ้น 18% ขณะที่ผู้ชายก็มีสิทธิเป็นมะเร็งเต้านมได้ 1 ใน 100 ของผู้ป่วยเป็นมะเร็งเต้านม

นพ.สุวรรณชัย กล่าวต่อว่า การป้องกันดีที่สุด คือ ผู้หญิงที่มีอายุ 20 ปีขึ้นไปทุกคน ควรตรวจเต้านมเป็นประจำทุกเดือน ทำให้รู้ถึงสภาพที่เป็นปกติของเต้านม หากเกิดความผิดปกติของเต้านมจะสามารถพบได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ โดยการตรวจเต้านมทำได้ 2 วิธี คือ วิธีที่ 1 ดูด้วยตา คลำด้วยมือ ซึ่งการคลำมี 3 แบบ จะเลือกใช้แบบใดก็ได้ แต่ต้องให้มั่นใจว่าครอบคลุมเนื้อเยื่อเต้านมทั้งหมด ทั้งขอบด้านล่างเสื้อชั้นใน บริเวณหัวนม บริเวณใต้รักแร้ และไหปลาร้า อย่ายกนิ้วขึ้นจากเต้านมขณะคลำ แบบที่ 1 การคลำในแนวขึ้นลง จากบริเวณกระดูกไหปลาร้าจนถึงด้านล่างของทรวงอก โดยคลำจากใต้รักแร้ หรือตำแหน่งใต้แขนจนถึงฐานของเต้านม แล้วขยับนิ้วทั้งสามคลำในแนวขึ้นลง และสลับกันไปเรื่อย ๆ ให้ทั่วทั้งเต้านม แบบที่ 2 การคลำแบบแนวก้นหอย เริ่มคลำจากส่วนบนของเต้านมบริเวณลานหัวนมไปตามแนวก้นหอย จนกระทั่งถึงฐานเต้านม ครอบคลุมถึงบริเวณรักแร้ และไหปลาร้า และแบบที่ 3 การคลำแบบแนวรูปลิ่ม เริ่มคลำจากส่วนบนของเต้านมบริเวณลานหัวนมจนถึงฐานแล้วกลับขึ้นสู่ยอด อย่างนี้เรื่อย ๆ ให้ทั่วทั้งเต้านม ครอบคลุมถึงบริเวณรักแร้ และไหปลาร้า นอกจากนี้ ควรคลำเต้านมให้ได้ 3 ระดับ ดังนี้ กดเบา ให้รู้สึกถึงบริเวณใต้ผิวหนัง กดปานปลาง ให้รู้สึกถึงบริเวณกึ่งกลางเนื้อนม และกดหนัก ให้รู้สึกถึงเนื้อนมใกล้กระดูกอก เมื่อคลำพบก้อนที่โตระยะขนาด 2-5 เซนติเมตร อัตราการรอดชีวิตถึง 75-90%  แต่หากคลำพบก้อนขนาด 5 เซนติเมตรขึ้นไป อัตราการรอดมีเพียง 15-30% เท่านั้น


วิธีที่ 2 การตรวจด้วยเครื่องเอกซเรย์เต้านม (Mammogram) สามารถพบก้อนได้ตั้งแต่ขนาด 2-3 มิลลิเมตรขึ้นไป จากข้อมูลของมูลนิธิถันยรักษ์ในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี พบว่าระยะเริ่มต้น เป็นระยะที่มะเร็งยังไม่ลุกลามไปยังเนื้อเยื่อของเต้านม มีอัตรารอดชีพ 100% ลุกลามไปยังเนื้อเยื่อของเต้านม มีอัตรารอดชีพ 100% ขนาดไม่เกิน 2 เซนติเมตร มีอัตรารอดชีพ 98% ขนาดระหว่าง 2-5 เซนติเมตร มีอัตรารอดชีพ 88% ขนาดใหญ่มากกว่า 5 เซนติเมตร มีอัตรารอดชีพ 52% และระยะแพร่กระจายไปสู่อวัยวะอื่น มีอัตรารอดชีพ 16% ประชาชนจึงควรหมั่นตรวจเช็กร่างกายตนเอง และพบแพทย์เพื่อตรวจคัดกรองมะเร็งอย่างสม่ำเสมอ พร้อมทั้งออกกำลังกายเป็นประจำ กินผักและผลไม้ให้มากขึ้น ลดอาหารที่มีไขมัน ควบคุมน้ำหนักไม่ให้มีน้ำหนักเกิน จะช่วยป้องกันมะเร็งเต้านมได้

นพ.สมยศ ดีรัศมี ประธานมูลนิธิกาญจนบารมี กล่าวว่า มูลนิธิกาญจนบารมี เป็นมูลนิธิได้รับพระมหากรุณาธิคุณจาก พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ให้จัดตั้งขึ้นเพื่อป้องกันโรคมะเร็ง โดยมูลนิธิฯ ได้จัดทำโครงการคัดกรองมะเร็งเต้านมด้วยเครื่องเอกซเรย์เต้านมเคลื่อนที่ (Mammogram) ในสตรีกลุ่มเสี่ยงและด้อยโอกาส โดยได้ดำเนินการติดต่อกันอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2557 เป็นต้นมา ซึ่งหน่วยคัดกรองมะเร็งเต้านมเคลื่อนที่แต่ละหน่วย ประกอบด้วย รถเอกซเรย์เต้านมด้วยระบบดิจิทัล 2 มิติ และ 3 มิติ จำนวน 2 คัน รถสาธิตการตรวจเต้านม และรถนิทรรศการเกี่ยวกับมะเร็งเต้านม พร้อมเจ้าหน้าที่ทีมแพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ทั้ง 2 หน่วย ให้บริการประชาชนวันละ 1 อำเภอ ทั่วประเทศ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น โดยการให้บริการประกอบด้วย รณรงค์ให้สุขศึกษาเรื่องมะเร็งเต้านม คัดกรอง ค้นหา ผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งเต้านม แล้วนำผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงมาสอนวิธีการตรวจเต้านมด้วยตนเอง ตรวจเต้านม เอกซเรย์เต้านม และส่งต่อผู้ป่วยที่เป็นมะเร็งเต้านมในระยะเริ่มไปรักษาในโรงพยาบาลในจังหวัดนั้น ๆ ซึ่งผู้ที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลได้ที่มูลนิธิกาญจนบารมี โทรศัพท์ 0 2591 8185-6.-สำนักข่าวไทย                     


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

เตือนไทยตอนบนอากาศแปรปรวน มีพายุฝนฟ้าคะนอง ภาคใต้ฝนหนัก

กรมอุตุฯ ออกประกาศฉบับที่ 7 เตือนไทยตอนบนอากาศแปรปรวน มีพายุฝนฟ้าคะนอง ฟ้าผ่า ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่งในภาคเหนือและอีสาน ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณภาคใต้ และคลื่นลมแรงบริเวณอ่าวไทยตอนล่าง (มีผลกระทบในช่วงวันที่ 23-25 ก.พ.68)

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ส่งชาวจีนกลับบ้าน

เสร็จสิ้นภารกิจส่ง 621 เหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์กลับจีน

จบภารกิจส่งชาวจีนเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์และสแกมเมอร์เมืองเมียวดี ประเทศเมียนมา รวม 3 วัน 13 เที่ยวบิน ส่งกลับชาวจีน 621 คน ที่เหลือต้องรอการเจรจา 3 ฝ่าย ไทย จีน และเมียนมา กำหนดแนวทางรับตัวอีกครั้ง

ทำบุญครบรอบแตงโมเสียชีวิต

เพื่อนสนิททำบุญครบรอบ 3 ปี “แตงโม” เสียชีวิต

กลุ่มเพื่อนสนิทของ “แตงโม ภัทรธิดา” นักแสดงสาวผู้ล่วงลับ จัดพิธีทำบุญครบรอบ 3 ปี การเสียชีวิตของนางเอกคนดัง ที่วัดปากน้ำ ซ.พิบูลสงคราม 1 อ.เมือง จ.นนทบุรี