บทเรียนระดับโลกตบกลางเวทีออสการ์ “ผิดทั้งคู่”

กรุงเทพฯ 28 มี.ค. – นักวิชาการมองเหตุการณ์บนเวทีออสการ์ว่า ทั้ง “คริส ร็อก” และ “วิล สมิธ” ผิดทั้งคู่ เนื่องจากบุคคลสาธารณะต้องควบคุมอารมณ์ให้ได้ ความรุนแรงไม่ใช่การแก้ปัญหา และการนำจุดบกพร่องของคนอื่นมาพูดตลก ถือว่าไร้มารยาท


ดร.นันทนา นันทวโรภาส คณบดีวิทยาลัยสื่อสารการเมือง มหาวิทยาลัยเกริก กล่าวถึงกรณี “วิล สมิธ” นักแสดงระดับโลก ตบหน้า “คริส ร็อก” ดาวตลกที่ขึ้นไปประกาศรางวัลภาพยนตร์สารคดียอดเยี่ยม แต่กลับเล่นมุกตลกเกี่ยวกับทรงผมของ “เจดา พิงเกตต์ สมิธ” ภรรยาของ “วิล สมิธ” มีการหยอกล้อว่าที่เธอโกนศีรษะ เพราะเตรียมรับบททหารหญิงในเรื่อง จี.ไอ.เจน 2 ซึ่ง “เจดา” หน้าเสียทันทีที่โดนล้อ ทำให้ “วิล สมิธ” ไม่พอใจ ขึ้นไปตบหน้า “คริส ร็อก” กลางเวทีออสการ์

ดร.นันทนา กล่าวว่า การปรากฏตัวต่อหน้าสาธารณะ ต้องรู้จักกาลเทศะ โดยเฉพาะรางวัลออสการ์ มีคนดูทั่วโลก การที่ “คริส ร็อก” เป็นดาราตลกแล้วสร้างมุกตลก ต้องไม่ไปละเมิดคนอื่น นำมาสร้างเป็นมุกให้คนขำ ย้ำทำไม่ได้ ซึ่งจุดบกพร่องของคนอื่น ไม่ว่าจะเป็นสรีระ สูงต่ำ ดำขาว อ้วนผอม ผมมาก ผมน้อย ไม่สมควรนำมาสร้างเป็นมุกตลกเลย การที่ “คริส ร็อก” ไปล้อภรรยา “วิล สมิธ” แบบนั้น ถือว่าเป็นมุกตลกที่ไร้มารยาท ขาดวุฒิภาวะ ห้ามเด็ดขาด ไม่ควรใช้มุกตลกที่ทำร้ายคนอื่น


ส่วนกรณี “วิล สมิธ” เมื่อเจอปรากฏการณ์แบบนี้ เมื่อเป็นดาราใหญ่ บุคคลสาธารณะที่คนรู้จักทั่วโลก การตอบโต้ก็ไม่ควรทำแบบนั้น ซึ่งการขึ้นไปตบ “คริส ร็อก” บนเวที ถือว่าขาดวุฒิภาวะเช่นกัน บางคนอาจมองว่าทำแบบนี้สะใจ แต่ในฐานะที่ “วิล สมิธ” เป็นบุคคลสาธารณะ ทำแบบนั้นไม่ได้ จะเป็นตัวอย่างให้คนทำตาม เพราะคนจะมองว่า การใช้ความรุนแรงคือทางออก ดาราระดับฮอลลีวูดยังทำได้ มองว่า “ผิดทั้งคู่” ไม่ควรเกิดปรากฏการณ์แบบนี้ในเวทีระดับโลก

ดร.นันทนา บอกว่า ถือเป็นบทเรียนครั้งยิ่งใหญ่ของทั้ง 2 คน ต้องเป็นพิธีกรตลกที่ไม่ละเมิดคนอื่น จะเป็นตลกที่เจิดจรัสได้ ต้องเป็นมุกที่ไม่นำความบกพร่องของคนอื่นมาล้อเลียน และจะไม่ทำแบบนี้ในที่สาธารณะอีก มองว่าการที่ “วิล สมิธ” ร้องไห้ แปลว่าเขารู้ แต่ควบคุมอารมณ์ไม่ได้ ซึ่งส่งผลต่อภาพลักษณ์ ต้องควบคุมให้ได้ เพื่อเป็นตัวอย่างให้คนทั้งโลก แม้ว่าคนจะเห็นใจที่ภรรยาถูกล้อ แต่การตอบโต้ด้วยความรุนแรง ก็ส่งผลต่อภาพลักษณ์ในอนาคตได้เช่นกัน. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนขับแท็กซี่ตายคารถ กว่าจะรู้ผ่านไปหลายชม.

รถแท็กซี่จอดอยู่ป้ายรถเมล์ตั้งแต่เที่ยงจนถึงเย็น มีผู้โดยสารขึ้นรถ แล้วก็ลงมา แถมถูกบีบแตรไล่ จนพ่อค้าขายข้าวโพดต้มเข้าไปเรียกพบคนขับนอนคอพับเสียชีวิต

ถอนตัวWHO

“ทรัมป์” ลงนามในคำสั่งให้สหรัฐถอนตัวจากการเป็นสมาชิกอนามัยโลก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววานนี้ว่า สหรัฐจะออกจากการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก โดยเขาระบุว่า องค์การอนามัยโลกดำเนินการผิดพลาดในการรับมือกับโรคโควิด-19

พิตบูลขย้ำหัวพระ

“อเมริกันบูลลี่” ขย้ำหัวพระ-กัดข้อมือหาย มรณภาพคากุฏิ

สลด! หลวงพี่ เลขาเจ้าอาวาสวัด เลี้ยงอเมริกันบูลลี่ไว้ตั้งแต่เป็นลูกสุนัข ผ่านไปปีกว่า ถูกขย้ำหัวมรณภาพคากุฏิ ข้อมือขาดหายไป ยังหาไม่พบ

ข่าวแนะนำ

กทม.จำกัดพื้นที่ชั้นใน ห้ามรถบรรทุกวิ่ง เริ่มคืนนี้!

ผู้ว่าฯ กทม. ติดตามสถานการณ์ฝุ่น กทม. คาดสุดสัปดาห์ระบายอากาศดีขึ้น พร้อมจำกัดพื้นที่ชั้นใน ห้ามวิ่งรถบรรทุก เริ่มคืนนี้! ย้ำประชาชนช่วยสอดส่องการลอบเผา ต้นเหตุฝุ่น PM 2.5

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ตรวจสอบสิทธิ์เงินหมื่น

ตรวจสอบสิทธิ์เงินหมื่นคนอายุ 60+ ผ่านแอป “ทางรัฐ” ได้แล้ว

“จิรายุ” ย้ำเงินหมื่นเฟส 2 มอบคนอายุ 60+ รัฐบาลพร้อมโอนไม่มีเปลี่ยนแปลงแล้ว วันจันทร์ที่ 27 ม.ค.นี้ แน่นอน สามารถตรวจสอบสิทธิ์ผ่านแอป “ทางรัฐ” ได้แล้ววันนี้ ส่วนคนไม่มีสมาร์ทโฟน ฝากลูกหลานช่วยด้วย

นายกฯหารือบริษัทยา

นายกฯ ถกบริษัทยา Astrazeneca พร้อมร่วมมือด้านวิจัยและพัฒนาในไทย

บริษัทยาระดับโลก Astrazeneca หารือนายกฯ ยืนยันไทยยังเป็นพันธมิตรที่ดีมายาวนาน พร้อมร่วมมือด้านวิจัยและพัฒนาในไทยอย่างต่อเนื่อง ขณะที่นายกฯ มั่นใจการแพทย์ของไทยติดระดับโลก ยืนยันหลายประเทศทั่วโลกบินมารักษาในไทยจำนวนมาก