กรุงเทพฯ 23 มี.ค.- “ลิซ่า BLACKPINK” เดินทางกลับไทยในรอบ 3 ปี แฟนคลับแห่รอต้อนรับอบอุ่นแบบเว้นระยะห่าง แต่อีกมุมกลับโดน “พนักงานสนามบิน” วิ่งตามแห่รุมถ่ายรูปถึงรถ โลกโซเชียลตั้งข้อสงสัยนี่คือเวลางานเหมาะสมหรือไม่?
ลิซ่า BLACKPINK ไอดอลสาวไม่ได้กลับมาเยี่ยมบ้านเกิดที่ประเทศไทยเป็นเวลากว่า 3 ปี แต่ล่าสุดในวานนี้ (22 มีนาคม 2565) ลิซ่าเดินทางกลับมาประเทศไทย คาดว่าน่าจะมาพักผ่อนและเตรียมฉลองวันเกิดกับครอบครัวด้วย ในวันที่ 27 มีนาคม ที่กำลังจะถึงนี้
และการกลับมาของ ลิซ่า BLACKPINK ครั้งนี้แฟนคลับต่างก็พร้อมใจช่วยกันสร้างความประทับใจเช่วยกันดันแฮชแท็ก #มีนาแล้วมีลิซ่าด้วย จนติดเทรนด์อันดับ 1 ในทวิตเตอร์ ส่วนแฟนคลับบางคนก็ไปรอต้อนรับที่สนามบินกันอย่างอบอุ่นและนัดกันมาแล้วว่าจะไม่เข้าไปรุมลิซ่า โดยจะยืนต้อนรับแบบเว้นระยะห่าง
แต่ในอีกมุมกลับมีคลิปเผยแพร่ออกมาในโลกโซเชียลว่า พนักงานในสนามบินเข้าไปรุมถ่ายรูปลิซ่ากันอย่างเนืองแน่น อีกทั้งยังเดินขบวนวิ่งตามลิซ่าที่กำลังออกจากเกตสนามบินไปขึ้นรถอีก ด้วยเหตุนี้ทำให้แฟนคลับต่างพากันเป็นห่วง เพราะสถานการณ์โควิด-19 ก็ยังไม่ดีขึ้น และลิซ่าเคยติดโควิด-19 มาแล้วครั้งหนึ่ง และบางคนก็มองว่าพนักงานยังอยู่ในเวลาทำงาน แต่กลับตามรุมลิซ่าไปถึงรถ และลิซ่าก็เป็นผู้โดยสารคนหนึ่งจึงไม่ควรรบกวนกันตามที่มีภาพและคลิปปรากฏออกมา
เรื่องดังกล่าวจึงถูกร้องเรียนไปทางทวิตเตอร์ของท่าอากาศยานไทย อยากให้ตรวจสอบและพิจารณาพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ เพราะจากคลิปจะเห็นว่าเจ้าหน้าที่สนามบินรบกวนผู้โดยสารด้วยการวิ่งตามและรุมถ่ายภาพ โดยไม่รักษาระยะ ไม่เคารพความเป็นส่วนตัว
ด้านแอดมินของท่าอากาศยานไทย มีการตอบกลับมาว่า “สวัสดีค่ะ แอดมินต้องขออภัยสำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวด้วยนะคะ ทั้งนี้ แอดมินจะดำเนินการส่งเรื่องดังกล่าวให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อดำเนินการตรวจสอบตามกระบวนการข้อร้องเรียนต่อไปค่ะ แอดมินต้องขออภัยสำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยอีกครั้งค่ะ”
ด้านบรรยากาศที่ร้านจำหน่ายลูกชิ้นยืนกินบนสถานีรถไฟบุรีรัมย์ กลับมาคึกคักอีกครั้ง หลังมีข่าวว่า “ลิซ่า” ศิลปินดังระดับโลกเดินทางกลับมาฉลองวันเกิดกับครอบครัวที่ประเทศไทยเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปี ก็มีประชาชนและบรรดาแฟนคลับของ “ลิซ่า” แวะเวียนมาซื้อลูกชิ้นยืนกินอย่างไม่ขาดสาย ขณะที่บรรดาพ่อค้าแม่ค้าลูกชิ้นยืนกิน ต่างก็รู้สึกตื้นเต้นดีใจที่ทราบว่าน้องเดินทางมาเมืองไทยแล้ว และต่างหวังว่าน้องลิซ่าจะเดินทางมารับประทานลูกชิ้นยืนกินที่สถานีรถไฟอีกสักครั้ง ก็พร้อมให้น้องทานฟรีทุกร้าน และหากน้องได้มายืนกินลูกชิ้นจริงๆ เชื่อว่าจะทำให้กระแสลูกชิ้นยืนกินเอกลักษณ์หนึ่งเดียวของบุรีรัมย์กลับฟีเวอร์อีกครั้ง เพราะขนาดแค่น้องให้สัมภาษณ์และพูดว่าอยากกินลูกชิ้นยืนกินน้ำพริกเผาแค่คำเดียว ยังทำให้ลูกชิ้นยืนกินเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก และขายดิบขายดียอดทะลุวันเป็นแสน จากช่วงวิกฤตโควิด-19 ขายได้วันละไม่กี่ร้อยบาท ซึ่งบางร้านมีการนำรูปถ่ายที่แม่ค้าแต่งตัวเลียนแบบน้องลิซ่ามาติดไว้ที่ร้านด้วย เพื่อแสดงความขอบคุณและชื่นชอบในตัวน้องลิซ่า
เจ้าของร้านลูกชิ้นยืนกิน “ยายภา” และนางชุลีพร ร้านแชมป์ลูกชิ้นยืนกิน ต่างบอกตรงกันว่าหลังทราบว่าน้องลิซ่า เดินทางกลับมาฉลองวันเกิดกับครอบครัวที่เมืองไทย ก็รู้สึกตื้นเต้นดีใจมาก เพราะน้องเป็นคนที่ทำให้ลูกชิ้นยืนกินโด่งดังไปทั่วโลก ทั้งทำให้ขายดิบขายดีจนทำแทบไม่ทัน จากที่เคยขายได้วันละหลักร้อย เพียงชั่วข้ามคืนพุ่งทะลุเป็นหลักแสนบาท เหมือนเป็นคนที่ชุบชีวิตแม่ค้าลูกชิ้นยืนกินเลยก็ว่าได้ ก็แอบหวังว่าน้องลิซ่าจะเดินทางมากินลูกชิ้นที่บุรีรัมย์ด้วยตัวเองอีกครั้ง ซึ่งทุกร้านพร้อมให้น้องทานฟรี แต่หากน้องไม่ได้มาก็อยากจะขอบคุณน้องที่ไม่ลืมแม่ค้าลูกชิ้นยืนกินบุรีรัมย์ ทั้งนี้ แม่ค้าลูกชิ้นยืนกินยังได้ถือโอกาสกล่าวอวยพรวันเกิดล่วงหน้าให้กับน้องลิซ่าด้วย โดยต่างขอให้น้องมีสุขภาพแข็งแรง ดังๆ ปังๆ มีคนรักตลอดไป.-สำนักข่าวไทย