“โรงแรมนารายณ์” เงียบเหงา เตรียมจัดงาน 18 ก.พ.นี้ ก่อนปิดตำนาน

กรุงเทพฯ 15 ก.พ. – หลังปรากฏข่าว “ปิดตำนานโรงแรมนารายณ์” โรงแรมเก่าแก่ย่านสีลม เตรียมทุบทิ้งสร้างใหม่ วันนี้ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ พบว่า โรงแรมเงียบเหงา มีพนักงานบางส่วนมาทำงาน และเตรียมงาน “ร่วมบันทึก ความทรงจำโรงแรมนารายณ์” ในวันศุกร์ที่ 18 ก.พ.นี้


บรรยากาศโรงแรมนารายณ์ โรงแรมเก่าแก่ เปิดดำเนินกิจการมาแล้ว 54 ปี ที่ย่านถนนสีลม วันนี้ (15 ก.พ.) เป็นไปด้วยความเงียบเหงา มีพนักงานบางส่วนที่ยังมาทำงาน เนื่องจากโรงแรมได้หยุดดำเนินกิจการมาระยะหนึ่งแล้วตั้งแต่โควิดระบาด พนักงานที่มาวันนี้ เพื่อจัดเตรียมงาน ซึ่งใช้ชื่อว่า “ร่วมบันทึก ความทรงจำโรงแรมนารายณ์” ในวันศุกร์ที่ 18 กุมภาพันธ์นี้ โดยพนักงานทุกคนมาร่วมงาน เพื่อถ่ายภาพเป็นที่ระลึก รวมทั้งร่วมพิธีย้ายศาลพระนารายณ์ ซึ่งอยู่ชั้นดาดฟ้าของโรงแรม โดยวันนี้พนักงานมาจัดเตรียมสิ่งของและเครื่องเซ่นไหว้ เช่น ธูปจัดมัดรวมกันเป็นชุด ชุดละ 9 ดอก สำหรับพิธีสำคัญดังกล่าว โดยองค์พระนารายณ์ที่อยู่คู่โรงแรมมาตั้งแต่เริ่มต้น จะนำมาให้ประชาชนทั่วไปได้สักการะ เพื่อสร้างเป็นแลนด์มาร์กใหม่ในย่านสีลม

สำหรับโรงแรมนารายณ์ได้หยุดรับแขกทั่วไป ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2564 ปรับมาให้บริการเป็นโรงแรมคู่สัญญากับโรงพยาบาลเลิดสิน เป็นฮอสพิเทลรับผู้ป่วยสีเขียว ช่วงเดือนเมษายน-พฤศจิกายน 2564 กระทั่งเดือนธันวาคม 2564 ถึงปัจจุบัน ไม่ได้รับลูกค้าห้องพัก รับบริการจัดเลี้ยงนอกสถานที่ และพิซซ่า เดลิเวอรี เท่านั้น


โรงแรมนารายณ์ ก่อตั้งในปี พ.ศ. 2511 ซึ่งชื่อของโรงแรม เป็นการนำความยิ่งใหญ่และพระปรีชาสามารถอันเลื่องลือของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช หรือสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 3 ผู้ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ในรัชกาลที่ 27 สมัยกรุงศรีอยุธยา และพระนามของพระนารายณ์ มหาเทพผู้ยิ่งใหญ่ มาตั้งเป็นชื่อ “โรงแรมนารายณ์” โดยมี 5 จุดเด่นสำคัญ คือ ห้องพัก 500 ห้อง, ภัตตาคารหมุน 360 องศา ที่แรกในเมืองไทย, ร้านนารายณ์พิซเซอเรีย ซึ่งมีพิซซ่าต้นตำรับของเมืองไทยที่ขึ้นชื่อ และเรียกได้ว่าเป็นร้านอาหารอิตาเลียนร้านแรกๆ ของไทย, ห้องอาหารระเบียงทอง ซึ่งเป็นที่แรกๆ ที่ทำห้องอาหารบุฟเฟ่ต์นานาชาติ และเสิร์ฟ “ปลาแซลมอนซาชิมิ” ในไลน์อาหารบุฟเฟ่ต์ เป็นเจ้าแรกในเมืองไทย และเป็น Wedding Destination สามารถรองรับแขกได้ถึง 1,000 คน

ขณะที่ตลอด 54 ปี โรงแรมนารายณ์ ให้บริการห้องพักมาทั้งหมดกว่า 7,590,000 ห้อง โดยมีจำนวนผู้เข้าพักมากกว่า 15,180,000 คน และห้องอาหารระเบียงทองที่ขึ้นชื่อ มีแขกเข้ามารับประทานอาหารราว 30 ล้านคน ร้านนารายณ์พิซซาเรีย จำหน่ายพิซซ่าได้มากกว่า 3,550,000 ถาด และใช้ชีสคิดเป็นปริมาณกว่า 1,600,000 กิโลกรัม รวมถึงมีคู่รักแต่งงานที่จัดงานแต่งงานกับโรงแรมมามากกว่า 5,200 คู่รัก

ทั้งนี้ ทีมผู้บริหารโรงแรมนารายณ์ มีแนวคิด “ปรับ” เพื่อ “เปลี่ยน” สู่โฉมใหม่ ภายใต้แนวคิด Be Part of Everyone Community โดยเพิ่มพื้นที่สิ่งแวดล้อม และห้องพักในระดับลักชัวรี ใช้ระยะเวลาในการก่อสร้างประมาณ 4 ปี. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนขับแท็กซี่ตายคารถ กว่าจะรู้ผ่านไปหลายชม.

รถแท็กซี่จอดอยู่ป้ายรถเมล์ตั้งแต่เที่ยงจนถึงเย็น มีผู้โดยสารขึ้นรถ แล้วก็ลงมา แถมถูกบีบแตรไล่ จนพ่อค้าขายข้าวโพดต้มเข้าไปเรียกพบคนขับนอนคอพับเสียชีวิต

ถอนตัวWHO

“ทรัมป์” ลงนามในคำสั่งให้สหรัฐถอนตัวจากการเป็นสมาชิกอนามัยโลก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววานนี้ว่า สหรัฐจะออกจากการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก โดยเขาระบุว่า องค์การอนามัยโลกดำเนินการผิดพลาดในการรับมือกับโรคโควิด-19

พิตบูลขย้ำหัวพระ

“อเมริกันบูลลี่” ขย้ำหัวพระ-กัดข้อมือหาย มรณภาพคากุฏิ

สลด! หลวงพี่ เลขาเจ้าอาวาสวัด เลี้ยงอเมริกันบูลลี่ไว้ตั้งแต่เป็นลูกสุนัข ผ่านไปปีกว่า ถูกขย้ำหัวมรณภาพคากุฏิ ข้อมือขาดหายไป ยังหาไม่พบ

ข่าวแนะนำ

นายกฯ สวมกระโปรงผ้าปาเต๊ะ ร่วมประชุม WEF อวดผ้าไทยสู่สายตาโลก

นายกฯ สวมกระโปรงผ้าปาเต๊ะ จากภาคใต้ ร่วมประชุม WEF อวดผ้าไทยสู่สายตาโลก หารือผู้นำและภาคเอกชนชั้นนำของโลก

กทม.จำกัดพื้นที่ชั้นใน ห้ามรถบรรทุกวิ่ง เริ่มคืนนี้!

ผู้ว่าฯ กทม. ติดตามสถานการณ์ฝุ่น กทม. คาดสุดสัปดาห์ระบายอากาศดีขึ้น พร้อมจำกัดพื้นที่ชั้นใน ห้ามวิ่งรถบรรทุก เริ่มคืนนี้! ย้ำประชาชนช่วยสอดส่องการลอบเผา ต้นเหตุฝุ่น PM 2.5

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ตรวจสอบสิทธิ์เงินหมื่น

ตรวจสอบสิทธิ์เงินหมื่นคนอายุ 60+ ผ่านแอป “ทางรัฐ” ได้แล้ว

“จิรายุ” ย้ำเงินหมื่นเฟส 2 มอบคนอายุ 60+ รัฐบาลพร้อมโอนไม่มีเปลี่ยนแปลงแล้ว วันจันทร์ที่ 27 ม.ค.นี้ แน่นอน สามารถตรวจสอบสิทธิ์ผ่านแอป “ทางรัฐ” ได้แล้ววันนี้ ส่วนคนไม่มีสมาร์ทโฟน ฝากลูกหลานช่วยด้วย