กทม.สั่ง 50 เขต เปิดศูนย์พักคอยเพิ่ม

กรุงเทพฯ 15 ก.พ. – กทม.สั่งการ 50 เขต เปิดศูนย์พักคอยเพื่อส่งต่อฯ เพิ่ม หากมีผู้ป่วยครองเตียงเกิน 80% พร้อมเผยช่วง 1 ม.ค.-13 ก.พ.ที่ผ่านมา พบคลัสเตอร์ระบาดหลายแห่ง ทั้งสถานศึกษาตั้งแต่ระดับเตรียมอนุบาล-มัธยมศึกษา ในแคมป์คนงานก่อสร้าง และศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ


พล.ต.ท.โสภณ พิสุทธิวงษ์ รองผู้ว่าฯ กทม. เป็นประธานการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) สำนักอนามัย และสำนักการแพทย์ กทม. รายงานสถานการณ์ผู้ป่วยโควิด-19 รวมถึงการเตรียมพร้อมสถานพยาบาลเพื่อผู้ป่วยในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ในวันนี้ (15 ก.พ.) พื้นที่กรุงเทพมหานคร พบผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่ จำนวน 3,180 ราย และมีผู้เสียชีวิต จำนวน 8 ราย นอกจากนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-13 ก.พ.ที่ผ่านมา พบการระบาดในสถานศึกษา ตั้งแต่ระดับเตรียมอนุบาล-มัธยมศึกษา หลายแห่ง โดยพบผู้ติดเชื้อทั้งในกลุ่มครู นักเรียน และกลุ่มนักเรียนที่เก็บตัวฝึกซ้อมในโรงเรียน จากการสอบสวนโรคพบว่า สาเหตุและปัจจัยเสี่ยงในการระบาด ได้แก่ การติดเชื้อจากบุคคลในครอบครัว การติดเชื้อของครูผู้สอน การติดเชื้อจากจุดสัมผัสที่ใช้ห้องน้ำร่วมกัน และการทำกิจกรรมร่วมกันโดยที่ไม่ใส่หน้ากากอนามัย

นอกจากนี้ยังพบการติดเชื้อในแคมป์คนงานก่อสร้าง ซึ่งปัจจัยเสี่ยงเกิดจากการรับประทานอาหารร่วมกัน การดื่มน้ำจากกระติกเดียวกัน และการรวมกลุ่มพูดคุยโดยไม่ได้สวมใส่หน้ากากอนามัย การติดเชื้อในศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ ปัจจัยเสี่ยงเกิดจากผู้ที่มาจากข้างนอกศูนย์ฯ สัมผัสเชื้อหรือติดเชื้อ และนำมาแพร่สู่ผู้สูงอายุในศูนย์ฯ โดยขณะนี้มีอัตราผู้ป่วยครองเตียงในโรงพยาบาล ซึ่งอยู่ในความดูแลของสำนักการแพทย์ ร้อยละ 94.38 โรงพยาบาลสนาม ร้อยละ 83.68 Hospitel ร้อยละ 100 และศูนย์พักคอยเพื่อส่งต่อ ร้อยละ 36.28 อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้กรุงเทพมหานครได้ให้บริการวัคซีนกับกลุ่ม 608 (ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป กลุ่มที่มีโรคประจำตัว 7 กลุ่มโรค และหญิงตั้งครรภ์) เพื่อลดความเสี่ยงการติดเชื้อและการเกิดอาการรุนแรงของโรค ไปแล้วกว่า 2,214,467 คน โดยเป็นวัคซีนเข็มที่ 1 ร้อยละ 90.72 เข็มที่ 2 ร้อยละ 82.69 และเข็มที่ 3 ร้อยละ 41.02


ทั้งนี้ เนื่องจากมีแนวโน้มผู้ป่วยจำนวนมากขึ้น ที่ประชุมจึงได้มอบหมายให้ 50 เขต พิจารณาเปิดศูนย์พักคอยเพื่อส่งต่อเพิ่มเติม ในกรณีที่ศูนย์พักคอยฯ ซึ่งเปิดดำเนินการอยู่แล้ว มีจำนวนผู้ป่วยครองเตียงมากกว่าร้อยละ 80 และให้เร่งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบช่องทางการติดต่อ หากพบว่าตนเองติดเชื้อ โดยสามารถโทรแจ้งได้ที่สายด่วน สปสช. 1330 กด 14 และศูนย์ EOC ของ 50 สำนักงานเขต ได้ตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่สร้างความเข้าใจให้แก่สถานบริการที่แจ้งความประสงค์ปรับรูปแบบร้านเป็นร้านอาหารและได้รับอนุญาตแล้ว จำนวน 483 แห่ง ให้เข้ารับการประเมินมาตรฐาน Thai Stop Covid2Plus เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนหรือผู้มาใช้บริการ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก