กรุงเทพฯ 7 ก.พ.- สถาบันราชานุกูลเปิดฉีดวัคซีนเด็กกลุ่มเปราะบาง เด็กบกพร่องพัฒนาการและสติปัญญา 5-11 ปี พบมีความเสี่ยงติดเชื้อโควิด-19 สูงกว่าคนทั่วไปเกือบ 10 เท่า
พญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต ตรวจเยี่ยมศูนย์ฉีดวัคซีนสถาบันราชานุกูล ดินแดง กรุงเทพฯ พร้อมทั้ง เปิดโครงการ “Vaccinated Togeter ชวนลูกรับวัคซีนกัน” เพื่อฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้กลุ่มเด็กบกพร่องพัฒนาการและสติปัญญาที่มีอายุระหว่าง 5-11 ปี
พญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต เปิดเผยว่า กลุ่มเด็กบกพร่องพัฒนาการและสติปัญญาเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิด-19 เนื่องจากเด็กกลุ่มนี้มีความยากลำบากในการใช้ชีวิตประจำวัน ไม่สามารถป้องกันตัวเองจากเชื้อโรคได้ และบางส่วนมีโรคประจำตัวร่วมด้วย เมื่อเกิดการติดเชื้อโควิด-19 จะส่งผลต่อระบบต่างๆ ในร่างกาย จนมีอาการรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ ที่ผ่านมาพบว่าเด็กกลุ่มนี้มีอัตราการติดเชื้อและเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลสูงกว่าคนทั่วไปถึง 9.3 เท่า จึงต้องให้ความสำคัญให้เด็กได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 อย่างทั่วถึง หากเด็กกลุ่มนี้ได้รับวัคซีนโดยเร็ว จะช่วยป้องกันอาการรุนแรงจากการติดเชื้อโควิด-19 และช่วยให้เด็กสามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติ
กรมสุขภาพจิต โดยสถาบันราชานุกูล มีการประสานองค์กรและสมาคมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับเด็กออทิสติกหรือโรงเรียนสำหรับเด็กพิเศษ ให้นำเด็กมารับวัคซีน นอกจากนี้ ยังมีการทำงานเชิงรุกในการให้ข้อมูลของวัคซีน และเปิดลงทะเบียนให้ผู้ปกครองนำเด็กกลุ่มนี้เข้ารับการฉีดวัคซีน ซึ่งส่วนใหญ่ผู้ปกครองให้ความร่วมมือและต้องการให้บุตรหลานได้รับวัคซีนเพื่อป้องกันโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ สถาบันราชานุกูลเปิดบริการวัคซีนป้องกันโควิด-19 ไฟเซอร์สูตรฝาสีส้ม ให้กลุ่มเด็กบกพร่องพัฒนาการและสติปัญญาอายุระหว่าง 5-11 ปี มีเด็กเข้ารับวัคซีน 350 คน/วัน โดยเด็ก 1 คน อนุญาตให้มีผู้ปกครองดูแล 1 คน เพื่อลดความแออัด นอกจากนี้ ที่ผ่านมากรมสุขภาพจิตยังฉีดวัคซีนแก่ผู้ที่มีสติปัญญาบกพร่อง ออทิสติก และสมาธิสั้นอายุ 18 ปีขึ้นไป กว่า 3,800 คน และในเด็กอายุ 12-17 ปี กว่า 269 คน.- สำนักข่าวไทย