“แอลกอฮอล์วอช” ไม่ค้านปลดล็อกผลิตน้ำเมา

กทม. 5 ก.พ.- “แอลกอฮอล์วอช” ไม่ค้านปลดล็อกผลิตน้ำเมา ลดการผูกขาดทุนใหญ่ ทุนข้ามชาติ จี้ ส.ส.ในสภา ถกมาตรการคุ้มครอง สุขภาพ-สังคม ดึงคนผลิต คนขายร่วมรับผิดชอบตามกฎหมาย ลั่นอย่ามองแต่แง่ดี เล็งเพิ่มปริมาณอย่างเดียว

เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2564 นายคำรณ ชูเดชา ผู้ประสานงานเครือข่ายเฝ้าระวังธุรกิจสุรา กล่าวว่า ตามที่สภาผู้แทนราษฎร 21 คน ได้อภิปรายร่างแก้ไขกฎหมายภาษีสรรพสามิต ที่เสนอโดยนายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร ส.ส.พรรคก้าวไกล โดยมีสาระสำคัญคือ การกำหนดให้การผลิตสุราทำได้ทั่วไป ใครทำก็ได้ และยกเลิกการกำหนดคุณสมบัติของผู้ขออนุญาตฯ เกี่ยวกับขนาดกำลัง การผลิต กำลังแรงม้าเครื่องจักร จำนวนพนักงาน หรือ ประเภทบุคคลผู้มีสิทธิขออนุญาต รวมทั้งหากจะตั้งบริษัทจะไม่มีการกำหนดจำนวนทุนจดทะเบียนขั้นต่ำ ยกเว้นการกำหนดสัดส่วนผู้ถือหุ้นสัญชาติไทย ซึ่งกรณีนี้ถือเป็นมิติใหม่ที่ทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านต่างสนับสนุนเห็นด้วยกับร่างนี้ถึง 20 คน มีผู้คัดค้านเพียง 1 คน โดยหลักการทางเครือข่ายฯ ไม่ติดใจที่จะให้มีการแก้ไขกฎระเบียบการผูกขาดการผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพื่อลดการผูกขาด เปิดโอกาสให้รายย่อยลืมตาอ้าปากได้มากขึ้น ช่วยให้เกิดความเท่าเทียม ตอบโจทย์ทางเศรษฐกิจ และยังเป็นการส่งเสริมผู้ประกอบการรายใหม่ จุดนี้ในหลักการเราสนับสนุน แต่รัฐหรือรัฐสภาฯ ต้องมีมาตรการรองรับลดผลกระทบจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในมิติทางสาธารณะสุขและสังคมด้วย เพื่อให้เกิดความสมดุล ไม่ใช่มองแต่ในทางเศรษฐกิจด้านเดียว


“ผมเสนอว่าเมื่อแก้ไขหลักเกณฑ์การผลิตแล้ว ควรมีการกำหนดหลักเกณฑ์ ความรับผิดชอบของผู้ผลิต ผู้ขาย ผู้บริการ ต่อสังคมด้วย เช่น การเพิ่มราคาใบอนุญาตผู้ผลิตตามกำลังผลิต ตามหลักการผลิตมากจ่ายมาก ผลิตน้อยจ่ายน้อย หรือใบอนุญาตขายก็ควรมีการฝึกอบรมพนักงานขายและควรมีการรับรองใบอนุญาตพนักงานขาย เพื่อให้พนักงานมีความรู้ความเข้าใจกฎหมาย และบริการต่อผู้บริโภคได้อย่างปลอดภัย ไม่ใช่คนเมาแค่ไหนก็ไม่สนใจ ไม่ประเมิน ยังขายให้อีกทั้งที่มีกฎหมายห้ามไว้อยู่แล้วแต่ไม่สนใจ สุดท้ายก็นำไปสู่ปัญหาเมาแล้วขับ เจ็บตายพิการ หรือการขาดสติไปกระทำการอื่นๆ ที่ไม่เหมาะสมและผิดกฎหมายนำมาซึ่งความสูญเสียได้” นายคำรณ กล่าว

ด้าน นายชูวิทย์ จันทรส ผู้ประสานงานเครือข่ายรณรงค์ป้องกันภัยแอลกอฮอล์ กล่าวว่า โดยหลักการเรื่องนี้เป็นสิ่งที่ควรสนับสนุน เพราะต้องยอมรับว่านายทุนน้ำเมาขาใหญ่ในบ้านเราและทุนน้ำเมาข้ามชาติเป็นผู้ที่ทรงอิทธิพลต่อฝ่ายการเมือง ฝ่ายบริหารบ้านเมืองอย่างเห็นได้ชัด และยังเข้าไปแทรกแซงในองค์กรหน่วยงานต่างๆ ทั้งในรูปแบบนอมินี รวมถึงการสนับสนุน แล้วใช้ตราสัญลักษณ์ที่คล้ายกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไปโฆษณาแฝง ซึ่งกฎหมายเดิมเอาไม่อยู่ และเงื่อนไขที่กฎหมายสรรพสามิตเดิมกำหนดไว้ก็เอื้อกับทุนใหญ่จริง ยากที่รายเล็กรายน้อยจะเกิดหรือแข่งขันได้ แต่สิ่งสำคัญที่สุดไม่ว่าจะเป็นรายเล็กหรือรายใหญ่ ต้องยอมรับความจริงว่าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไม่ใช่สินค้าธรรมดา แต่เป็นสินค้าที่มีผลกระทบซึ่งทุกฝ่ายต่างรู้ดี เมื่อผลิตมาก ขายมาก ย่อมมีอัตราการดื่มมาก และผลกระทบย่อมมากตามไปด้วย


“ในระดับโลกพบว่า ทุกปีมีผู้เสียชีวิตจากแอลกอฮอล์มากกว่า 3 ล้านคน ขณะที่องค์การอนามัยโลกได้กำหนดเป้าหมายเรื่องNCDs Global Action Plan 2025 ให้ทุกประเทศลดปัญหาการดื่มแอลกอฮอล์ 10% โดยกำหนดตัวชี้วัดให้ลดความชุกของการดื่มต่อประชากร ลดสัดส่วนการเสียชีวิตจากแอลกอฮอล์ต่อประชากร เป็นต้น ส่วนประเทศไทยพบผู้ป่วยโรค NCDs จำนวนมาก และเป็นสาเหตุอันดับหนึ่งในการเสียชีวิตของคนไทย โดยพบว่าโรคมะเร็ง หลอดเลือดในสมอง หัวใจขาดเลือด เบาหวาน พบการเสียชีวิตรวมกว่า 150,000 ราย ซึ่งโรคเหล่านี้มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นปัจจัยร่วมที่สำคัญของการเสียชีวิต” นายชูวิทย์ กล่าว

นายชูวิทย์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้จากการทำงานเพื่อแก้ปัญหาจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วง 10 กว่าปีที่ผ่านมา กว่าจะทำให้คนเลิกเหล้าได้ 1 คนนั้น ต้องใช้เวลาและสรรพกำลังมากมาย เพราะปัญหามีความซับซ้อน ต่อให้เราทำงานหนักแค่ไหนก็ไม่สามารถลดปัญหานี้ได้มากนักเพราะฝ่ายคนผลิต คนขายยังลอยตัวเหนือปัญหา สร้างวาทกรรมที่โยนความรับผิดชอบให้เป็นของผู้ดื่ม แต่แทบไม่เห็นความพยายามในการดึงผู้ผลิต ผู้ขายเข้ามาร่วมรับผิดชอบต่อผลกระทบที่เกิดขึ้น ตนจึงอยากเห็นพรรคการเมือง ส.ส.ในสภาฯ ช่วยกันคิดหามาตรการลดผลกระทบให้จริงจังกว่านี้ โดยศึกษาจากต่างประเทศ อาทิ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ฝรั่งเศส เยอรมัน สก็อตแลนด์ สวีเดน รวมถึงมาตรการจำกัดใบอนุญาตขายตามสัดส่วนจำนวนประชากร เพราะปัจจุบันประเทศไทยมีใบอนุญาตขายเกือบ 6 แสนใบ ถือว่ามากที่สุดในโลก

“ย้ำว่าอย่ามองแต่ด้านดีของกฎหมายให้ผลิตได้อย่าง เสรีอย่างเดียว ถึงเวลาต้องควบคุมลดจำนวนให้มีผู้ขายที่มีคุณภาพ สร้างปัญหาน้อย มากกว่ามุ่งเน้นปริมาณ” นายชูวิทย์ กล่าว .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

รวบหนุ่มจีนพร้อมสาวไทย เอี่ยวฟอกเงินหลอกลงทุนคริปโต

ตำรวจไซเบอร์รวบหนุ่มจีนพร้อมสาวไทย กินหรูอยู่สบาย เอี่ยวฟอกเงินขบวนการหลอกลงทุนคริปโต พบเกี่ยวพันอีก 28 คดี มูลค่าความเสียหายกว่า 30 ล้านบาท

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ