กรุงเทพฯ 4 ก.พ.- มูลนิธิไทยโรดส์ เผยผลสำรวจพฤติกรรมหยุดรถทางม้าลาย 12 แห่งในกรุงเทพฯ พบ 89% ไม่หยุดให้คนข้าม จุดหมอกระต่ายถูกชน รถไม่จอดให้ข้ามถึง 94% ส่วนใหญ่เป็นรถจักรยานยนต์ถึง 92% แนะควรสร้างระบบความปลอดภัยควบคู่การบังคับใช้กฎหมายสร้างจิตสำนึกผู้ใช้รถใช้ถนน
นางสาวรุ่งอรุณ ลิ้มฬหะภัณ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนการควบคุมปัจจัยเสี่ยงทางสังคม สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า จากกรณี พญ.วราลัคน์ สุภวัตรจริยากุล หรือ หมอกระต่ายถูกบิ๊กไบก์ชนขณะเดินข้ามทางม้าลายจนเสียชีวิต สสส. จึงร่วมกับ มูลนิธิไทยโรดส์ (ThaiRoads Foundation) สำรวจพฤติกรรมการหยุดรถบริเวณทางข้ามม้าลายในเขตกรุงเทพมหานครจำนวน 12 จุด ได้แก่
1. บิ๊กซีสะพานควาย
2. ออลซีซั่นเพลส
3. พหลโยธินซอย 19
4. ประดิพัทธ์ซอย 19
5. สถาบันโรคไตภูมิราชนครินทร์
6. สุขุมวิทซอย 33
7. สุขุมวิทซอย 21
8. ตลาดยิ่งเจริญ
9. สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ
10. เอกมัยซอย 2
11. ลาดหญ้าซอย 3 และ
12. โรงพยาบาลราชวิถี
โดยทั้ง 12 จุดทางข้ามม้าลายมีลักษณะคล้ายกับจุดที่หมอกระต่ายถูกรถชนคือ เป็นถนน 4-6 ช่องจราจรแบบไปกลับ อยู่ห่างจากแยกสัญญาณไฟจราจร มีเครื่องหมายทางม้าลาย ป้ายเตือน และไม่มีสัญญาณไฟจราจรกดปุ่มสำหรับคนเดินข้าม
จากการสำรวจพฤติกรรมการหยุดรถบริเวณทางข้ามม้าลาย 12 จุดระหว่างวันที่ 25-27 มกราคม 2565 แบ่งเป็น รถจักรยานยนต์ 6,449 คัน รถยนต์ 7,619 คัน และรถโดยสาร 285 คัน รวม 14,353 คัน พบว่า 89% ไม่หยุดรถเมื่อมีคนมายืนรอเพื่อข้ามถนน มีเพียง 11% ที่หยุดรถ โดยรถจักรยานยนต์ไม่หยุดให้คนข้ามมากที่สุดถึง 92% คิดเป็นสัดส่วน 8% เท่านั้นที่หยุดรถให้คนข้าม รองลงมาคือ รถยนต์ไม่หยุดรถ 86% และรถโดยสารไม่หยุดรถ 80%
นางสาวรุ่งอรุณ กล่าวด้วยว่า ผลสำรวจยังพบว่าทางม้าลายบริเวณสถาบันโรคไตภูมิราชนครินทร์ จุดที่หมอกระต่ายถูกชนขณะเดินข้าม มีรถไม่หยุดให้คนข้ามมากถึง 94% ทั้งที่เกิดเหตุหมอกระต่ายถูกชนบริเวณดังกล่าวได้เพียงไม่นาน จึงควรมีระบบสร้างความปลอดภัยบนทางม้าลาย ควบคู่กับการใช้มาตรการทางกฎหมายอย่างเข้มข้น.-สำนักข่าวไทย