กรุงเทพฯ 24 ม.ค. – อย. ดันร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง ห้ามใช้นันทนาการ ปลูกในครัวเรือนต้องจดแจ้ง หากใช้เชิงพาณิชย์ต้องขออนุญาต คาดปี 68 สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า 15,000 ล้านบาท
นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เปิดเผยว่า อย.ได้จัดทำร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง พ.ศ. … เพื่อให้สามารถนำกัญชา กัญชง มาใช้ประโยชน์ควบคู่ไปกับการที่คณะกรรมการควบคุมสาเสพติดให้โทษ มีมติเห็นชอบร่างประกาศกระทรวงสาธารณสุขให้กัญชา กัญชง พ้นจากยาเสพติดให้โทษประเทษ 5 โดยร่าง พ.ร.บ.ที่ อย.จัดทำขึ้น เน้นการใช้ประโยชน์จากกัญชา กัญชง อย่างเต็มที่และควบคุมการนำไปใช้ในทางที่ไม่ถูกต้อง มี 52 มาตรา 10 หมวด สาระสำคัญคือการห้ามนำกัญชา กัญชง ไปใช้แบบนันทนาการ เว้นแต่พื้นที่ที่คณะกรรมการกำหนด เช่น การกำหนดเเซนบ็อกซ์ สามารถทำได้ ห้ามไม่ให้มีการใช้ในบุคคลอายุต่ำกว่า 20 ปี หญิงตั้งครรภ์ ขณะที่การปลูก บุคคลธรรมดา และนิติบุคคลสามรถปลูกได้ กำหนดให้การใช้ในครัวเรือน การปลูกเพื่อปรุงยาทางแพทย์แผนไทย หรือหมอพื้นบ้านจะต้องจดแจ้งในจังหวัดนั้น ๆ แต่หากปลูกในเชิงพาณิชย์และอุตสาหกรรม ผู้ใดจะผลิต นำเข้า ส่งออก ขาย หรือโฆษณา การแปรรูปโดยเฉพาะการสกัด สารสกัดจากกัญชา กัญชง ต้องขออนุญาตกับเลขาธิการ อย. หรือผู้ที่เลขาธิการ อย.มอบหมาย ใบอนุญาต มีอายุ 3 ปี หากนำไปทำเป็นผลิตภัณฑ์ เช่น ยา อาหาร เครื่องสำอาง ต้องขออนุญาตตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องด้วย
นพ.ไพศาล กล่าวว่า กัญชา กัญชง เป็นพืชสมุนไพรและสามารถเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ จึงต้องการให้ประชาชนนำไปใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่โดยเฉพาะทางการแพทย์ ยา เครื่องสำอาง อาหาร เครื่องดื่ม คาดว่าในปี 2568 จะมีมูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า 15,770 ล้านบาท หาก พ.ร.บ.ฉบับนี้ มีผลบังคับใช้ จะทำให้ประชาชนเข้าถึงผลิตภัณฑ์จากกัญชากัญชงง่ายขึ้น
เลขาธิการ อย. ระบุด้วยว่า การจัดทำร่าง พ.ร.บ. ฉบับนี้ เป็นคนละส่วนกับ การที่ ป.ป.ส. จะประชุมเพื่อลงมติร่างประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง การระบุชื่อยาเสพติดให้โทษ ประเภท 5 ในวันพรุ่งนี้ หากร่างฉบับนี้มีผลบังคับใช้การขออนุญาตอย่างถูกต้อง ตาม พ.ร.บ.ฉบับนี้ ประชาชนก็สามารถใช้ประโยชน์จากกัญชาได้โดยไม่ผิดกฎหมาย และไม่กระทบกับอนุสัญญาระหว่างประเทศ เนื่องจากการอนุญาตให้ใช้ประโยชน์จากกัญชา ตามร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว มีหน่วยงานที่ชัดเจนในการควบคุม ขั้นตอนจากนี้จะมีการทำประชาพิจารณ์ส่งไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้ความเห็นชอบ เพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป คาดว่าในเดือนหน้าจะมีความชัดเจน. -สำนักข่าวไทย