คัดกรองเชิงรุกด้วย ATK ‘9 วันตรวจได้ 6,278 คน พบผลบวก 211 คน’

กทม. 23 ม.ค.- สปสช.เผยผลดำเนินการตรวจคัดกรองโควิด-19 เชิงรุกด้วยชุดตรวจ ATK ที่ใช้โดยนักเทคนิคการแพทย์ ที่ศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะ ระหว่าง 11-21 ม.ค. 2565 มีผู้เข้ารับการตรวจ 6,278 คน ผลเป็นบวก 211 คน คิดเป็นสัดส่วน 3.36% ส่งตัวเข้า Home Isolation และ Hospitel ได้ทั้งหมด พร้อมขอบคุณทีมจิตอาสาสนับสนุนชุด PPE หน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์ และช่วยคีย์ข้อมูลผู้ป่วยเข้าระบบ Home Isolation

ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เปิดเผยผลการตรวจคัดกรองโควิด-19 ด้วย ATK ที่ศูนย์ราชการ ถนนแจ้งวัฒนะ ระหว่างวันที่ 11-21 ม.ค. 2565 ที่ผ่านมา พบว่ามีประชาชนที่สนใจมารับการคัดกรองทั้งสิ้น 6,278 คน ผลเป็นลบ 6,067 คนหรือ 96.64% ส่วนผู้ที่มีผลเป็นบวก มีจำนวน 211 คน คิดเป็นสัดส่วน 3.36% โดยผู้ติดเชื้อทั้ง 211 คนนี้ ได้รับการส่งตัวเข้ารักษาในระบบ Home Isolation 56 ราย เริ่มมีอาการและรักษาใน Hospitel ของโรงพยาบาลปิยะเวท 94 ราย ส่งตัวไปรักษาในพื้นที่เขตสุขภาพที่ 4 จำนวน 42 ราย และส่งต่อไปยังโรงพยาบาลหรือเขตสุขภาพอื่นๆอีก 19 ราย


ทพ.อรรถพร กล่าวว่า เนื่องจากโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนเริ่มระบาดตั้งแต่ช่วงเทศกาลปีใหม่ เพื่อให้ตรวจพบและคัดแยกผู้ติดเชื้อเข้าสู่ระบบการรักษาได้เร็ว สปสช.จึงจัดทำโครงการตรวจคัดกรองเชิงรุกด้วย ATK ที่ใช้โดยนักเทคนิคการแพทย์ โดยร่วมมือกับคณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยมหิดล ในการสนับสนุนนักเทคนิคการแพทย์ และบริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด ซึ่งสนับสนุนในด้านสถานที่ นอกจากนี้ยังต้องขอขอบคุณนายอัครพล ทองธราดล ผู้ประกาศข่าวช่อง 8, น.ส.ธิรดา แหวนวิเศษ จากทีมจิตอาสา “ทีมนาถะ” ในนามหลวงพ่ออลงกต วัดพระบาทน้ำพุ ที่ส่งมอบของบริจาค เช่น ชุด PPE, หน้ากากอนามัยชนิด N95, เจลแอลกอฮอล์ เพื่อสนับสนุนจุดตรวจโควิดในครั้งนี้ รวมทั้งขอขอบคุณ น.ส.ธันยพัต สำราญใจ จิตอาสาจากกลุ่มไลน์ “สปสช-ตรวจโควิด” ที่ช่วยเจ้าหน้าที่คีย์ข้อมูลประชาชนที่ผลตรวจพบว่าติดเชื้อเพื่อเข้าสู่กระบวนการรักษาแบบ Home Isolation

“สปสช.ขอเป็นตัวแทนประชาชนขอบคุณทีมจิตอาสาที่ให้การช่วยเหลือมาโดยตลอด อย่างช่วงโควิด-19 ระบาดในระลอก 4 ที่ผ่านมา สปสช.ก็ได้การช่วยเหลือจากทีมจิตอาสานี้เป็นพลังช่วยดูแลประชาชนและยังคงทำงานต่อเนื่องมาถึงปัจจุบัน ทั้งการเป็นจิตอาสาตอบไลน์ประชาชนในไลน์ สปสช-ตรวจโควิด และการลงพื้นที่ช่วงน้ำท่วม รวมถึงการปฏิบัติงานที่หน่วยตรวจโควิด-19 เชิงรุกร่วมกัน” ทพ.อรรถพร กล่าว


ด้าน ศ.ดร.ฉัตรเฉลิม อิศรางกูร ณ อยุธยา คณบดีคณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า ผลการตรวจคัดกรองช่วง 9 วันนี้ สามารถแบ่งออกเป็น วันที่ 11 ม.ค. คัดกรอง 638 คน เป็นผลลบ 617 คน (96.7%) และผลบวก 21 คน (3.3 %) วันที่ 12 ม.ค. คัดกรอง 813 คน เป็นผลลบ 787 คน (96.8%) และผลบวก 26 คน (3.2 %) วันที่ 13 ม.ค. คัดกรอง 653 คน เป็นผลลบ 632 คน (96.8%) และผลบวก 21 คน (3.2%) วันที่ 14 ม.ค. คัดกรอง 937 คน เป็นผลลบ 919 คน (97.3%) และผลบวก 18 คน (2.7%)

วันที่ 17 ม.ค. คัดกรอง 845 คน เป็นผลลบ 816 คน (96.6%) และผลบวก 29 คน (3.4 %) วันที่ 18 ม.ค. คัดกรอง 652 คน เป็นผลลบ 622 คน (95.4%) และผลบวก 30 คน (4.6%) วันที่ 19 ม.ค. คัดกรอง 561 คน เป็นผลลบ 540 คน (96.1%) และผลบวก 21 คน (3.9 %) วันที่ 20 ม.ค. คัดกรอง 503 คน เป็นผลลบ 476 คน (94.6%) และผลบวก 27 คน (5.4%) และวันสุดท้ายของโครงการ วันที่ 21 ม.ค. คัดกรอง 676 คน เป็นผลลบ 658 คน (97.3%) และผลบวก 18 คน (2.7%) รวมจำนวนทั้งหมด 6,278 คน มีผลเป็นบวก 211 คน หรือ 3.36% ของจำนวนผู้ที่เข้ารับการคัดกรองทั้งหมด

ศ.ดร.ฉัตรเฉลิม กล่าวว่า ผู้ที่ผลตรวจเป็นบวก กรณีที่ไม่มีอาการ จะได้รับการจับคู่กับสถานพยาบาลเข้าระบบการดูแลที่บ้าน หรือ Home Isolation ส่วนกลุ่มที่เริ่มมีอาการ จะส่งต่อเข้าระบบ Hospitel ซึ่งการดำเนินการในครั้งนี้สามารถส่งต่อเข้าระบบการรักษาทั้ง 2 แบบได้ทั้งหมด โดยมีรถ Ambulance ของโรงพยาบาลปิยะเวท และรถรับส่งจากกรมขนส่งทหารบกช่วยอำนวยความสะดวกในการเคลื่อนย้ายผู้ติดเชื้อ .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

เขมรยิงจรวดตกใส่ชาวบ้านกันทรลักษ์ เสียชีวิตอีก 1 ราย

ศรีสะเกษ 27 ก.ค. – ไม่เลือกเป้าหมาย! กัมพูชายิงจรวดตกใส่บ้านเรือนประชาชน ต.บึงมะลู อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ชาวบ้านเสียชีวิตอีก 1 ราย บาดเจ็บ 1 คน ด้าน ผบ.ตร.ลงพื้นที่ศรีสะเกษ กำชับดูแลทรัพย์สินประชาชน ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ทำหน้าที่แข็งขัน .-สำนักข่าวไทย

เหตุปะทะชายแดนสุรินทร์รุนแรง ขยายวงกว้าง ยอดอพยพเพิ่ม

สุรินทร์ 27 ก.ค. – สถานการณ์การสู้รบตามแนวชายแดนไทยกัมพูชาด้าน จ.สุรินทร์ มีแนวโน้มรุนแรงขึ้นและขยายวงกว้าง โดยเฉพาะด้านปราสาทตาควาย และปราสาทตาเมือนธม ทำให้มีผู้อพยพตามศูนย์พักพิงชั่วคราวพุ่งทะลุกว่า 50,000 คน เวลาราว 04.30 น. วันนี้มีการเปิดฉากปะทะกันอย่างหนัก ทั้งปืนเล็ก และปืนใหญ่ บริเวณปราสาทตาควาย ต่อด้วยปราสาทตาเมือนธม ที่อยู่ไม่ไกลกัน พื้นที่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ส่งผลให้กระสุนจรวด BM 21 ตกใส่บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายทั้งหลัง ใกล้กัน ฟาร์มวัววากิว ยังมีวัวถูกสะเก็ดตาย 6 ตัว กระสุนยังตกกระจายตามทุ่งนารวม 9 ลูก ในพื้นที่ตำบลบ้านพลวง อำเภอปราสาท ส่วนตำบลตาเมียง และตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก ก็มีกระสุนเข้าไปตกเป็นจำนวนมากเช่นกัน วิถีกระสุนที่มาตกไกลขึ้น ทำให้ศูนย์พักพิงชั่วคราวในตัวอำเภอปราสาทจังหวัดสุรินทร์ ต้องยุบเพิ่มเติมอีก 2 จุด ขณะที่ชาวอำเภอปราสาท ต่างแตกตื่นปิดบ้าน ปิดร้าน อพยพไปอยู่ในที่ปลอดภัย ทำให้บรรยากาศในตลาดสดที่ปกติมีพ่อค้าแม่ค้ามาขายของจำนวนมาก วันนี้ลดลงถึง 80% โดยนายอำเภอปราสาท ให้ข้อมูลว่า […]

กต. ลั่นจะพูดคุยกัน เขมรต้องจริงใจก่อน ซัดพูดอย่างทำอย่าง แถมบิดเบือน

กระทรวงการต่างประเทศ 27 ก.ค.- กต. ขีดเส้นใต้ จะพูดคุยกันได้ “เขมร” ต้องจริงใจก่อน “นิกรเดช” ซัดพูดอย่างทำอย่าง นอกจากใช้พลเรือนเป็นโล่กำบังแล้ว ยังใช้โบราณสถานกำบังด้วย แถมบิดเบือน-สร้างข้อมูลเท็จ ผู้เชี่ยวชาญยังรู้เป็นภาพเก่า รับทราบพรุ่งนี้ “ภูมิธรรม” บินคุย “ฮุน มาเนต” หลัง “ทรัมป์” ต่อสายคุย เผย “มาริษ” ร่อนแล้ว เอกสารถึง UNICEF-OHCHR ยันกัมพูชาเริ่มก่อน นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ข้อเสนอหยุดยิงตามที่หลายท่านคงทราบอยู่แล้วเมื่อคืนที่ผ่านมา (26 ก.ค.68) นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรี ได้หารือกับนายโดนัล ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา โดยฝ่ายไทยได้ยืนยันอย่างหนักแน่นถึงจุดยืนของไทยในการแก้ไขปัญหาชายแดนกับกัมพูชาด้วยสันติวิธี โดยเฉพาะผ่านการเจรจาทวิภาคี ซึ่งฝ่ายไทยเราได้ย้ำมาโดยตลอดในทุกโอกาส ฝ่ายไทยจึงคาดหวังว่าจะเห็นความตั้งใจจริงจากกัมพูชา ในการยุติการใช้ความรุนแรง โดยเฉพาะเรื่องการโจมตีที่ไม่เลือกเป้าหมาย หากฝ่ายกัมพูชาแสดงความจริงใจและสุจริตใจในการแก้ไขปัญหา ฝ่ายไทยก็พร้อมจะหารือด้วย เพื่อร่วมกันกำหนดมาตรการและกระบวนการที่ชัดเจนอย่างสันติและยั่งยืน นายนิกรเดช กล่าวต่อว่า การโจมตีเป้าหมายพลเรือนโดยกองกำลังกัมพูชาบนแผ่นดินไทยเหตุการณ์เมื่อคืน กัมพูชาได้เปิดฉากโจมตีหลายจุดตามแนวชายแดนไทยอีกครั้ง […]

ทอ.ส่ง F-16 ทิ้งบอมบ์ หลังกัมพูชายิง BM-21 ตกฝั่งไทย

27 ก.ค. – กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 บอมบ์ถล่มพื้นที่เป้าหมาย หลังทหารกัมพูชายิงจรวด BM-21 ใส่ปราสาทตาเมือนธม ซึ่งเป็นพื้นที่อธิปไตยของไทย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเที่ยงที่ผ่านมา กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 หมู่ 4 ลำ ออกไปปฏิบัติภารกิจ บริเวณปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควาย อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ โดยภารกิจสำเร็จลุล่วง พร้อมกลับฐานปฏิบัติอย่างปลอดภัย เพื่อสนับสนุนกำลังทางบก ปกป้องอธิปไตยของไทย ด้าน พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก โพสต์เฟซบุ๊ก เพจกองทัพบก ระบุข้อความว่า กัมพูชายังมีการเคลื่อนไหว ด้วยการใช้อาวุธ ยิงสนับสนุนระยะไกล ยิงเข้ามาในฝั่งไทย บริเวณหน้าแนวมีการปะทะในหลายจุดอย่างต่อเนื่อง พบมีอาวุธยิงสนับสนุนระยะไกลไปตกนอกเขตพื้นที่เป้าหมายทางทหารจำนวนมากในจังหวัดสุรินทร์ ฝ่ายไทยเรามีความจำเป็นจะต้องใช้ปฏิบัติการทางทหาร ดำเนินการตอบโต้ต่ออาวุธยิงสนับสนุนระยะไกลอย่างเช่น จรวด และปืนใหญ่ ที่ยังคงยิงเข้ามาอย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้พี่น้องได้รับผลกระทบ หรือมีการสูญเสีย และเมื่อวานนี้ (26 ก.ค.68) เวลาประมาณ 15.30 น. […]