สธ. เตือนยิ่งดื่มคลายหนาวยิ่งเสี่ยงสูญเสียความร้อน

กรุงเทพฯ 22 ม.ค.-โฆษก ก.สาธารณสุข เตือนภาวะช็อกจากอากาศหนาว “ไฮโปเทอร์เมียร์” หลังเริ่มพบผู้เสียชีวิตในพื้นที่อากาศหนาวเย็นลง แนะสร้างความอบอุ่นร่างกาย ห้ามดื่มสุราคลายหนาว เพราะยิ่งดื่มยิ่งสูญเสียความร้อนในร่างกาย จนอุณหภูมิร่างกายต่ำ และเสียชีวิตได้


นพ.รุ่งเรือง กิจผาติ ที่ปรึกษาระดับกระทรวง และโฆษกกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีพบผู้เสียชีวิตจากอากาศหนาวเย็นฉับพลันว่า ช่วงนี้เริ่มมีอากาศกลับมาหนาวเย็นในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และพบว่ามีประชาชนบางส่วนดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพราะเชื่อว่าจะทำให้ร่างกายอบอุ่น คลายหนาวและลดความปวดเมื่อย ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ผิด เนื่องจากฤทธิ์ของแอลกอฮอล์จะทำให้ผู้ดื่มมีความรู้สึกอบอุ่นขึ้นเพียงชั่วครู่จากการที่หลอดเลือดฝอยขยายตัว และจะเป็นช่องทางระบายความร้อนออกจากร่างกาย ยิ่งดื่มแอลกอฮอล์มาก ความร้อนก็จะถูกระบายออกจากร่างกายมากขึ้น ทำให้เกิดภาวะอุณหภูมิในร่างกายต่ำลงกว่าปกติ หรือ “ไฮโปเทอร์เมีย (hypothermia)” ซึ่งทำให้เกิดความเสียหายต่ออวัยวะในร่างกาย นอกจากนี้ การดื่มแอลกอฮอล์ยังเป็นสาเหตุของการการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนทำให้สูญเสียชีวิตและทรัพย์สินด้วย

“หากดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมากจะกดประสาทส่วนกลางทำให้เกิดอาการง่วง ซึม หลับไปท่ามกลางอากาศหนาวเย็น และหากมีเครื่องนุ่งห่มให้ความอบอุ่นไม่เพียงพอ จะเสี่ยงต่อการเสียชีวิตได้สูง เนื่องจากเมื่อร่างกายสัมผัสอากาศเย็นเป็นเวลานาน เลือดจะหนืดขึ้น ส่งผลต่อการไหลเวียนไปยังอวัยวะต่างๆ ทำให้ขาดออกซิเจน หัวใจจะทำงานหนักเพื่อสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกาย อาจทำให้ช็อกและเสียชีวิตได้” นพ.รุ่งเรืองกล่าว


นพ.รุ่งเรือง กล่าวต่อว่า กระทรวงสาธารณสุขขอแนะนำ 6 วิธีปฏิบัติตนในภาวะอากาศหนาว ดังนี้

  1. ดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงด้วยการรับประทานอาหารครบ 5 หมู่ ดื่มน้ำอุ่มช่วยปรับสมดุลร่างกาย ออกกำลังกายสม่ำเสมอกระตุ้นให้ร่างกายได้รับความอบอุ่นภายใน ไม่ควรอาบน้ำอุ่นบ่อยเกินไป อาจทำให้ผิวแห้งเสีย และทาผลิตภัณฑ์รักษาความชุ่มชื่นของผิว
  2. เตรียมเครื่องนุ่งห่มกันหนาวให้พร้อมและทำความสะอาดเสื้อผ้าหรือผ้าห่ม โดยเฉพาะเสื้อผ้ามือสองให้แช่ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อหรือต้ม เพื่อป้องกันโรคผิวหนัง
  3. งดดื่มสุราหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดในช่วงภาวะอากาศหนาว เนื่องจากเป็นปัจจัยเสริมสำคัญทำให้เสี่ยงต่อการเสียชีวิตในช่วงอากาศหนาวได้
  4. ระมัดระวังและสังเกตอาการผู้ป่วยที่กินยาบางชนิด เช่น ยากล่อมประสาท ยารักษาอาการชัก ที่มีผลทำให้อุณหภูมิร่างกายลดต่ำลง
  5. ในช่วงอากาศหนาวอาจทำให้เกิดโรคติดเชื้อได้ง่าย โดยเฉพาะโรคติดต่อทางเดินอาหารและน้ำ และโรคทางเดินหายใจ ซึ่งขณะนี้มีการระบาดของโรคโควิด 19 จึงเน้นย้ำป้องกันตนเองสูงสุดตลอดเวลา ใส่หน้ากาก ล้างมือ เว้นระยะห่าง กินร้อน ช้อนกลางส่วนตัว
  6. หมั่นดูแลรักษาร่างกายให้อบอุ่นอยู่เสมอ และอาศัยอยู่ในที่อบอุ่นสามารถป้องกันลมหนาวอย่างเหมาะสม.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Satellite images show wake of destruction of wildfires burning across California

เปิดปัจจัยที่ทำให้ไฟป่าแอลเอไหม้ลามหนัก

มีหลายปัจจัยที่ทำให้ไฟป่าในเทศมณฑลลอสแอนเจลิสหรือแอลเอ (LA) ในรัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐไหม้ลามเป็นวงกว้างอย่างรวดเร็ว จนกลายเป็นวิกฤตไฟป่าครั้งร้ายแรงที่สุดครั้งหนึ่งของประเทศ

รู้ตัวคนไทยพลัดตกตึกสูงฝั่งปอยเปต พบไม่ได้ถูกจับโยนลงมา

รู้ตัวคนไทยพลัดตกตึกสูง 18 ชั้น ฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา เบื้องต้นพบไม่ได้ถูกจับโยนลงมา และอาคารดังกล่าวถูกระบุเป็นฐานบัญชาการของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยมีคนไทยถูกหลอกไปทำงานที่นี่จำนวนมาก

Palisades Fire

สหรัฐสั่งอพยพกว่าแสนคนหนีไฟป่า 6 จุดในแคลิฟอร์เนีย

ลอสแอนเจลิส 9 ม.ค.- สหรัฐสั่งอพยพประชาชนมากกว่า 100,000 คน เนื่องจากจำนวนไฟป่าที่โหมไหม้ในเทศมณฑลลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนียเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 6 จุดแล้ว เพราะกระแสลมแรงเทียบเท่าเฮอริเคนและสภาพอากาศแล้ง เจ้าหน้าที่เผยว่า ในจำนวนไฟป่าทั้ง 6 จุด มีอยู่ 4 จุดที่ยังไม่สามารถควบคุมได้เลย ไฟป่าจุดแรก คือ พาลิเซดส์ไฟร์ (Palisades Fire) เกิดขึ้นช่วงเช้าวันที่ 7 มกราคมตามเวลาท้องถิ่นใกล้แปซิฟิก พาลิเซดส์ ซึ่งเป็นย่านที่พักอาศัยทางตะวันตกเฉียงเหนือของเทศมณฑล ต้นเพลิงมาจากไฟไหม้พุ่มไม้ที่โหมไหม้จนเกินควบคุมเพราะกระแสลมแรง ต้องอพยพคนอย่างน้อย 30,000 คน ไฟป่าจุดที่ 2 คือ อีตันไฟร์ (Eton Fire) เกิดขึ้นในเย็นวันเดียวกันที่หุบเขาอีตันแคนยอน เผาไหม้พื้นที่ขยายวงกว้างมากพอ ๆ กับไฟป่าจุดแรก ไฟป่าจุดที่ 3 คือ เฮิร์ตส์ไฟร์ (Hurst Fire) เกิดขึ้นกลางดึกวันเดียวกันในย่านซิลมาร์ของนครลอสแอนเจลิส จากนั้นในเช้าวันที่ 8 มกราคมเกิดไฟป่าจุดที่ 4 คือ วูดลีไฟร์ […]

ข่าวแนะนำ

จับนายอำเภอเหนือคลอง เรียกรับเงินผู้รับเหมา แลกจบงาน

ตำรวจแถลงผลปฏิบัติการ “ไม่จ่าย ไม่จบ” จับนายอำเภอเหนือคลอง จ.กระบี่ พร้อมเจ้าหน้าที่ปกครอง เรียกรับเงินใต้โต๊ะบริษัทรับเหมา 50,000 บาท แลกจบงาน

นายกฯ เผยไม่มีคนไทยบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากเหตุไฟป่าแอลเอ

นายกฯ เผย ไม่มีคนไทยได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต จากเหตุไฟป่าที่แอลเอ มีเพียงร้านอาหารไทยที่ได้รับความเสียหาย สั่ง กงสุลเปิดศูนย์ช่วยเหลือคนไทย