กรุงเทพฯ 19 ม.ค. – ปลัดกระทรวงมหาดไทยสนองนโยบายนายกฯ สั่งด่วนผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ เร่งแก้ปัญหาและควบคุมเนื้อหมูแพง หลังพบราคาสูงผิดปกติ พร้อมปรามผู้ประกอบการห้ามฉวยโอกาสซ้ำเติมความเดือดร้อนประชาชน ฝ่าฝืนมีโทษหนัก และสั่งทุกจังหวัดเร่งสกัดโรค ASF
เมื่อวันที่ 19 มกราคม นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า จากปัญหาเนื้อสุกรมีราคาแพง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม มีความห่วงใยประชาชนที่จะได้รับผลกระทบจากปัญหาค่าครองชีพที่สูงขึ้น จึงได้มีบัญชาให้กระทรวงมหาดไทย ในฐานะที่มีกลไกในระดับจังหวัด ได้ประสานการปฏิบัติกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนอย่างเร่งด่วน รวมถึงป้องกันและแก้ไขปัญหาโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (ASF) ขณะเดียวกัน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ก็ได้เน้นย้ำให้หน่วยงานของกระทรวงมหาดไทย ร่วมกับทุกภาคส่วน เร่งแก้ปัญหา หลังจากพบว่าราคาเนื้อสุกรปรับตัวสูงขึ้นอย่างผิดปกติ ส่งผลให้ประชาชนได้รับผลกระทบ
นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า ตนได้มีหนังสือด่วนถึงผู้ว่าราชการทุกจังหวัดให้เข้ามาเร่งแก้ปัญหานี้ โดยเข้าควบคุมดูแลเพื่อเป็นการป้องกันและแก้ไขปัญหาการฉวยโอกาสของผู้ประกอบการ หรือผู้ค้าเนื้อสุกรในการกักตุนเนื้อสุกร โดยประสงค์จะให้เนื้อสุกรขาดแคลนในท้องตลาด เพื่อจะได้นำเนื้อสุกรออกจำหน่ายในราคาสูง จึงขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดสั่งการให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตามคำสั่งคณะกรรมการ สำรวจการกักตุนโภคภัณฑ์ ที่ 1/2563 เรื่อง แต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติสำรวจการกักตุนโภคภัณฑ์ พ.ศ.2497 ลงวันที่ 10 เมษายน 2563 พิจารณาให้ความสำคัญกับการออกปฏิบัติหน้าที่ในการสำรวจการกักตุนเนื้อสุกรในพื้นที่ และดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ตามพระราชบัญญัติสำรวจการกักตุนโภคภัณฑ์ พ.ศ. 2497 อย่างเคร่งครัด
ทั้งนี้ หน่วยงานของกระทรวงมหาดได้เร่งแก้ปัญหานี้มาอย่างต่อเนื่องแล้ว เพื่อเป็นการแก้ปัญหาระยะยาวจนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ จึงได้สั่งการดังนี้ 1.ให้ทุกจังหวัดจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการเฝ้าระวังและควบคุมโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (AS F) โดยมอบหมายปศุสัตว์จังหวัดเป็นเลขานุการ 2.เร่งสำรวจข้อมูลฟาร์มสุกร/จำนวนสุกร/ผู้เลี้ยงสุกร ทั้งรายย่อยและรายใหญ่ที่ได้รับความเสียหายจากการระบาดของโรค ASF ให้ถูกต้อง ครบถ้วน เป็นปัจจุบัน และเตรียมมาตรการเยียวยาตามระเบียบของทางราชการที่เกี่ยวข้อง
3.กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่เฝ้าระวัง ควบคุม กำกับ การเคลื่อนย้ายสุกรและซากให้เป็นไปตามมาตรการที่กรมปศุสัตว์กำหนดอย่างเคร่งครัด 4.มอบหมายสำนักงานพาณิชย์จังหวัด ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ตรวจตราป้องกันการกักตุนเนื้อสุกร และกำกับดูแลร้านจำหน่ายเนื้อสุกรชำแหละ ให้ติดป้ายราคาสินค้าอย่างชัดเจน รวมถึงได้ขอให้อำเภอกำชับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เจ้าหน้าที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและเครือข่ายประชาชนในพื้นที่ เฝ้าระวัง ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากพบสุกรป่วยหรือตายผิดปกติให้แจ้งอาสาปศุสัตว์ประจำหมู่บ้าน หรือเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ทันที 5.ให้นายอำเภอกำชับให้ทุกภาคส่วน รวมทั้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ช่วยเฝ้าระวังสุกรที่เลี้ยงอยู่ในพื้นที่ หากพบเห็นการการเจ็บป่วยของสุกรให้รีบแจ้งให้อำเภอทราบและดำเนินการ 6.ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบข้อมูลข่าวสารและช่วยเฝ้าระวัง และแจ้งเหตุ ให้ทราบผ่านศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด ผ่านหมายเลขโทรศัพท์ 1567 ทันที
“พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ได้คำนึงถึงความเดือดร้อนของประชาชนมาตลอด ได้เน้นย้ำกับหน่วยงานในสังกัดให้สอดส่องดูแลเพื่อบำบัดทุกข์ บำรุงสุข ปัญหาเนื้อสุกรมีราคาแพง ถือเป็นปัญหาเร่งด่วนที่กระทบต่อปากท้องของประชาชนโดยตรงต้องเร่งแก้ปัญหา ส่วนผู้ประกอบการหรือผู้ค้าเนื้อสุกรอย่าได้ซ้ำเติมประชาชนฉวยโอกาสกักตุนเพื่อให้เนื้อสุกรขาดแคลนในท้องตลาด แล้วนำออกจำหน่ายในราคาสูง ทางเจ้าหน้าที่จะต้องกวดขัน ออกสำรวจการกักตุนเนื้อสุกรในพื้นที่หากพบว่ามีการฝ่าฝืนต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด” ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าว
นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า ได้มอบหมายให้รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ฝ่ายความมั่นคง เร่งตรวจสอบข้อมูลและความจำเป็นในการตรวจตราสินค้าบริโภคอุปโภคอื่นๆ ไม่ให้ขึ้นราคาด้วย รวมถึงขอให้อธิบดีกรมการปกครองกำชับกวดขันให้ป้องกันจังหวัด และนายอำเภอทุกแห่งเร่งดำเนินการแล้วรายงานผลการปฏิบัติงานให้ทราบด้วยทุกวันจันทร์ จนกว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ.-สำนักข่าวไทย