กรุงเทพฯ 17 ม.ค.- บอร์ด สปสช. เห็นชอบ 4 ประเด็นรับฟังความคิดเห็นจากผู้ให้บริการและผู้รับบริการประจำปี 2565 ประกอบด้วย การถ่ายโอน รพ.สต.ไปสังกัดท้องถิ่น, การบริหารจัดการหลังสถานการณ์โควิด, การต่อยอด 30 บาทรักษาทุกที่เข้ารักษาที่หน่วยปฐมภูมิที่ไหนก็ได้ และการพัฒนาสิทธิสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค
ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) วันที่ 6 ม.ค.2565 ที่มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธาน มีมติเห็นชอบประเด็นการรับฟังความคิดเห็นจากผู้ให้บริการและผู้รับบริการ เพื่อประโยชน์ในการปรับปรุงคุณภาพและมาตรฐานบริการสาธารณสุขประจำปี 2565 ตามข้อบังคับข้อ 4 (5) ของหลักเกณฑ์การรับฟังความคิดเห็นจากผู้ให้บริการและผู้รับบริการ พ.ศ.2556 ซึ่งกำหนดให้กรรมการและสำนักงานจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นในประเด็นหรือปัญหาที่คณะกรรมการเห็นสมควรตามความจำเป็นและเหมาะสมในแต่ละปี โดยอาจเลือกประเด็นใดหรือหลายประเด็นร่วมกันก็ได้
ทพ.อรรถพร กล่าวว่า สำหรับในปีนี้ ประเด็นที่คณะกรรมการ สปสช.เห็นชอบให้มีการรับฟังความคิดเห็นมี 4 เรื่อง ประกอบด้วย 1.การถ่ายโอนโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ไปสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นโอกาสและความเป็นไปได้ ทั้งนี้ เพื่อรับทราบความคาดหวังของประชาชนต่อระบบบริการปฐมภูมิ และเพื่อรับฟังปัญหา อุปสรรค ความเป็นไปได้ในการถ่ายโอนจากของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
2.การบริหารจัดการหลังสถานการณ์โควิด ระบบบริการรองรับที่จำเป็น เพื่อรวบรวมปัญหาและความต้องการของประชาชนที่มีผลกระทบจากโควิด และเพื่อให้ผู้ให้บริการ ผู้รับบริการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้ร่วมรับฟังความคิดเห็น ได้เสนอแนวทางการจัดบริการรองรับการแก้ไขปัญหาตามความจำเป็น
3.สิทธิ30 บาทรักษาทุกที่หรือผู้ป่วยบัตรทอง เข้ารักษาที่หน่วยปฐมภูมิที่ไหนก็ได้ ต่อยอดให้ดีขึ้นได้อย่างไร เป็นประเด็นการรับฟังความคิดเห็นเพื่อรับทราบสถานการณ์การรับรู้นโยบายยกระดับบริการสิทธิบัตรทองของประชาชน ประเมินผลสำเร็จของการเปลี่ยนแปลง ตลอดจนค้นหาความต้องการ ความคาดหวังของผู้รับบริการเพื่อนำไปพัฒนาเป็นนโยบายในอนาคต
และ 4. คนไทยใช้สิทธิสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคได้ทุกที่ เป็นการรับฟังความคิดเห็นเพื่อรับทราบสถานการณ์ ปัญหา อุปสรรค การเข้าถึงบริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค (P&P) และรับฟังข้อเสนอต่างๆ จากทั้งผู้ให้บริการ ผู้รับบริการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและผู้ร่วมรับฟังความคิดเห็นอื่นๆ
ทพ.อรรถพร กล่าวว่า ในส่วนของกำหนดระยะเวลาและกิจกรรมการรับฟังความคิดเห็นประจำปี 2565 จะเริ่มการรับฟังความคิดเห็นในพื้นที่ สปสช.เขต 1-13 ในช่วงไตรมาส 2-4 ของปีงบประมาณ 2565 โดยใช้รูปแบบการรับฟังความคิดเห็นตามสภาพปัญหา สถานการณ์ และความเหมาะสมในแต่ละพื้นที่ รวมทั้งเน้นการรับฟังกลุ่มเป้าหมายเฉพาะที่เข้าไม่ถึงบริการและมีปัญหาระบบเทคโนโลยีด้านการสื่อสาร จากนั้นจะมีการจัดกิจกรรมเวทีรับฟังความคิดเห็นระดับเขตในช่วงไตรมาส 3 ของปีงบประมาณ จากนั้นสรุปความคิดเห็น/ข้อเสนอจากการรับฟังความคิดเห็นในเขตพื้นที่ และจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นระดับประเทศ ในช่วงไตรมาส 3-4 ของปีงบประมาณ และสรุปข้อเสนอต่างๆ ในเดือน ก.ค.2565
ทพ.อรรถพร กล่าวอีกว่า นอกจาก 4 ประเด็นที่คณะกรรมการ สปสช.เห็นชอบให้จัดรับฟังความคิดเห็นแล้ว หากผู้เสนอความคิดเห็นมีประเด็นอื่นๆ นอกจากนี้ ก็สามารถนำเสนอได้เช่นกัน โดยสำนักงาน สปสช.จะรวบรวมข้อมูลเพื่อพิจารณา หรือพัฒนาเป็นนโยบายหลักประกันสุขภาพในอนาคตต่อไป
ทั้งนี้ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 1330 ตลอด 24 ชม. หรือ คลิก https://lin.ee/zzn3pU6 เพิ่มเพื่อนไลน์กับ สปสช. @nhso.-สำนักข่าวไทย