กรุงเทพฯ 14 ม.ค. – สปสช.ช่วยเหลือเบื้องต้นผู้เกิดอาการไม่พึงประสงค์หลังฉีดวัคซีนโควิด-19 แล้ว 9,551 ราย กว่า 1,065 ล้านบาท พื้นที่เขต 13 กทม.มีผู้ยื่นขอรับการช่วยเหลือมากที่สุด รองลงมาเป็นเขต 10 อุบลราชธานี เขต 1 เชียงใหม่ และเขต 8 อุดรธานี
นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลได้มีนโยบายจ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้นผู้ที่เกิดภาวะไม่พึงประสงค์หลังรับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 สำหรับวัคซีนที่ประชาชนได้รับการฉีดฟรี เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนในการรับบริการ โดยมอบให้ สปสช. เป็นหน่วยงานดำเนินการ และได้ออกประกาศ สปสช. เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการจ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้นกรณีผู้รับบริการได้รับความเสียหายจากการรับวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19 เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2564
ทั้งนี้ จากข้อมูลล่าสุดวันนี้ (14 ม.ค.) มีประชาชนฉีดวัคซีนและเกิดภาวะไม่พึงประสงค์ยื่นคำร้องขอรับการช่วยเหลือ 12,882 ราย โดยในจำนวนนี้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ขอรับการช่วยเหลือ 9,551 ราย หรือ 74.14% ไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ 1,869 ราย หรือ 14.51% และอยู่ระหว่างรอการพิจารณาอีก 1,462 ราย หรือ 11.35% ในจำนวนนี้มีผู้ที่อุทธรณ์คำร้องขอรับการช่วยเหลือเพิ่มเติม 680 ราย โดย สปสช.จ่ายเงินช่วยเหลือฯ ไปแล้วทั้งหมด 1,065,076,200 บาท เมื่อแยกดูข้อมูลแบ่งตามเขต พบว่า เขต 13 กทม. มีการยื่นคำร้องมากที่สุด 2,229 ราย รองลงมาอีก 3 เขต เป็นเขต 10 อุบลราชธานี 1,510 ราย เขต 1 เชียงใหม่ 1,415 ราย และเขต 8 อุดรธานี 1,123 ราย
นพ.จเด็จ กล่าวว่า เมื่อดูข้อมูลเพิ่มเติมผู้ที่ยื่นคำร้องขอรับการช่วยเหลือส่วนใหญ่เป็นผู้มีสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือบัตรทอง 6,662 ราย หรือ 51.72% ผู้มีสิทธิประกันสังคม 3,277 ราย หรือ 25.44% ผู้มีสิทธิสวัสดิการข้าราชการ 2,619 ราย หรือ 20.33% นอกนั้นเป็นผู้มีสิทธิรักษาพยาบาลอื่นๆ โดยอาการผู้ที่มีภาวะไม่พึงประสงค์ อาทิ มีไข้ ปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน มีผื่น คัน บวม ปวดเวียนศีรษะ หน้ามืด แน่นหน้าอก หายใจลำบาก อาการชา แขนขาอ่อนแรง ภาวะแพ้รุนแรง (Phylaxis Shock) และเสียชีวิต อย่างไรก็ตาม ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มอาการไม่รุนแรง เข้าหลักเกณฑ์ระดับ 1 อาการเจ็บป่วยต่อเนื่อง จ่ายไม่เกิน 100,000 บาท จำนวน 7,037 ราย ขณะที่ระดับ 2 เกิดความเสียหายถึงขั้นสูญเสียอวัยวะหรือพิการ จนมีผลต่อการดำรงชีวิต จ่ายไม่เกิน 240,000 บาท จำนวน 250 ราย และระดับ 3 กรณีเสียชีวิตหรือทุพพลภาพถาวร จ่ายไม่เกิน 400,000 บาท จำนวน 2,264 ราย
สำหรับผู้ได้รับผลกระทบจากการฉีดวัคซีนโควิด-19 สามารถยื่นคำร้องขอรับเงินช่วยเหลือเบื้องต้นได้ใน 3 จุด คือ หน่วยบริการที่ไปรับการฉีด สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด หรือ สปสช.เขตพื้นที่ทั้ง 13 สาขาเขต มีระยะเวลายื่นคำร้องภายใน 2 ปี นับจากวันที่เกิดความเสียหายหลังฉีดวัคซีนโควิด-19 หลังจากได้รับคำร้องแล้ว จะมีคณะอนุกรรมการในระดับเขต ประกอบด้วย แพทย์ผู้เชี่ยวชาญและตัวแทนภาคประชาชนเป็นผู้พิจารณาว่าจะจ่ายเงินเยียวยาหรือไม่ และจ่ายเป็นจำนวนเท่าใด ตามหลักฐานทางการแพทย์และระดับความหนักเบาของอาการไม่พึงประสงค์ที่เกิดขึ้น โดยไม่มีการพิสูจน์ถูกผิดตามหลักการสากล หรือ no fault compensation เมื่อมีผู้มายื่นคำร้องแล้ว คณะอนุกรรมการฯ ระดับเขตพื้นที่จะเร่งพิจารณาให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ซึ่งในกรณีที่ผู้ยื่นคำร้องไม่เห็นด้วยกับผลการวินิจฉัย ก็มีสิทธิยื่นอุทธรณ์ต่อเลขาธิการ สปสช.ได้ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ทราบผลการวินิจฉัย ดาวน์โหลดแแบบคำร้องขอรับเงินช่วยเหลือเบื้องต้นกรณีได้รับความเสียหายจากการรับวัคซีนป้องกันโควิดได้ที่ https://www.nhso.go.th/downloads/175.-สำนักข่าวไทย