กทม.เตรียมแผนรับมือโอไมครอน

กรุงเทพฯ 13 ม.ค. – กทม.เตรียมพร้อมรับมือโควิดสายพันธุ์โอไมครอน สแตนด์บาย 10,000 เตียง ติดเชื้อแข็งแรงเข้าสู่ระบบ Home isolation ย้ำผับ บาร์ เปลี่ยนเป็นร้านอาหารต้องมีใบอนุญาต


ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง โฆษกกรุงเทพมหานคร แถลงเตรียมความพร้อมรับมือการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ ว่า หลังจากการแพร่ระบาด 4 ครั้งที่ผ่านมา ทำให้ กทม.ไม่อาจวางใจต่อสถานการณ์ในอนาคตได้ จึงเตรียมแผนรับมือการแพร่ระบาดของโควิดสายพันธุ์โอไมครอน ซึ่งจากการติดตามสถานการณ์ รวมถึงการตรวจคัดกรองผู้ติดเชื้อเชิงรุกหลังปีใหม่ที่ผ่านมา วันละ 4,000 ราย พบผู้ป่วยติดเชื้อเพิ่มเพียง 1-2% หรือคิดเป็นประมาณ 970 รายเท่านั้น ซึ่งน้อยกว่า 4 รอบที่ผ่านมา ที่ติดเชื้อสูง 10-12%

ร.ต.อ.พงศกร กล่าวว่า การติดเชื้อเกิดขึ้น 2 ลักษณะ คือ ในชุมชนและร้านจำหน่ายแอลกอฮอล์ สำหรับผู้ป่วยที่ติดเชื้อในชุมชนมักเกิดขึ้นในงานเลี้ยงสังสรรค์ที่มีการดื่มสุรา และรับประทานอาหารร่วมกัน ส่วนกรณีการแพร่ระบาดในร้านที่มีจำหน่ายแอลกอฮอล์ เป็นการระบาดเฉพาะกลุ่มคนกลุ่มเดียว หรือโต๊ะเดียวกันเท่านั้น ไม่มีการแพร่ระบาดไปยังพนักงานของร้านหรือบุคคลอื่นแต่อย่างใด


อย่างไรก็ตาม เพื่อความไม่ประมาท จึงได้จัดเตรียมความพร้อมเรื่องของเตียงผู้ป่วย เพื่อป้องกันปัญหาผู้ป่วยหาเตียงไม่ได้ โดยขณะนี้มีเตียงพร้อมสแตนด์บายประมาณ 10,000 เตียง โดยจะมีการคัดแยกผู้ป่วยออกเป็นกลุ่ม ๆ สำหรับกลุ่มคนแข็งแรงจะให้เข้าสู่ระบบ Home isolation หรือรักษาตัวอยู่กับบ้าน เพราะต้องกันเตียงไว้รองรับผู้ป่วยอาการหนัก แต่หากพบตัวเลขของผู้ป่วยสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และมีอัตราการตายเพิ่มสูงขึ้น กทม.ก็พร้อมเพิ่มเตียงใน 48 ชั่วโมง เป็น 20,000 เตียงทันที

ทั้งนี้ กรุงเทพฯ กำลังเร่งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็ม 3 ให้ได้มากที่สุด ซึ่งปัจจุบันยังพบว่าตัวเลขการ Booster เข็ม 3 อยู่ที่ 25% หรือประมาณ 8 ล้านคนเท่านั้น ขณะที่เข็มแรกมีประชาชนฉีดไปแล้วกว่า 120% ซึ่งขณะนี้ กทม.ได้จัดจุดบริการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนในพื้นที่ทั่วกรุงเทพฯ 101 จุด เข็มแรก walk in เข้าไปได้ในทันที แต่สำหรับ Booster เข็ม 3 ขอให้ลงทะเบียนผ่าน App QQ

ด้าน พญ.ป่านฤดี มโนมัยพิบูลย์ ผู้อำนวยการสำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร กล่าวว่า การป้องกันการแพร่ระบาดโควิดโอไมครอนในพื้นที่กรุงเทพฯ ขณะนี้ยังไม่พบคลัสเตอร์ใหญ่แต่อย่างใด โดยเฉพาะในกลุ่มของแคมป์ก่อสร้างและโรงงาน มีเพียง 3 แคมป์เท่านั้นที่ต้องติดตามเฝ้าระวังใน 28 วัน ซึ่งจากการตรวจสอบและติดตามเฝ้าระวังมา 14 วัน ไม่พบผู้ป่วยรายใหม่


ขณะที่สถานการณ์ร้านอาหารและสถานประกอบการที่หลายคนกำลังมีความกังวล หลังเปิดบริการในวันที่ 16 มกราคมนี้ อาจทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิค-19 เพิ่มสูงขึ้นอีกได้นั้น ขอยืนยันว่า กลุ่มร้านอาหารและผู้ประกอบการจะต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบของ กทม.อย่างเคร่งครัด ต้องมีการเว้นระยะห่าง ไม่ให้เต้น และสถานที่จะต้องโล่งโปร่ง ไม่แออัดยัดเยียด โดยสามารถยื่นขอใบอนุญาตต่อสำนักงานเขตได้ภายในวันที่ 15 มกราคมนี้ และหากผ่านการประเมินก็สามารถเปิดให้บริการได้ทันที

ส่วนผับ บาร์ คาราโอเกะ ยังคงต้องปิดต่อไป แต่สำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการแปรสภาพจากผับ บาร์ มาเป็นสถานประกอบการกึ่งร้านอาหาร ก็เช่นเดียวกัน ต้องผ่านการประเมินและได้รับอนุญาตจากสำนักงานเขต จึงจะเปิดให้บริการได้

ผู้อำนวยการสำนักอนามัย ยังกล่าวถึงกรณีเตรียมฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้กับเด็กอายุ 5-11 ปี คาดว่าภายในสิ้นเดือนนี้ วัคซีนไฟเซอร์สำหรับเด็กจะมาถึงไทย และหลังจากนั้นน่าจะสามารถฉีดให้กับเด็กได้เลย ในส่วนของ กทม. ขณะนี้อยู่ระหว่างการสำรวจความต้องการของผู้ปกครองว่า ต้องการให้บุตรหลานรับวัคซีนหรือไม่ ซึ่งจากการสำรวจพบว่า ส่วนใหญ่ผู้ปกครองต้องการวัคซีนเชื้อตาย หรือซิโนแวคมากกว่าไฟเซอร์ ซึ่งเป็นเชื้อเป็น ส่วน กทม.จะได้รับการจัดสรรจำนวนกี่โดสนั้น ยังไม่สามารถตอบได้

ส่วนกรณีเตรียมประกาศให้โควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่น เช่นเดียวกับไข้หวัด ผู้อำนวยการสำนักอนามัย กทม. ระบุว่า หลังจาก ศบค.ประกาศโรคประจำถิ่น ทาง กทม.จะต้องเตรียมพร้อมทำความเข้าใจและเข้าไปพูดคุยปรับทัศนคติของประชาชน เพื่อให้รู้ว่าโรคดังกล่าวสามารถดูแลตัวเองได้ และสามารถรักษาตัวอยู่กับบ้านได้ สำหรับการตรวจคัดกรอง สามารถทำได้ด้วยตนเองโดยใช้ ATK และหากพบว่าเป็นผลบวก ให้ติดต่อเพื่อเข้าสู่การรักษา ด้วยระบบหมายเลขโทรศัพท์สายด่วน 1330 กด 34 ซึ่งขณะนี้ สปสช.เปิดระบบอัตโนมัติทั่วประเทศแล้ว หรือติดต่อ App สำนักงานเขตนั้น.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สมุทรปราการอ่วม! ปิด 25 โรงเรียนหนีน้ำท่วม

สมุทรปราการ 8 ก.ย.- สมุทรปราการอ่วม! ระดับน้ำยังท่วมสูง หลังฝนตกหนักทั้งคืน ด้าน สพท. สั่งปิดแล้ว 25 โรงเรียน ปรับให้สอนแบบออนไลน์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา หรือ สพท. สั่งปิด 25 โรงเรียนจังหวัดสมุทรปราการ 1 วัน พร้อมปรับการเรียนเป็นแบบออนไลน์ เพื่อความปลอดภัยของนักเรียนและผู้ปกครอง หลังฝนตกหนักทั้งคืน ถนนสายสำคัญหลายเส้นถูกน้ำท่วม บางแห่งสูงกว่า 30 เซนติเมตร รวมถึงตรอกซอกซอยต่าง ๆ โดยบางพื้นที่น้ำได้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ขณะเดียวกันหลายจุดยังคงมีน้ำท่วมขัง ระบายออกไม่ได้ เนื่องจากระดับน้ำในคลองสายหลักสูง ประกอบกับน้ำทะเลหนุน เจ้าหน้าที่เร่งระบายน้ำ หากฝนไม่ตกลงมาซ้ำ คาดว่าบ่ายวันนี้สถานการณ์จะเข้าสู่สภาวะปกติ ทั้งนี้ มีรายงานว่าเกิดเหตุ หนุ่มวัย 17 ปี เข็นรถจักรยานยนต์ฝ่าน้ำ ถูกไฟรั่วจากแบริเออร์ก่อสร้างบนถนนแพรกษา ช็อตเสียชีวิตต่อหน้าเพื่อนบ้าน เจ้าหน้าที่เร่งสอบหาสาเหตุและป้องกันเหตุซ้ำ -สำนักข่าวไทย

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี 8 เดือน ไม่รอลงอาญา “สส.ลูกเกด” คดี ม.112

กรุงเทพฯ 8 ก.ย. – ศาลสั่งจำคุก 4 ปี “ลูกเกด ชลธิชา” สส.ประชาชน คดี ม.112 คำให้การเป็นประโยชน์ลดโทษเหลือ 2 ปี 8 เดือน ส่าสุดศาลให้กันประกันตัวแล้ว กำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่จะได้รับอนุญาต วันนี้ ( 8 ก.ย.) ที่ห้องพิจารณา 901 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีดูหมิ่นสถาบัน หมายเลขดำ อ.595/65 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 4 เป็นโจทก์ ฟ้อง น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว หรือลูกเกด สส.พรรคประชาชน จ.ปทุมธานี เป็นจำเลยในความผิด ดูหมิ่นสถาบัน ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.112 , พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฯ ม.4 (3) จากกรณีเมื่อวันที่ 8 พ.ย.63 จำเลยได้โพสต์ข้อความ ลงในเฟซบุ๊กตัวเอง เกี่ยวกับราษฎรสาส์น […]

รื้อทั้งยวง! โผ ครม.อนุทิน 1 เหตุ “ธรรมนัส” คุมท่องเที่ยว ภท.ต้องเกลี่ยใหม่

กรุงเทพฯ 7 ก.ย. – โผ ครม. “อนุทิน 1” รื้อทั้งยวง หลัง “ธรรมนัส” คุมท่องเที่ยว ทำภูมิใจไทยต้องเกลี่ยใหม่ “ไชยชนก” ดีอี “ซาบีดา” วัฒนธรรม รอเปิดคนนอก “กลาโหม-ยุติธรรม” แว่วพลตำรวจโท อดีตรองผู้การภาค 3 ติดโผ จับตา “ศักดิ์ดา” ร่วมด้วย​ ด้าน “นิพนธ์” จ่อดันลูกสาวเป็นรัฐมนตรีป้ายแดง เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับโผ ครม.ล่าสุด พรรคภูมิใจไทยจะได้เก้าอี้รัฐมนตรีส่วนใหญ่ประมาณ 12 ที่นั่ง โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล นั่งนายกรัฐมนตรี ควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายทรงศักดิ์ ทองศรี นั่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ นั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นายไชยชนก ชิดชอบ เลขาธิการพรรค จะนั่งตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ขณะที่นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล […]

ชัยภูมิน้ำท่วมหนัก หลังฝนตกตลอดคืน

ชัยภูมิ 7 ก.ย.-น้ำท่วมหนักใน 3 อำเภอของจังหวัดชัยภูมิ หลังฝนตกหนักตลอดทั้งคืน สภาพภายในวัดดอนไผ่ ริมถนนชัยภูมิ-นครสวรรค์ อำเภอบ้านเขว้า จังหวัดชัยภูมิ เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (7 ก.ย.) หลังพายุฝนกระหน่ำตลอดทั้งคืน ระดับน้ำท่วมสูง 50 เซนติเมตร พระสงฆ์ต้องอพยพหนีน้ำท่วมไปฉันอาหารอยู่บนที่สูง ขณะนี้ระดับน้ำยังไม่ลดลง นอกจากนี้ ยังเกิดน้ำท่วมใน 3 อำเภอ คือ อำเภอเมือง ย่านเศรษฐกิจในตัวอำเภอแก้งคร้อ และอำเภอบ้านเขว้า น้ำป่าสีแดงขุ่นไหลเข้าท่วมถนนสาย 225 ชัยภูมิ-นครสวรรค์ รวมถึงร้านค้า บ้านเรือนประชาชน โดยเฉพาะที่วัดกลางโนนแดง และวัดดอนไผ่ สาเหตุมาจากกรมทางหลวงก่อสร้างถนน 4 เลน ตัดผ่านบ้านโนนแดง ต.โนนแดง อ.บ้านเขว้า ทำให้น้ำป่าที่ไหลมาจากเขาภูแลนคา ไม่สามารถไหลไปลงแม่น้ำชีได้.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ผลประชุม GBC ไทย-กัมพูชา ถอนอาวุธหนัก เก็บกู้ทุ่นระเบิด ปราบสแกมเมอร์

กัมพูชา 10 ก.ย.- ไทย-กัมพูชา เดินหน้าคืนสันติภาพชายแดน ผลประชุม GBC สมัยพิเศษ ที่เกาะกง สรุป 5 ประเด็นสำคัญ ตั้งแต่ถอนอาวุธหนัก เก็บกู้ทุ่นระเบิด ปราบสแกมเมอร์ ไปจนถึงจัดการพื้นที่พิพาท รมช.กลาโหม ย้ำสองประเทศต้องอยู่ร่วมกันด้วยสันติวิธี พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม รักษาราชการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ไทย-กัมพูชา สมัยพิเศษ วันที่ 10 กันยายน 2568 ณ จังหวัดเกาะกง ราชอาณาจักรกัมพูชา เพื่อติดตามความคืบหน้าในการดำเนินการตามผลการประชุม GBC ที่มาเลเซียที่ผ่านมา เพื่อนำสันติภาพและความสงบสุขกลับมาสู่พื้นที่ชายแดนได้อย่างถาวร พร้อมย้ำถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ในภาพรวม หลังการหยุดยิงดำเนินมากว่า 1 เดือน ว่ามีความสงบมากขึ้น แม้ยังมีข้อกังวลบางประการที่ต้องแก้ไข เพื่อฟื้นฟูความเชื่อมั่นให้กลับมาเต็มร้อย โดยผลการประชุมสรุปประเด็นสำคัญได้ดังนี้ 1. การถอนอาวุธหนักและยุทโธปกรณ์ทำลายล้างสูง ออกจากพื้นที่ชายแดนกลับสู่ที่ตั้งปกติ โดยฝ่ายเลขานุการ GBC และ RBC จะหารือกันภายใน 3 […]

พนังกั้นน้ำขาด ทะลักท่วมนาข้าว-ถนนถูกตัดขาด

ร้อยเอ็ด 10 ก.ย. – ผลพวงอุทกภัยจากพายุหนองฟ้า ทำพนังกั้นลำน้ำยัง บ้านทรายมูล ต.ขวาว อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด ทรุดตัวและขาด ส่งผลมวลน้ำทะลักท่วมนาข้าวเกือบพันไร่ เส้นทางสัญจรถูกตัดขาด ภาพนาทีน้ำจากตอนบนในพื้นที่ อ.โพนทอง จ.ร้อยเอ็ด ไหลทะลักท่วมพื้นที่ ทำให้พนังกั้นลำน้ำยัง บ้านทรายมูล ต.ขวาว อ.เสลภูมิ ถูกน้ำกัดเซาะจนทรุดและขาดกว้างประมาณ 5 เมตร ยาว 6 เมตร และเอ่อเข้าท่วมนาข้าวของชาวบ้าน 3 ตำบล คือ ต.ขวาว, ต.นางาม และ ต.นางาม ชาวบ้านและผู้นำชุมชนต้องระดมเครื่องจักรกล ถุงบิ๊กแบ็ก เข้าอุดพนังที่ขาด เพราะวิตกว่ามวลน้ำจำนวนมากจะทำให้นาข้าวที่กำลังหว่านปุ๋ยรับรวง จำนวนเกือบ 1,000 ไร่ เสียหาย จนไม่สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ ทั้งนี้ ผู้ว่าฯ ร้อยเอ็ด ได้สั่งการให้ ปภ. ประสานนำเครื่องจักรกลหนักเข้าเสริมกั้นน้ำ นำถุงบิ๊กแบ็ก 280 ถุง เข้า จัดวาง […]

สิงโตสวนสัตว์เอกชน ลาก จนท.ไปรุมกัด สาหัส

กทม. 10 ก.ย.-สิงโตในสวนสัตว์เอกชน ทำร้ายเจ้าหน้าที่ ลากไปรุมกัด อาการสาหัส นักท่องเที่ยวบันทึกเหตุการณ์ไว้ได้ พ.ต.อ.นิรุชพล โยธามาตย์ ผกก.สน.คันนายาว เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (10 ก.ย.68) ได้รับรายงานว่า เกิดเหตุสิงโตทำร้ายเจ้าหน้าที่ ภายในสวนสัตว์ของเอกชน จากการตรวจสอบพบว่า เจ้าหน้าที่ลงไปให้อาหาร โดยไม่ปฏิบัติตามกฎของบริษัท จึงทำให้ถูกสิงโตรุมทำร้าย เบื้องต้นอาการสาหัส นำตัวส่งโรงพยาบาล ประสานพนักงานสอบสวนเชิญตัวเจ้าหน้าที่ของสวนสัตว์มาสอบปากคำ และลงบันทึกประจำวัน โดยยังไม่มีญาติของเจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายมาแจ้งความแต่อย่างใด ทั้งนี้ ในคลิปเป็นเหตุการณ์ที่นักท่องเที่ยวบันทึกไว้ได้ บริเวณส่วนจัดแสดงสิงโต มีรั้วขนาดใหญ่เปิดให้รถเข้า-ออก เป็นพื้นที่เปิด ให้นักท่องเที่ยวขับรถเข้าไปด้านใน มีป้ายกำกับชัดเจนห้ามเปิดกระจกและห้ามลงจากรถ ด้านในจะมีรถของสวนสัตว์จอดดูแลความปลอดภัย และบางช่วงมีการจัดแสดงโชว์ให้อาหารสิงโตที่อยู่ด้านใน.-สำนักข่าวไทย

“พล.อ.ณัฐพล” แถลงผลประชุม GBC สมัยพิเศษ

เกาะกง 10 ก.ย. – “พล.อ.ณัฐพล” แถลงผลหารือ GBC สมัยพิเศษ ที่เกาะกง มุ่งแก้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา หลังจากนี้จะมีการดำเนินการถอนอาวุธหนักภายใน 4 สัปดาห์ โดยให้คณะกรรมการไอโอที ร่วมสังเกตการณ์ด้วย และเก็บกู้ทุ่นระเบิดใน 1 สัปดาห์ ต้องแล้วเสร็จใน 1 เดือน ซึ่งเป็นการตกลงกันระหว่างไทย-กัมพูชา .-สำนักข่าวไทย