ป.ป.ส.ถกแผนป้องกันและปราบปรามยาเสพติด

กทม. 11 ม.ค.- ป.ป.ส.ถกแผนขับเคลื่อนปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่กรุงเทพฯ ชี้โครงสร้างหน่วยงานราชการมีความซับซ้อน เป็นอุปสรรคการทำงาน


สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดกรุงเทพมหานคร ร่วมกับกองบัญชาการตำรวจนครบาล และกรุงเทพมหานคร ประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ให้สอดคล้องกับการบังคับใช้พระราชบัญญัติประมวลกฎหมายยาเสพติด โดยเครือข่ายกองทุนแม่ของแผ่นดิน เป็นกลไกขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหายาเสพติดระดับชุมชน

มี รศ.พ.ต.ท.ดร.เกษมศานต์ โชติชาครพันธุ์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.อสมท ร่วมบรรยายในหัวข้อผลการศึกษาโครงสร้างและกระบวนการที่จะนำมาสู่การเปลี่ยนแปลงมาตรการแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่กรุงเทพมหานคร


ซึ่งจากการศึกษาวิจัยเชิงคุณภาพด้วยกระบวนการสัมภาษณ์ผู้ที่เกี่ยวข้องกับการแก้ปัญหา ได้ข้อสรุปว่า การตัดสินใจแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่กรุงเทพมหานครล่าช้า เพราะโครงสร้างหน่วยงานราชการมีความซับซ้อน แต่ขบวนการค้ายาเสพติดมีการบริหารองค์กรอาชญากรรมที่รวดเร็วและพัฒนาต่อเนื่อง จึงมีแนวทางที่นำเสนอเพื่อแก้ไขปัญหาให้มีการปรับโครงสร้างการสั่งการที่ชัดเจน โดยให้ศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด มีฝ่ายบริหารระดับรองนายกรัฐมนตรีเป็นประธานมากำกับ

ดูแลพื้นที่ กทม. มีผู้ว่าฯ กทม.เป็นเลขานุการ เพื่อบริหารสั่งการตำรวจได้ง่าย แต่ยอมรับว่าเป็นเรื่องใหญ่ขณะที่อีกแนวทางหนึ่ง คือ ร่วมกับสื่อมวลชนมาเป็นส่วนหนึ่งในคณะกรรมการศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดกรุงเทพมหานคร เพื่อคอยสะท้อนปัญหาจากภาคประชาชนและติดตามตรวจสอบการดำเนินงานให้มีความรวดเร็ว หรือเรียกว่าเป็นแรงกดเชิงนโยบาย นอกจากนี้เห็นว่าควรสร้างข้าราชการตำรวจที่มีความผูกพันกับชุมชนขึ้น เพื่อสร้างจิตสำนึกรักชุมนุมและทำงานเพื่อคนในชุมชน ขึ้นมาทำงานให้ประชาชน.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย