ตรวจเข้มร้านอาหารขายแอลกอฮอล์ กทม.

กทม. 10 ม.ค.- กทม. ตรวจเข้มร้านอาหารจำหน่ายแอลกอฮอล์ต้องผ่านเกณฑ์ SHA+ หรือ TSC2+ นั่งดื่มไม่เกิน 3 ทุ่ม

(10 ม.ค. 65) พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สายพันธุโอมิครอน (Omicron) ที่ทวีความรุนแรงขึ้นในหลายประเทศทั่วโลก รวมทั้งในประเทศไทยและกรุงเทพมหานครที่ตรวจพบผู้ติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์ดังกล่าวมากขึ้นเป็นลำดับ กรุงเทพมหานครจึงได้ประกาศกรุงเทพมหานคร เรื่อง สั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว (ฉบับที่ 49) โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร ตามมติที่ประชุม ครั้งที่ 1/2565 เมื่อวันที่ 7 มกราคม 2565 ให้เจ้าของสถานที่ ผู้ประกอบการ ผู้ใช้บริการ ผู้ร่วมกิจกรรม และบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามที่ระบุไว้ในประกาศกรุงเทพมหานคร (ฉบับที่ 47) ต่อเนื่องไปอีกจนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง ส่วนร้านจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่มสามารถเปิดให้บริการตามเวลาปกติ แต่จะอนุญาตให้มีการบริโภคสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในร้านได้เฉพาะร้านที่ผ่านการตรวจประเมินตามมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย (Amazing Thailand Safety and Health Administration) ในระดับ SHA PLUS ของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา หรือตามมาตรฐานความสะอาดปลอดภัยป้องกันโรค COVID-19 รองรับสุขภาพดีวิถีใหม่ (Thai Stop Covid 2 Plus) ของกระทรวงสาธารณสุข แล้วเท่านั้น และให้บริการบริโภคสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ในร้านได้ไม่เกิน 21.00 น.


ตามประกาศฯ ฉบับล่าสุดนี้ยกระดับให้เข้มข้นขึ้นจากเดิมร้านจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่มที่ผ่านเกณฑ์ SHA หรือ Thai Stop Covid 2 ก็สามารถจำหน่ายเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ให้นั่งดื่มภายในร้านได้ไม่เกิน 21.00 น. แต่จากนี้จะอนุญาตให้เฉพาะร้านที่ได้มาตรฐาน SHA PLUS หรือ Thai Stop Covid 2 Plus (TSC2+) เท่านั้น ที่สามารถจำหน่ายเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ให้นั่งดื่มภายในร้านได้ไม่เกิน 21.00 น. โดยเพิ่มเงื่อนไข SHA+ ว่า พนักงานต้องได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อโควิด-19 แล้วไม่ต่ำกว่า 70% ของทั้งองค์กร และ 100% กับพนักงานหน้าด่าน (Frontline) ที่ต้องพบเจอผู้มารับบริการทุกวัน ส่วน Thai Stop COVID 2 Plus คือ ผ่านการตรวจประเมินมาตรฐานความสะอาดปลอดภัยป้องกันโรค COVID-19 รองรับสุขภาพดีวิถีใหม่ ของกระทรวงสาธารณสุขโดยกรมอนามัย และมาตรการ COVID Free Setting คือ มาตรการปลอดภัยสำหรับองค์กร ร้านจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่มต้องจัดหา ATK และตรวจ ATK พนักงานทุก 7 วัน หรือตรวจ ATK เมื่อมีผลการประเมิน Thai Save Thai (TST) พบความเสี่ยงสูง

เพื่อให้ผู้ประกอบการร้านอาหารต่าง ๆ ดำเนินการตามมาตรฐานการป้องกันและควบคุมโรคโควิด-19 อย่างเคร่งครัด กรุงเทพมหานคร โดย สำนักเทศกิจร่วมกับสำนักอนามัย สำนักงานเขตพื้นที่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพิ่มความเข้มงวดมาตรการกวดขันตรวจสอบสถานที่จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต้องดำเนินการให้เป็นไปตามมาตรฐานโดยต้องมี SHA+ หรือ TSC2+ เท่านั้น โดยจะตรวจประเมินสถานบริการ ร้านอาหาร และกำกับติดตามตามมาตรการอย่างต่อเนื่อง หากปฏิบัติไม่ถูกต้องจะดำเนินคดี รวมถึงสั่งปิด สั่งพักใบอนุญาตในการเปิดร้านต่าง ๆ อย่างจริงจัง ส่วนที่ยังทำไม่ถูกต้องขอให้แก้ไขให้ถูกต้อง โดยเน้นย้ำให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันควบคุมโรคเพื่อไม่ให้กลายเป็นแหล่งแพร่ระบาดหรือเกิดคลัสเตอร์ใหม่ เช่น การจัดสถานที่ให้อากาศถ่ายเทสะดวก ดูแลจุดสัมผัสร่วม การจำกัดจำนวนคน การเว้นระยะห่าง การเข้มงวดเรื่องการสวมหน้ากาก การตรวจหาเชื้อ (ATK) ก่อนเข้าร้าน การตรวจอุณหภูมิร่างกาย จัดจุดบริการเจลล้างมืออย่างเพียงพอ ติดตั้งและใช้แอปพลิเคชันไทยชนะก่อนเข้า – ออก สถานที่ พนักงานและบุคลากรได้รับวัคซีนโควิด-19 รวมถึงให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการติดเชื้อแบบครอบจักรวาล (Universal Prevention For Covid-19) เป็นต้น .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มุกใหม่มิจฉาชีพ

มุกใหม่มิจฉาชีพ! ป่วนโทรแจ้ง ตร. เกิดเหตุร้ายที่บ้านเหยื่อ

อินฟลูฯ สาว สายทำอาหาร ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นตำรวจโทรหา แต่เธอไม่เชื่อ โดนท้าอีก 10 นาทีเจอกัน ปรากฏว่า มีตำรวจจาก 2 โรงพักบุกมาที่บ้านจริง

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา บอกสนามใหญ่ ไม่เข้าไปก้าวก่ายสนามท้องถิ่น ซ้ายก็เพื่อน ขวาก็พวก

ครม.เคาะแจกเงินหมื่นเฟส 2 ผู้สูงอายุ 60 ปี

“จุลพันธ์” เผย ครม.เห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกลุ่มผู้สูงอายุ วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการทันก่อน 29 ม.ค.68 รวม 3 มาตรการ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ 1.4-1.5 แสนล้านบาท

ข่าวแนะนำ

มติกฤษฎีกา “กิตติรัตน์” คุณสมบัติไม่ผ่านนั่งประธานบอร์ด ธปท.

คณะกรรมการกฤษฎีกา 3 คณะ มีมติไม่ผ่านคุณสมบัติ “กิตติรัตน์ ณ ระนอง” เป็นประธานบอร์ดธนาคารแห่งประเทศไทย

เครื่องบินโดยสาร อาเซอร์ไบจาน แอร์ไลน์ ตกในคาซัคสถาน

เครื่องบินโดยสารเอ็มบราเออร์ ของสายการบินอาเซอร์ไบจาน แอร์ไลน์ ที่บินจากอาเซอร์ไบจาน ไปยังประเทศรัสเซีย เกิดอุบัติเหตุตกที่บริเวณใกล้กับเมืองอัคเทา ในคาซัคสถาน โดยมีผู้โดยสาร 62 คน และลูกเรือ 5 คน บนเครื่อง เจ้าหน้าที่คาซัคสถานกล่าวว่า มีผู้รอดชีวิต 28 ราย