สธ. 7 ม.ค.- กรมวิทย์ฯ ย้ำ ATK ตรวจเจอโควิดทุกสายพันธุ์ไม่มีจำแนก และไม่จำเป็นต้องสรรหาวิธีการตรวจพิสดารเพื่อรู้ว่าติดโอไมครอนหรือไม่ ขอให้แหย่จมูกถูกวิธีพอ แหย่จมูกลึก 2 ซม. ปั่นข้างละ 5 ครั้ง และหยดน้ำยา ไม่จำเป็นต้องแหย่ต่อมทอมซิลก่อนแล้วมาแหย่จมูกซ้ำ
นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวถึงวิธีตรวจ ATK หาเชื้อโอไมครอน ด้วยการใช้ไม้แหย่ไปตรงต่อมทอมซิล จากนั้นแหย่จมูกอีกรอบว่า แม้ทั้งโพรงจมูกับช่องคอจะเป็นช่องเดียวกันในการตรวจหาเชื้อ แต่ไม่จำเป็นต้องใช้วิธีพิสดาร ใช้วิธีการตรวจปกติก็เจอเชื้อแล้ว ขอให้ตรวจอย่างถูกต้องเท่านั้น โดยชุดตรวจ ATK ของระดับ home use ที่ใช้กันทั่วไปในท้องตลาด ต้องแหย่ไปในโพรงจมูกลึกประมาณ 2 ซม. จากนั้นปั่นให้ได้ข้างละ 5 รอบ ไม่ใช่ต้องเอาแบบไม่เจ็บเลย หรือเจ็บมากๆ ขอให้ทำแบบพอดี เพื่อให้ได้เซลล์ในโพรงจมูกมาตรวจ จากนั้นหยดน้ำยาก็ทราบผล เรียบร้อย การตรวจแบบนี้เป็นสากลพื้นฐาน ไม่ต้องใช้วิธีอื่น การตรวจ ATK ไม่ได้จำแนกสายพันธุ์ว่าอะไร แต่เป็นการตรวจว่าติดเชื้อโควิด ไม่ว่าจะเป็นเดลตา หรือโอไมครอนก็พบได้หมด
นพ.ศุภกิจ กล่าวว่า แนวโน้มสายพันธุ์ที่พบขณะนี้ยังเป็นเดลตา แต่เชื่อว่าอีกไม่นานก็โอไมครอน เนื่องจากแพร่ไว ในอนาคตไม่จำเป็นต้องมีการตรวจแยกสายพันธุ์อีกต่อไป อาจใช้การตรวจแบบสุ่ม ส่วนวิธีการรักษาอยากให้ประชาชนเข้าใจว่า เมื่อเจอผู้ป่วยก็จะใช้เรื่องการรักษา แบบ HI เป็นหลัก เพราะต้องมีการจำลองเตียงไว้สำหรับผู้ป่วยที่มีอาการหนัก หากอาการไม่รุนแรง เชื้อไม่ลงปอดก็สามารถรักษาตัวได้ที่บ้าน สำคัญที่การติดตามอาการอย่างใกล้ชิด
ส่วนการพบเชื้อฟูลโรนา ที่เป็นการผสมระหว่างเชื้ออินฟลูเอนซ่า กับ โคโรนาไวรัส ว่า เชื้อทั้ง 2 ตัว คือ ไข้หวัดใหญ่ และ โคโรนาไวรัส จัดเป็นเชื้อก่อโรคระบบทางเดินหายใจ มีลักษณะการแพร่เชื้อเหมือนกัน คือ ละอองฝอย หากสวมหน้ากากอนามัยป้องกัน ก็สามารถป้องกันได้ทั้ง 2 โรค และขณะนี้สามารถป้องกันและลดความรุนแรงของโรคได้ ด้วยการรับวัคซีน ทั้งไข้หวัดใหญ่ และโควิด .-สำนักข่าวไทย