ป.ป.ส.ไทย-ออสเตรเลียลุยคดียาเสพติดข้ามชาติ

ป.ป.ส.16 ธ.ค.- ป.ป.ส.แลกเปลี่ยนตัวอย่างยาเสพติดกับออสเตรเลีย มุ่งจัดทำฐานข้อมูล ผลตรวจพิสูจน์เชื่อมโยง สู่การจับกุมคดียาเสพติดข้ามชาติ


นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (เลขาธิการ ป.ป.ส.) เป็นประธานในการแลกเปลี่ยนตัวอย่างยาเสพติดให้โทษของกลางระหว่างไทย-ออสเตรเลีย พร้อมด้วยนายไซม่อน ลาลิค(Mr. Simon Lalic)เจ้าหน้าที่อาวุโส สำนักงานตำรวจสหพันธ์ออสเตรเลีย (Australian Federal Police; AFP) และนางดาวิน่า โคปลิน (Mrs.Davina Copelin) เจ้าหน้าที่ตำรวจประสานงาน เข้าร่วม โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อตรวจพิสูจน์และจัดทำฐานข้อมูล สนับสนุนในการสืบสวนต่อยอดหาความเชื่อมโยงคดียาเสพติด จนนำไปสู่การจับกุมคดียาเสพติดข้ามชาติรายสำคัญทั้งในประเทศไทยและประเทศออสเตรเลีย และเพิ่มศักยภาพการตรวจพิสูจน์ยาเสพติดของประเทศไทยให้ทันต่อสถานการณ์ยาเสพติดที่เปลี่ยนไป

นายวิชัย กล่าวด้วยว่า สำนักงาน ป.ป.ส. ได้มีการแลกเปลี่ยนตัวอย่างและข้อมูลผลการตรวจพิสูจน์ยาเสพติดกับสำนักงานตำรวจสหพันธ์ออสเตรเลีย มาแล้ว 2 ครั้ง เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2561 และเมื่อวันที่ 20 กันยายน 2562 ซึ่งเป็นการแลกเปลี่ยนตัวอย่างยาเสพติดของกลาง ไอซ์ ครั้งละ 20 ตัวอย่าง ซึ่งการส่งมอบยาเสพติดให้โทษครั้งนี้ นับเป็นครั้งที่ 3 เป็นการแลกเปลี่ยนตัวอย่างของกลางไอซ์ จำนวน 20 ตัวอย่าง ตัวอย่างละ 1 กรัม รวม 20 กรัม และของกลางยาบ้า จำนวน 20 ตัวอย่าง ตัวอย่างละ 20 เม็ด รวม 400 เม็ด ซึ่งเป็นยาเสพติดให้โทษของกลางที่มีการจับกุมได้ในช่วงปี2560–2562 ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล ที่มุ่งเน้นการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดอย่างเข้มข้น รวมถึงความร่วมมือในระดับนานาประเทศ การแลกเปลี่ยนข้อมูลยาเสพติดทำให้ทราบถึง ความแตกต่าง/ความเหมือน ทั้งชนิดของสารตั้งต้น กลไกการผลิต ระหว่างยาเสพติดที่จับได้ในออสเตรเลียเปรียบเทียบกับยาเสพติดที่จับได้ประเทศไทยและนำข้อมูลมาวิเคราะห์ความเชื่อมโยงของคดีรายสำคัญ และวิเคราะห์สถานการณ์ยาเสพติดทั้งในและนอกประเทศได้ โดยการเปรียบเทียบกับผลการตรวจพิสูจน์ยาเสพติดเชิงลึกในด้านชนิดของสารตั้งต้นที่ใช้ในกระบวนการผลิต ตลอดจนการจัดทำข้อมูลลักษณะเฉพาะของยาเสพติด (Drug Profile) ของประเทศไทย


ซึ่งในปี 2564 ที่ผ่านมาไทยกับออสเตรเลียได้มีความร่วมมือกันอย่างดีมาโดยตลอด เช่น การแลกเปลี่ยนข้อมูลจากการจับกุมการลักลอบเฮโรอีนบรรจุในถังสีน้ำหนักกว่า 314 กก. มูลค่าประมาณ 900 ล้านบาท และนำไปสู่การจับกุมหัวหน้าองค์กรค้ายาเสพติดรายสำคัญของออสเตรเลีย เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2564 ที่ผ่านมา

นายไซม่อน ลาลิค ผู้แทน AFP กล่าวว่า สำหรับความร่วมมือด้านการตรวจพิสูจน์ยาเสพติดนี้อยู่ภายใต้ความร่วมมือด้านยาเสพติด การฟอกเงินและอาชญากรรมข้ามชาติ ระหว่างไทย-ออสเตรเลีย หรือหน่วยปฏิบัติการเฉพาะกิจ (taskforce Storm) ซึ่งออสเตรเลียมีห้องปฏิบัติการทางเคมีที่ทันสมัย สามารถตรวจสอบได้ถึงระดับโครงสร้างทางเคมีของสารตั้งต้น รวมถึงที่มาของสารตั้งต้นไม่ว่าจะมาจากธรรมชาติ กึ่งสังเคราะห์ หรือจากการสังเคราะห์

นอกจากนี้ยังสนับสนุนการเพิ่มประสิทธิภาพผู้ตรวจพิสูจน์ ยาเสพติดทั่วประเทศไทย โดยส่งผู้เชี่ยวชาญด้านการตรวจพิสูจน์มาให้ความรู้เรื่องวิธีการตรวจพิสูจน์ ที่มา และชนิดสารตั้งต้น กลไกการผลิต รูปแบบสารปนเปื้อนในตัวอย่างยาเสพติด เพื่อให้ผู้ตรวจพิสูจน์ในประเทศไทยมีความรู้และทักษะในการตรวจพิสูจน์ยาเสพติดในเชิงลึกมากขึ้น


ทั้งนี้ สำนักงาน ป.ป.ส. ยังมีโครงการแลกเปลี่ยนตัวอย่างยาเสพติด ไทย-จีน ภายใต้ความร่วมมือด้านการป้องกันและปราบปรามระดับทวิภาคี โดยความร่วมมือดังกล่าวไม่ว่าจะเป็นความร่วมมือกับประเทศออสเตรเลียหรือประเทศจีน ส่งผลให้การจับกุมและจำแนกชนิดยาเสพติดทำได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น เป็นประโยชน์ต่อการค้นหาต้นตอแหล่งผลิต และที่มา ช่วยให้เจ้าหน้าที่และสังคมรู้เท่าทันสถานการณ์ เฝ้าระวังยาเสพติดที่มีพัฒนาการที่รวดเร็วยิ่งขึ้น.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่ม 31 ซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับคาที่ หลังมีปากเสียงเรื่องขับเฉี่ยวชน

หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย ลูกเจ้าของร้านขายผ้าซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับ ริมถนนสุขุมวิท หลังมีปากเสียงเรื่องขับรถเฉี่ยวไม่ลงมาเจรจา

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ขับรถชนไรเดอร์ดับ

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ที่หัวร้อนขับรถชนไรเดอร์ดับคาที่กลางสุขุมวิท เมื่อวานนี้ พร้อมไหว้ขอสื่อ อย่ามายุ่งกับครอบครัว

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ศาลให้ประกันหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนไรเดอร์ดับ

ครอบครัวไรเดอร์ที่ถูกหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนเสียชีวิต กอดกันร้องไห้รับร่างและรดน้ำศพ ด้านศาลให้ประกันตัวผู้ต้องหา วงเงิน 600,000 บาท ติดกำไล EM-ห้ามออกนอกประเทศ

ข่าวแนะนำ

สมรสเท่าเทียม

นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้

“แพทองธาร” นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมแสดงความยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้ ขอบคุณทุกภาคส่วนผ่านการต่อสู้กับอคติกว่า 2 ทศวรรษ ทำให้ ทุกตารางนิ้วของประเทศไทยโอบรับความหลากหลาย และเท่าเทียม

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 20 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ฝุ่น กทม.

คนกรุงจมฝุ่นต่อเนื่อง เช้านี้อยู่ระดับสีแดง 21 พื้นที่

กทม. อ่วมหนัก ฝุ่น PM 2.5 พุ่งต่อเนื่อง อยู่ระดับสีแดง ผลกระทบต่อสุขภาพ 21 พื้นที่ ย้ำสวมหน้ากากอนามัยขณะอยู่นอกอาคาร และงดกิจกรรมกลางแจ้ง