ย้ำ ร้านอาหารแหล่งท่องเที่ยว ยกการ์ดสูงเข้มมาตรการโควิด

กทม. 11 ธ.ค.-กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ย้ำ ร้านอาหารในแหล่งท่องเที่ยวเฝ้าระวังความเสี่ยงและปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด-19

นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ในช่วงวันหยุดยาว ทำให้แหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ มีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก โดยเฉพาะในสถานประกอบการร้านอาหารควรมีการเฝ้าระวังความเสี่ยงตามมาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง โดยขอให้ปฏิบัติดังนี้ 1) ทำความสะอาดโต๊ะทันที หลังใช้บริการ และจัดทำสัญลักษณ์แสดงการทำความสะอาด 2) ทำความสะอาดจุดสัมผัสร่วมและห้องน้ำ ทุก 1-2 ชั่วโมง 3) จัดอุปกรณ์กินอาหารเฉพาะบุคคล กรณีที่ต้องกินหม้อหรือภาชนะเดียวกัน ต้องจัดอุปกรณ์ตักอาหารเฉพาะบุคคลเช่นเดียวกัน และต้องใช้ช้อนกลางส่วนตัว 4) กรณีจัดบริการอาหารรูปแบบผู้บริโภคบริการตนเองหรือบุพเฟ่ต์ ต้องจัดบริการถุงมือให้กับผู้บริโภคในขณะใช้ 5) จัดบริการเจลแอลกอฮอล์ประจำทุกโต๊ะ หรือบริเวณที่เข้าถึงง่าย กรณีศูนย์อาหารให้จัดบริการเจลแอลกอฮอล์ประจำร้านหรือประจำทุกแผง 6) เว้นระยะห่างระหว่างบุคคลและโต๊ะกินอาหาร 1-2 เมตร หากมีพื้นที่จำกัดมีระยะไม่ถึง 1 เมตร ให้ทำฉากกั้น ในกรณีพื้นที่มีเครื่องปรับอากาศ เว้นระยะห่างระหว่างโต๊ะ 2 เมตร และไม่นั่งตรงข้ามกัน โดยจำกัดจำนวนผู้ใช้บริการไม่ให้แออัด หรือ มีความหนาแน่นผู้ใช้บริการไม่เกิน 1 : 4 ตารางเมตร และปฏิบัติตามมาตรการของพื้นที่ 7) จำกัดระยะเวลากินอาหารไม่เกิน 2 ชั่วโมง และ 8) มีการจัดการระบบระบายอากาศ โดยเปิดประตู หน้าต่าง อย่างน้อย 30 นาที ก่อนเปิด – ปิดระบบปรับอากาศ และมีการระบายอากาศที่เหมาะสมต่อจำนวนคน รวมทั้งพื้นที่ปรับอากาศให้เปิดระบายอากาศในพื้นที่กินอาหารทุก 1 ชั่วโมง นอกจากนี้ ห้องน้ำควรมีระบบระบายอากาศที่ดี หรือเปิดพัดลมระบายอากาศในห้องน้ำตลอดเวลาที่ให้บริการ


“ทั้งนี้ ขอความร่วมมือให้ผู้รับบริการคัดกรองความเสี่ยงก่อนเข้าร้านด้วย “ไทยเซฟไทย” อยู่เสมอ และสวมหน้ากากอนามัยให้ถูกต้องตลอดเวลา ยกเว้นตอนกินอาหารเท่านั้น และนั่งกินอาหารหรือใช้บริการ ในร้านอาหารไม่เกิน 1-2 ชั่วโมง สำหรับผู้ใช้บริการที่ต้องการเข้าร้านที่มีเครื่องปรับอากาศ ควรฉีดวัคซีนครบ ตามเกณฑ์ที่กรมควบคุมโรคกำหนด หรือมีผลตรวจ ATK เป็นลบไม่เกิน 7 วัน และต้องปฏิบัติตามมาตรการ UP-DMHTA อย่างเคร่งครัด นอกจากนี้ ผู้รับบริการสามารถประเมินหรือร้องเรียนสถานประกอบการ ให้ปฏิบัติได้ตามมาตรการ COVID Free Setting ได้ ผ่าน 3 ช่องทาง คือ ช่องทางที่ 1 สแกน QR Code ใน E-Certificate ของสถานประกอบการที่ไปใช้บริการ ช่องทางที่ 2 ประเมินผ่านทางเว็บไซต์ Thai Stop COVID Plus ของกรมอนามัย และ ช่องทางที่ 3 ประเมินผ่านทางเฟซบุ๊กแฟนเพจ “ผู้พิทักษ์อนามัย COVID Watch” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มุกใหม่มิจฉาชีพ

มุกใหม่มิจฉาชีพ! ป่วนโทรแจ้ง ตร. เกิดเหตุร้ายที่บ้านเหยื่อ

อินฟลูฯ สาว สายทำอาหาร ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นตำรวจโทรหา แต่เธอไม่เชื่อ โดนท้าอีก 10 นาทีเจอกัน ปรากฏว่า มีตำรวจจาก 2 โรงพักบุกมาที่บ้านจริง

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา บอกสนามใหญ่ ไม่เข้าไปก้าวก่ายสนามท้องถิ่น ซ้ายก็เพื่อน ขวาก็พวก

ครม.เคาะแจกเงินหมื่นเฟส 2 ผู้สูงอายุ 60 ปี

“จุลพันธ์” เผย ครม.เห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกลุ่มผู้สูงอายุ วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการทันก่อน 29 ม.ค.68 รวม 3 มาตรการ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ 1.4-1.5 แสนล้านบาท

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ตรวจความพร้อมหมอชิต 2 ให้บริการ ปชช.เดินทางช่วงปีใหม่

นายกฯ ตรวจความพร้อมหมอชิต 2 ให้บริการประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยไม่แจ้งล่วงหน้า กำชับ บขส. อำนวยความสะดวกเตรียมพร้อมรถ สั่งเข้มตรวจแอลกอฮอล์-ยาเสพติดพนักงานขับรถ ป้องกันอุบัติเหตุ

เดินทางปีใหม่สายเอเชีย

ถนนสายเอเชียมุ่งสู่ภาคเหนือรถเริ่มมาก

ประชาชน เริ่มทยอยเดินทางกลับภูมิลำเนา และไปท่องเที่ยวช่วงส่งท้ายปี 2567 รับปีใหม่ 2568 การจราจรถนนสายเอเชีย ฝั่งขาขึ้นภาคเหนือ ช่วงชัยนาท รถเริ่มมาก

ฉายาตำรวจปี67

เปิด 10 ฉายาตำรวจ ปี 67

สมาคมผู้สื่อข่าวและช่างภาพอาชญากรรมฯ เปิด 10 ฉายา ตำรวจ “บิ๊กต่าย” ฉายา “กัปตันเรือกู้” จากภารกิจร้อนในการกอบกู้วิกฤติศรัทธา-ภาพลักษณ์องศ์กร “สารวัตรแจ๊ะ” ได้ฉายา “อย่าเล่นกับระบบ แจ๊ะ”