กรมการแพทย์ 7 ธ.ค.- กรมการแพทย์ พร้อมรับมือโควิดโอไมครอน ยืนยันเชื้ออาจแพร่เร็วกว่าเดลตา ยังสามารถใช้การรักษารูปแบบเดิมได้
นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ซึ่งเดินทางมาตรวจเยี่ยมศูนย์บริการวัคซีน ที่ รพ.ราชวิถี พร้อมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยถึงการเตรียมความพร้อมในการรับมือกับโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน ที่เพิ่งพบผู้ติดเชื้อรายแรกในไทยและหากมีการแพร่ระบาดรอบใหม่ในวงกว้าง โดยขณะนี้ได้เตรียมระบบไว้พร้อมแล้ว ทั้งเรื่องของยาแพกซ์โลวิดของไฟเซอร์ ขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนแก้ไขสัญญาร่วมกัน ส่วนยาโมลนูพิราเวียร์ คาดว่าจะเข้ามาในไทย ม.ค.ปี65 ตามแผน รวมถึงประสานกับโรงพยาบาลเครือข่ายในทุกภาคอยู่ตลอด มีพร้อมทั้งสถานที่และจำนวนเตียง อย่างในพื้นที่ กทม. ก็มีเพียงพอ ตอนนี้ใช้อยู่น้อยมาก
ทั้งนี้ รูปแบบการรักษาโควิดสายพันธุ์โอไมครอน จะยังคงใช้หลักการการรักษาในรูปแบบเดียวกัน คือถ้าไม่มีอาการ หรือมีอาการน้อย จะให้เข้าระบบการรักษาตัวแบบ Home isolation (การแยกกักตัวที่บ้าน) และ Community Isolation หรือการดูแลผู้ป่วยโควิด-19 ในระบบชุมชน ซึ่งในเมืองไทยเราทำได้อย่างมีมาตรฐานอยู่แล้ว มีระบบการส่งยา ส่งอาการ และแพทย์ช่วยติดตามอาการอย่างใกล้ชิด
โดยวันพฤหัสบดี ที่ 9 ธ.ค.นี้ จะมีการประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สปสช. และกทม. เพื่อเตรียมรับมือโควิดสายพันธุ์โอไมครอนและจะนำระบบสายด่วน สปสช. 1330 กลับมาให้บริการอย่างเต็มรูปแบบอีกครั้ง รองรับสถานการณ์โควิดรอบใหม่ที่อาจจะเกิดขึ้น
อย่างไรก็ตามยืนยันแม้โอไมครอนจะแพร่ระบาดได้เร็ว แต่ก็ยังไม่มีรายงานผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงจนถึงขั้นเสียชีวิต โดยส่วนตัวกังวลและเป็นห่วงในกลุ่มเด็กอายุ 3-11 ปี ซึ่งเป็นกลุ่มที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนและอาจติดเชื้อได้ง่ายจึงเร่งประสานเครือข่ายโรงพยาบาลต่างๆเพื่อเตรียมความพร้อมเรื่องเตียง และวางระบบไว้รองรับ หากเกิดกรณีโอไมครอนแพร่ระบาดในวงกว้างขึ้นมาจริงๆ .-สำนักข่าวไทย