รพ.ราชวิถี 7 ธ.ค.- “อนุทิน” ระบุยังไม่จำเป็นต้องล็อกดาวน์ ระบบสาธารณสุขและวัคซีนที่ไทยมี ยังรับมือกับโอไมครอนได้
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เดินทางมาตรวจเยี่ยมศูนย์บริการวัคซีน ที่ รพ.ราชวิถี พร้อมเปิดเผยว่า ตอนนี้ได้เร่งรณรงค์ฉีดวัคซีนเข็ม3ให้กับประชาชน ส่วนคนที่เดินทางไปต่างประเทศไม่ต้องกังวลเพราะวัคซีนที่ไทยใช้เป็นที่ยอมรับของนานาชาติแล้ว พร้อมกันนี้ได้หารือกับอธิบดีกรมควบคุมโรค เพื่อความสบายใจและไม่ตื่นตระหนกของประชาชน จึงให้ผู้ที่ได้รับวัคซีนซิโนแวค ซิโนฟาร์ม แอสตราเซเนกา มาตั้งแต่เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ให้รีบไปลงทะเบียนรับวัคซีนเข็ม3 เพื่อความปลอดภัย โดยขณะนี้ได้ฉีดวัคซีนให้กับกลุ่มเป้าหมายที่เป็นกลุ่มเปราะบางไปแล้วเกือบ 100% ส่วนชาวต่างชาติและรายงานต่างด้าวก็ฉีดไปได้แล้วจำนวนมาก จึงขอให้คนที่ยังลังเลและกังวลรีบเข้ามาฉีดวัคซีนโดยเร็ว
สำหรับสถานการณ์โควิดสายพันธุ์โอไมครอน ถ้าได้รับวัคซีนครบถ้วนแล้ว ปฏิบัติตามมาตรการ Universal Prevention การป้องกันการติดเชื้อแบบครอบจักรวาล และป้องกันตัวเองตามมาตรการสาธารณสุขอย่างเข้มข้นก็จะสามารถป้องกันได้ ขณะที่ยังคงเพิ่มความเข้มข้นในการตรวจคัดกรองผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ จนกระทั่งพบผู้ติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนรายแรก เป็นชายชาวอเมริกันที่เดินทางมาจากสเปน พร้อมทั้งเฝ้าระวังผู้ใกล้ชิดกับผู้ป่วยทั้งหมดแล้ว
ทั้งนี้ นอกจากการยกระดับมาตรการห้ามผู้ที่มาจาก 8 ประเทศจากทวีปแอฟริกาเดินทางเข้าไทยแล้ว ผู้เดินทางจากประเทศอื่นๆทุกคน ก็ยังคงต้องผ่านระบบการคัดกรองอย่างเข้มข้นเช่นกัน โดยต้องแสดงหลักฐาน เช่น ผลการตรวจ RT-PCR มีวัคซีนพาสปอร์ต ว่าได้รับวัคซีนชนิดที่ได้รับการยอมรับ เมื่อมาถึงไทยก็ต้องเข้ารับการตรวจ RT-PCR อีกรอบ พร้อมกับกักตัวในโรงแรมอีก1คืน
“ฉะนั้นหากพบผู้เดินทางจากต่างประเทศติดเชื้อโควิดก็จะอยู่ในระบบกักกัน จึงขอให้ประชาชนสบายใจและอย่าตระหนก ซึ่งโดยส่วนตัว จึงเห็นว่ายังไม่ควรต้องล็อกดาวน์ เนื่องจากไทยเพิ่งเริ่มกลับมาเปิดประเทศธุรกิจต่างๆเพิ่งเริ่มกลับมาฟื้นตัว อีกทั้งระบบสาธารณสุขก็ยังรองรับได้ และวัคซีนชนิดต่างๆที่มีก็ยังสามารถป้องกันโควิดได้ทุกสายพันธุ์ ช่วยให้ผู้ป่วย อาการไม่รุนแรงหรือเสียชีวิต นอกเหนือจากมีโรคแทรกซ้อน” นายอนุทิน กล่าว .-สำนักข่าวไทย