รณรงค์ “ความรุนแรงในบ้าน ให้มันจบที่ครั้งแรก”

กรุงเทพฯ 24 พ.ย.-เครือข่ายผู้หญิงจัดเวที ส่งสัญญาณเตือน วันยุติความรุนแรงต่อสตรีสากล พบสถิติ 3 ใน 4 ถูกกระทำซ้ำ น้ำเมาตัวกระตุ้นหลัก ช่วงโควิดรุนแรงเพิ่มขึ้น ชวนผู้หญิงอย่าทน ต้องหยุดความรุนแรงตั้งแต่ครั้งแรก


วันนี้ (24 พ.ย.) ที่เดอะฮอล์บางกอกวิภาวดี มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล ร่วมกับ สสส.และวันเดอร์แมน ธอมสัน ประเทศไทย จัดกิจกรรมรณรงค์เนื่องในวันยุติความรุนแรงต่อสตรีสากล (25พ.ย.) ภายใต้แนวคิด “ความรุนแรงในบ้าน ให้มันจบที่ครั้งแรก

น.ส.รุ่งอรุณ ลิ้มฬหะภัณ รักษาการ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนการควบคุมปัจจัยเสี่ยงหลัก สสส.เปิดเผยว่า เดือนพฤศจิกายน ถือเป็นเดือนรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็กและสตรี โดยข้อมูลจากมูลนิธิหญิงชายก้าวไกล พบว่าความรุนแรงเกิดขึ้นกับผู้หญิงเป็นส่วนใหญ่ และเคสที่ถูกกระทำทุกเคส 100% ถูกกระทำซ้ำ และรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ โดยแอลกอฮอล์เป็นปัจจัยร่วมสำคัญ สสส.พร้อมภาคีเครือข่าย จึงต้องเร่งเดินหน้าเชิงรุก โดยได้เปิดตัว พิพิธภัณฑ์ออนไลน์ “museum of first time” ในรูปแบบ virtual นิทรรศการเรื่องราวผู้หญิงที่ถูกกระทำความรุนแรงซ้ำ ชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของปัญหาที่ต้องให้มันจบที่ครั้งแรก


น.ส.ชนิกานต์ สิทธิอารีย์ ผู้ร่วมก่อตั้งวันเดอร์แมน ธอมสัน ประเทศไทย กล่าวว่า หากมีความรุนแรงเกิดขึ้นในบ้านครั้งแรกแล้วฝ่ายชายจะขอโทษและให้คำสัญญาส่วนใหญ่ผู้หญิงจะยอมให้อภัยเพราะคิดว่าจะไม่มีอีก แต่ความจริงพบว่าเมื่อมีความรุนแรงเกิดขึ้นครั้งแรกแล้ว มักจะมีครั้งต่อไปเสมอและเพิ่มระดับความรุนแรงมากขึ้น หลายรายถึงขั้นเสียชีวิต จึงนำเรื่องราว “ครั้งแรกของผู้หญิง”หรือ “Museum of First Time”มาถ่ายทอดในพิพิธภัณฑ์เสมือนจริง โดยผู้สนใจสามารถเข้าชมผลงานได้ที่ www.museumof1sttime.com และหวังให้ผู้หญิงที่ถูกทำร้ายกล้าลุกขึ้นมาต่อสู้เพื่อสิทธิของตัวเอง เพื่อให้เกิดเป็นสังคมที่มีความเท่าเทียมทางเพศ

น.ส.จรีย์ ศรีสวัสดิ์ หัวหน้าฝ่ายส่งเสริมภาคีเครือข่าย มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล กล่าวว่า จากการสำรวจความรุนแรงในครอบครัวช่วงโควิด-19 ในช่วงวันที่ 17–23 ตุลาคม 2564 ที่ผ่านมา ในกลุ่มตัวอย่างอายุ 20 ปีขึ้นไป จำนวน 1,692 คน ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล พบครอบครัวที่มีความรุนแรงมากกว่า 1ครั้ง สูงถึง 75% โดยผู้ได้รับความรุนแรนส่วนใหญ่ตอบโต้ด้วยความรุนแรงกลับไป 52.2% และยังพบผู้กระทำขณะเมาเหล้า 31.4% แต่ที่น่าเป็นห่วงคือ ผู้ได้รับความรุนแรง 87.4% ไม่เคยขอความช่วยเหลือหรือปรึกษาจากหน่วยงานใดเพราะต้องการเก็บเป็นความลับไม่รู้วิธีขอความช่วยเหลือ และคิดว่าติดต่อไปก็ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ รวมถึงการใช้อำนาจลดปัจจัยจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยการบังคับใช้กฎหมาย พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 รวมถึงรณรงค์ให้ผู้หญิงได้เข้าถึงสิทธิ มีทางออก มีพื้นที่ มีหน่วยงานที่คอยให้ความช่วยเหลือ

ทั้งนี้ มูลนิธิหญิงชายก้าวไกลพร้อมช่วยเหลือทั้งทางกฎหมายและการเริ่มต้นชีวิตใหม่ ซึ่งติดต่อได้ทาง 02-513-2889 หรือFacebook “มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล” หรือโทร.สายด่วน 1300


ขณะที่ในการเสวนามีการบอกเล่าประสบการณ์ของ 1ในผู้ที่เคยได้รับผลกระทบจากความรุนแรงในครอบครัว ที่เล่าว่า ช่วงเธอวัยรุ่นอายุ 17 ปี คบกับแฟนอายุห่างกันกว่า10ปี ดื่มแอลกอฮอล์ทั้งคู่ ทำให้มักมีเรื่องทะเลาะตบตีรุนแรง เคยถูกเหยียบศรีษะต่อหน้าเพื่อนในวงเหล้า จนทนไม่ไหวขอเลิก แต่ผู้ชายไม่ยอมเลิก ซ้ำร้ายยังตั้งครรภ์ จึงทนอยู่ต่อไปเพื่อลูก แต่สุดท้ายทนไม่ได้อีกเพราะเขายังทำร้ายร่างกาย ทำแล้วซ้ำเล่า และยังทำลูกด้วย จึงตัดสินใจออกมาเด็ดขาด และคิดว่าปัญหาส่วนหนึ่งมาจากเราที่พาตัวเองไปอยู่ในวงจรแบบนั้น จึงขอฝากถึงผู้หญิงให้รักตัวเอง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผ่าไชน่า เรลเวย์ คว้า 3 โครงการรัฐในภูเก็ต

เหตุการณ์ตึก สตง.ถล่ม กลายเป็นปฐมบทในการปูพรมตรวจสอบบริษัท ไชน่า เรลเวย์ หลังพบเป็นผู้ชนะการประมูลโครงการก่อสร้างตึก สตง. และโครงการรัฐหลายแห่งทั่วประเทศ ล่าสุดที่ จ.ภูเก็ต ตรวจพบ 3 โครงการ และหนึ่งในนั้นกำลังมีปัญหาก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน

มหาสงครามโลก

นักวิชาการชี้ “มหาสงครามโลกครั้งที่ 3” เกิดแน่ถ้าโลกยังตึงเครียด

นักวิชาการด้านความมั่นคงและการต่างประเทศระดับแนวหน้าของไทย มีความเห็นตรงกันว่า หากผู้นำชาติมหาอำนาจไม่เร่งลดระดับความตึงเครียดสถานการณ์โลก

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว หลังอยู่ปฏิบัติภารกิจค้นหา-กู้ชีพ สนับสนุนกู้ภัยไทย เหตุตึก สตง.ถล่ม กว่า 1 สัปดาห์

ธรรมชาติใต้ดินเปลี่ยนไป หลังแผ่นดินไหว 1 สัปดาห์

แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่งแรงสั่นสะเทือนในหลายพื้นที่ของภาคเหนือ แม้บนพื้นผิวดินจะไม่ได้สร้างความเสียหายมากนัก แต่พบความเปลี่ยนแปลงสภาพใต้ดินจนเกิดปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทั้งหลุมยุบขนาดใหญ่ น้ำพุร้อนที่เคยพุ่งจากใต้ดินหายไป แต่น้ำตกที่แห้งในหน้าแล้งกลับมีน้ำไหลออกมา ซึ่งนักธรณีวิทยายืนยันเป็นผลพวงจากแผ่นดินไหวครั้งนี้

ข่าวแนะนำ

“ไฮโซกำมะลอ” กระโดดชั้น 3 สน.โคกคราม

“ไฮโซเก๊” โลก 2 ใบ เครียดปีนตึก หลังถูก “คะน้า” ดาราสาว ออกมาแฉกลางรายการดัง จนตำรวจต้องเข้าเกลี้ยกล่อมพาไปโรงพัก แต่ยังวิ่งหนีการควบคุม กระโดดลงมาจากชั้น 3 สน.โครกคราม บาดเจ็บ

วันที่ 11 ปฏิบัติการกู้ซากตึก สตง. ถล่ม

วันที่ 11 ของปฏิบัติการกู้ซากตึก สตง. พังถล่ม เจ้าหน้าที่เดินหน้าใช้เครื่องจักรหนักเข้า เคลียร์ซากต่อเนื่อง โดยเฉพาะโซนบี และซี ที่คาดว่าเป็นจุดที่มีผู้ติดค้างอยู่จำนวนมาก

ชุดค้นหาลงโพรงโซน B, C ลึก 5-6 เมตร ได้กลิ่นแรง ไม่พบผู้สูญหาย

“กู้ภัย” เผยเจาะโพรงพื้นที่โซน B และ C ได้แล้ว พร้อมส่งชุดค้นหาลงโพรงไปตรวจสอบลึก 5-6 เมตร ยังไม่พบผู้สูญหายเพิ่ม แต่ได้กลิ่นแรง เร่งเดินหน้าเครื่องจักรหนักเคลียร์ซากต่อเนื่อง ยันจะช่วยเหลือจนกว่านำร่างสุดท้ายออกมาครบ