เตือนระวังคนใกล้ชิดล่วงละเมิดทางเพศวันลอยกระทง

ยธ.19 พ.ย.- เตือนหญิงและกลุ่ม LGBT ระวังถูกคนใกล้ชิดล่วงละเมิดทางเพศวันลอยกระทง เว้นระยะห่างอย่าไว้ใจ


น.ส.สุเพ็ญศรี พึ่งโคกสูง ประธานมูลนิธิส่งเสริมความเสมอภาคทางสังคม กล่าวว่า ในเทศกาลวันลอยกระทงซึ่งเป็นประเพณีที่ดีงาม การไปเที่ยวในกลุ่มเพื่อนซึ่งจะต้องฝากไปถึง โดยเฉพาะผู้ชายจะต้องไม่ฉวยโอกาส ส่วนผู้หญิงต้องมีระยะห่างในการไว้ใจเพราะการคุกคามทางเพศเกิดได้ทุกที่ไม่ว่าจะอยู่ในรถเมล์ รถไฟ หรือรถแท็กซี่ ปัจจุบันปัญหาการล่วงละเมิดทางเพศไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะกับเพศหญิงเท่านั้น ยังพบในกลุ่มบุคคลที่มีความหลายหลายทางเพศมากขึ้น ทั้งในที่ทำงาน ที่บ้าน หรือตามสถานที่ต่างๆก็มีความไม่ปลอดภัยจึงไม่ควรไว้ใจ โดยเฉพาะการถูกล่วงละเมิดจากบุคคลใกล้ชิด กลุ่มเพื่อน คนรู้จักใกล้ชิดคุ้นเคย หรือบิดา ซึ่งฉวยโอกาสและเข้าจู่โจม

ประธานมูลนิธิส่งเสริมความเสมอภาคทางสังคม กล่าวอีกว่า แม้ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 และมีการล็อกดาวน์ให้ทำงานอยู่บ้านแต่กลับมีเรื่องร้องทุกข์หนักๆ ที่ถูกส่งมาจากโรงพยาบาลตำรวจ เพื่อขอรับความช่วยเหลือด้านกฎหมายเข้ามาที่มูลนิธิฯเฉลี่ยถึงเดือนละ 3-4 เคส เหยื่อมีทั้ง ผู้หญิง คนพิการ ลูกจ้างเอกชนหญิง ซึ่งถูกเจ้านายล่วงละเมิด ข้าราชการหญิงถูกผู้อำนวยการฯระดับสูง ส่วนใหญ่เป็นหัวหน้าส่วนราชการในต่างจังหวัด ล่วงละเมิด ทั้งหมดมักเป็นผู้มีอำนาจและฐานะทางการเงินโดยผู้ถูกล่วงละเมิดมีอายุตั้งแต่ 20-30 ปีขึ้นไป และมีหลายคดีที่อยู่ระหว่างการสอบสวน มีการวิ่งเต้น ใช้เส้นสายหรือตำรวจมาร้องขอเพื่อเคลียร์คดี


ว่าที่ ร.ต.ธนกฤติ จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทวงยุติธรรม กล่าวว่า ปัญหาการล่วงละเมิดทางเพศเกิดอยู่บ่อยครั้ง ไม่ว่าจะเป็นช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 หรือตามเทศกาลต่างๆ ที่มีคนอยู่ร่วมกันเป็นจำนวนมาก วันนี้ก็อยากเตือนให้ประชาชนที่ไปเที่ยวลอยกระทงมีสติและระมัดระวังตัว ไม่ว่าจะจากปัญหาการเกิดอุบัติเหตุ จากการจราจร การทะเลาะวิวาท การถูกลวนลาม ล่วงละเมิด โดยเฉพาะการล่วงละเมิดทางเพศที่มักจะเกิดจากเพื่อน หรือบุคคลใกล้ชิด ซึ่งต้องระวังไม่เข้าไปอยู่ในพื้นที่มุมอับ จุดเสี่ยง รวมทั้งผู้ประกอบการโรงแรม ม่านรูด ในฐานะที่เป็นผู้ประกอบการต้องให้ความร่วมมือกับตำรวจในการเฝ้าระวังไม่ให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว เพื่อเป็นการป้องกันและไม่ให้เกิดผลกระทบ และเกิดเหตุการณ์สูญเสีย อย่างไรก็ตาม หากมีผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการถูกล่วงละเมิดทั้งทางร่างกาย จิตใจ หรือเป็นผู้สูญเสียจากเหตุอื่นก็สามารถร้องทุกข์ได้ที่สำนักงานยุติธรรมจังหวัด หรือที่ศุนย์ยุติธรรมสร้างสุข กระทรวงยุติธรรมเพื่อได้รับการคุ้มครองเยียวยา.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย