สำนักข่าวไทย 15 พ.ย.- อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิฯ ส่งเจ้าหน้าที่แจ้งสิทธิทางกฎหมาย ให้ผู้บาดเจ็บในม็อบหน้าสถาบันนิติเวชเมื่อวานนี้
นายเรืองศักดิ์ สุวารี อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม เปิดเผยถึงกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชนเกิดเหตุปะทะกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม เป็นเหตุให้ผู้ชุมนุมได้รับบาดเจ็บจำนวน 3 ราย ในการชุมนุมเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2564 บริเวณถนนอังรีดูนังต์ หน้าสถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ นั้น กรมฯได้ส่งเจ้าหน้าที่กองพิทักษ์สิทธิและเสรีภาพ เข้าไปพบผู้บาดเจ็บในเหตุดังล่าวเพื่อแจ้งสิทธิตามกฎหมาย
จากการประสานกับ รพ.จุฬาลงกรณ์พบว่ามีผู้ชุมนุม ได้รับบาดเจ็บจำนวน 3 ราย คือ นายอภิญโญ (ไม่ทราบนามสกุล) อายุ 23 ปี ได้รับบาดเจ็บโดนยิงที่บริเวณหน้าอก เข้าพักรักษาตัวที่ รพ.จุฬาลงกรณ์ ปัจจุบันพ้นขีดอันตรายแล้ว ส่วนอีก 2 ราย อยู่ระหว่างการประสานสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ซึ่งเจ้าหน้าที่กองพิทักษ์สิทธิฯ ได้แจ้งสิทธิผู้เสียหายในคดีอาญา ตามพระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหายและค่าทดแทน และค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา และให้คำแนะนำการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรม การเรียกค่าสินไหมทดแทนในคดีอาญา การฟ้องคดีแพ่งฐานละเมิด และการขอรับความช่วยเหลือทางด้านคดีจากกองทุนยุติธรรม ให้เจ้าหน้าที่ รพ. จุฬาลงกรณ์ เรียบร้อยแล้ว ซึ่งทาง รพ. จะแจ้งให้ผู้เสียหายทราบต่อไป
อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิฯ กล่าวอีกว่า การพิจารณาจ่ายค่าชดเชย ขึ้นกับดุลยพินิจในรูปคณะกรรมการ หากคดีนี้ผู้บาดเจ็บไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด จึงจะมีสิทธิได้รับเงินช่วยเหลือเยียวยาในฐานะเป็นผู้เสียหายในคดีอาญาตามมาตรา 3 ประกอบมาตรา 18 วรรคท้าย แห่งพระราชบัญญัติค่าตอบแทนฯ กรณี ความผิดต่อร่างกาย ได้แก่ ค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในการรักษาพยาบาลให้จ่ายเท่าที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 40,000 บาท ค่าฟื้นฟูสมรรถภาพทางร่างกายและจิตใจให้จ่ายเท่าที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 20,000 บาท
ค่าขาดประโยชน์ทำมาหาได้ ในระหว่างที่ไม่สามารถประกอบการงานได้ตามปกติ ให้จ่ายในอัตราค่าแรงขั้นต่ำในท้องที่จังหวัดที่ประกอบการงานเป็นระยะเวลาไม่เกิน 1 ปี นับแต่วันที่ไม่สามารถประกอบการงานได้ตามปกติ และค่าตอบแทนความเสียหายอื่น ให้จ่ายเป็นเงินตามจำนวนที่คณะกรรมการเห็นสมควร แต่ไม่เกิน 50,000 บาท โดยการจ่ายค่าตอบแทนฯ ขึ้นอยู่กับดุลพินิจในการพิจารณาของคณะอนุกรรมการฯ แต่เบื้องต้นผู้เสียหายทุกคนจะได้รับการแจ้งสิทธิฯก่อน.-สำนักข่าวไทย