บช.น. 15 พ.ย.-รอง ผบช.น. เผยการชุมนุมเมื่อวานนี้ มีผู้บาดเจ็บ 3 ราย อยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐาน ยืนยัน ตร.ที่ปฏิบัติหน้าที่ไม่ใช้กระสุนจริง
วันนี้ (15พ.ย.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น.และโฆษก บช.น.พร้อมด้วย พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงผลการปฏิบัติการในการดูแลความเรียบร้อยกลุ่มผู้ชุมนุมที่นัดรวมตัวกันบริเวณแยกปทุมวันและเคลื่อนขบวนไปยังสถานเอกอัครราชทูตเยอรมนี เมื่อวานนี้(14พ.ย.64)
พล.ต.ต.จิรสันต์ กล่าวว่า การชุมนุมวานนี้ ได้มีการจัดเตรียมกำลังพลเข้าพื้นที่เพื่อดูแลความเรียบร้อยโดยปฏิบัติการในกรอบของกฎหมาย แต่มีเหตุรุนแรงเกิดขึ้น มีผู้บาดเจ็บ3ราย โดยกลุ่มผู้ชุมชุมได้นัดรวมตัวกันที่แยกปทุมวัน มีการปิดการจราจร ทำให้ตำรวจต้องเจรจาเพื่อเปิดการจราจร แต่ผู้ชุมนุมยังปิดถนนอย่างต่อเนื่อง มีการเผาหุ่นตุลาการ และเคลื่อนตัวไปตามพระราม1เข้าถนนอังรีดูนังต์ กลุ่มผู้ชุมนุมเคลื่อนไปยังแยกเฉลิมเผา จุดนี้มีการปาสิ่งของเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ 2 นายจนต้องถอยร่นและมีผู้ชุมนุมขว้างวัตถุระเบิด และทำให้เจ้าหน้าที่ต้องใช้กระสุนยาง จากนั้นผู้ชุมนุมเคลื่อนไปที่สถานทูตเยอรมนี มีการชุมนุมบนถนนวิทยุ และมีการใช้ประทัดจนมีผู้บาดเจ็บ1ราย
รอง ผบช.น. กล่าวถึงกรณีที่ผู้ชุมนุมได้รับบาดเจ็บระหว่างชุมนุมว่า ขณะนี้ ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด อยู่ระหว่างประสานกับ รพ.จุฬาฯในขณะเกิดเหตุมีเสียงระเบิดเกิดขึ้นก่อน แล้วมีเสียงการยิงกระสุนยางตามมา จะต้องตรวจพิสูจน์ และอยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐาน ว่าเกี่ยวข้องกับการใช้กระสุนยางหรือไม่ และต้องพิสูจน์ทราบว่าบาดเจ็บจากอาวุธชนิดใด แต่ยืนยันว่า ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ไม่มีการใช้กระสุนจริงอย่างแน่นอน
ขณะที่การข่าวทราบว่า ในวันนี้(15พ.ย.) จะมีการชุมนุมของผู้ชุมนุม 4 กลุ่ม คือแท็กซี่รักประชาธิปไตย ชุมนุมหน้า ออมสินสำนักงานใหญ่, กลุ่มศิลปินเพลงเพื่อราษฎร นัด 17.00 น. เรือนจำพิเศษกรุงเทพ, กลุ่มพลเมืองโต้กลับ นัด 17.30 น.หน้าศาลฎีกา และกลุ่มทะลุแก๊สคาดว่าจะชุมนุมใต้ทางด่วนดินแดงด่วน17.30 น.
พล.ต.ต.จิรสันต์ ระบุว่า แม้พื้นที่กรุงเทพฯ จะเป็นพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที้ยว แต่การชุมนุม หรือการร่วมกลุ่มทำกิจกรรมลักษณะเสี่ยงต่อการแพร่โรค ยังคงมีความผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และ พ.ร.บ.โรคติดต่อ ตั้งแต่ ก.ค63ถึงปัจุบัน มีการดำเนินคดีทางกฎหมาย กับผู้ชุมนุม จำนวน 783 คดี สั่งฟ้อง 385คดี อยู่ระหว่างสอบสวน 398 คดี . – สำนักข่าวไทย