สธ. 10 พ.ย.-“อนุทิน” รับผู้ว่าฯ สระแก้ว สางปัญหาวัคซีนจอห์นสัน ยันใครทำก็ผิด ทั้งคนหิ้ว คนฉีด ขณะที่ สสจ.สระแก้ว ระบุเจ้าของคลินิกเป็นแพทย์ใกล้เกษียณ เหลืออายุราชการ 1 ปี เบื้องต้นสั่งปิดคลินิก 7 วัน และขอเวลา 15 วันตรวจสอบ ส่วนคนรับวัคซีนมีแค่ 4 คนที่โพสต์ลงเฟซบุ๊ก และไม่ได้แสดงตัว
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีมีการฉีดวัคซีนจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ที่คลินิกเอกชนแห่งหนึ่งในจังหวัดสระแก้ว ว่า การนำเข้าวัคซีนจะต้องมีกระบวนการตามกฎหมาย มีระบบขนส่ง จัดเก็บการควบคุมอุณหภูมิที่เหมาะสม ต้องรู้ที่มาที่ไป เพราะฉะนั้นกรณีนี้ผิดก็คือผิด คนหิ้วมาก็ผิด คนฉีดให้ก็ผิด ไม่ว่าวัคซีนนี้จะตรวจแล้วว่าเป็นวัคซีนจริงหรือวัคซีนปลอมก็ตาม และตนได้มีการหารือกับผู้ว่าฯ สระแก้วแล้ว
ส่วนกรณีที่พลอากาศตรีอิทธพร คณะเจริญ เลขาธิการแพทยสภา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวระบุถึงกรณีดังกล่าวว่ามุมหนึ่งเป็นการสะท้อนว่าในพื้นที่ต้องการได้รับวัคซีนที่มีคุณภาพประสิทธิภาพนั้น ส่วนตัวไม่ทราบเรื่องที่ท่านโพสต์แต่ที่ผ่านมาเจอหน้ากัน ก็ไม่เห็นพูดเรื่องนี้ มีแต่ชื่นชมและให้กำลังใจ ขอยืนยันว่าวัคซีนที่รัฐบาลจัดหาเป็นวัคซีนที่ดีมีคุณภาพ และยืนยันด้วยว่าได้มีการจัดส่งวัคซีนไปยังจังหวัดสระแก้วอย่างเพียงพอ
ด้านนายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม รองปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ได้กำชับให้ทุกจังหวัดตรวจตรา เพื่อไม่ให้เกิดกรณีซ้ำรอยจังหวัดสระแก้ว พร้อมกันนี้ผู้ว่าฯ สระแก้ว ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้เข้ามาหารือกับรองนายกรัฐมนตรีด้วยตัวเอง รายงานความคืบหน้าเรื่องนี้ว่าทาง สสจ.ได้สั่งปิดคลินิกดังกล่าวแล้ว และกำชับเป็นรายอำเภอให้ตรวจสอบเรื่องนี้ด้วย
ขณะที่ นพ.ประภาส ผูกดวง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสระแก้ว กล่าวว่าตั้งแต่เกิดปัญหาดังกล่าวขึ้น ยังไม่มีใครแสดงตัวว่าได้รับวัคซีนจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ทราบจากเฟซบุ๊กที่ถูกโพสต์ลงว่ามีคนรับวัคซีนไปแค่ 4 คนเท่านั้น ซึ่งไม่ถือว่าคนที่ได้รับวัคซีนจอห์นสันฯเป็นผู้รับวัคซีน เพราะถือว่าไม่ใช่วัคซีนที่ถูกกฎหมาย ที่ทางรัฐบาลจัดหา แต่ไม่จำเป็นต้องตรวจภูมิคุ้มกัน ว่าเคยได้รับวัคซีนมาแล้วหรือไม่
ส่วนแพทย์เจ้าของคลินิกดังกล่าวเป็นแพทย์ใกล้เกษียณเหลืออายุราชการ 1 ปี โดยได้สั่งปิดคลินิกดังกล่าวเบื้องต้น 7 วัน เพื่อตรวจสอบ โดยตรวจสอบตามฐานผิดตาม พ.ร.บ.ยา และ พ.ร.บ.สถานพยาบาล ขณะนี้ต้องตรวจสอบพยานแวดล้อมที่เกี่ยวข้อง คาดว่าใช้เวลาตรวจสอบประมาณ 15 วัน เพื่อให้ทราบข้อเท็จจริง ถึงที่มาของวัคซีนและผู้ลงมือฉีด อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นทราบว่าการฉีดวัคซีนดังกล่าวไม่ได้มีการลงเวชระเบียน และให้ผู้อื่นดำเนินการฉีดแทน ส่วนการฉีดวัคซีนโควิดในพื้นที่ พบมีการฉีดไปแล้ว47-48 % คาดว่าในสิ้นเดือน ธ.ค.จะมีการฉีดวัคซีนได้ตามเป้า 70 % .-สำนักข่าวไทย