ยธ.8 พ.ย.-รมว.ยุติธรรม เล็ง MOU โรงเรียนเดินเรือ ส่งผู้พักโทษสวมกำไล EM ล็อต แรก 40 คน ทำงานเรือขนส่งสินค้า เปิดอบรมมีที่พักให้ฟรี ชี้หากช่วยฝึกอาชีพ-หางานให้ทำช่วยลดการกลับมาทำผิดซ้ำ
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย นายวิตถวัลย์ สุนทรขจิต อธิบดีกรมคุมประพฤติ นายสิทธิ สุธีวงศ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ และผู้แทนจากโรงเรียนสยามการเดินเรือ ร่วมประชุมหารือถึงแนวทางการให้ผู้ต้องขังที่ถูกพักโทษไปทำงานบนเรือพาณิชย์ วันนี้ (8พ.ย.) ที่กระทรวงยุติธรรม
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ได้รับประสานจากโรงเรียนสยามการเดินเรือว่ามีตำแหน่งงานที่รับผู้ต้องขังได้ ซึ่งตรงกับความต้องการของเราที่อยากหางานให้ผู้พ้นโทษ เพราะเมื่อมีงาน มีเงิน พวกเขาจะไม่กลับไปทำผิดซ้ำอีก ซึ่งเราจะต้องมีการวางแนวทางว่าจะให้ผู้พักโทษมีกรอบการทำงานอย่างไร ซึ่งกรมราชทัณฑ์และกรมคุมประพฤติต้องหารือร่วมกัน ทำอย่างไรให้ผู้ต้องขังทำงานได้ เรามีสมุทรปราการโมเดล ผู้ต้องขังทำงานในโรงงานซึ่งอยู่กับที่ แต่การลงเรือต้องมีการเดินทาง โดยเส้นทางการเดินเรือจะมี 3 ประเภท คือ 1. การเดินเรือในประเทศ 2. การเดินเรือระหว่างประเทศแบบใกล้ฝั่งในแถบอาเซียน และ 3. การเดินเรือระหว่างประเทศ และพนักงานจะมีแบบพนักงานประจำจะมีวันหยุด 7 วันต่อเดือน และพนักงานแบบจ้างเหมาที่มีสัญญา 6-9 เดือน ซึ่งต้องอยู่กับเรือตลอด โดยจากข้อกฎหมายเราอาจจะเริ่มจากการเดินเรือภายใน ประเทศก่อน และอาจจะใช้สัญญาแบบจ้างเหมา คงต้องค่อยๆเป็นค่อยไป
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ในส่วนของแรงงานจากกรมราชทัณฑ์ จะใช้ผู้พักโทษด้วยเหตุพิเศษที่สวมกำไล EM จะมีการเปิดรับสมัครและหากผู้ต้องขังที่มีความสามารถทางด้านภาษาอังกฤษที่เราเปิดอบรมในเรือนจำอยู่แล้ว จะได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษ ซึ่งตรงนี้จะไม่มีผู้ต้องขังในกลุ่มบัวใต้ตมหรือพวกคดีรุนแรง เพราะคนเหล่านี้จะไม่ได้รับการพักโทษ ล็อตแรกทางโรงเรียนประสานมาว่าต้องการ 40 คน เพื่อนำไปฝึกอบรมประมาณ 1 เดือน มีที่พักและอาหารให้และค่าใช้จ่ายในการอบรมจะมีบริษัทเดินเรือสนับสนุนให้อบรมฟรี เมื่อฝึกอบรมเสร็จจะต้องฝึกงาน 2 เดือน เมื่อผ่านจะได้สัญญามีเงินเดือนประมาณ 12,000 – 20,000 บาท ซึ่งหลังจากนี้เรามีการเซ็น MOU ร่วมกันระหว่าง กรมราชทัณฑ์ กรมคุมประพฤติ และโรงเรียน หากเราร่างกรอบต่างๆ เสร็จและพร้อมก็สามารถเริ่มปฏิบัติได้ทันที
“การฝึกอาชีพเพื่อเตรียมความพร้อมก่อนปล่อย รวมทั้งการหางานให้ผู้ต้องขัง เป็นส่วนหนึ่งในกระบวนการคืนคนดีสู่สังคม ไม่ให้ผู้เคยทำความผิดกลับมากระทำผิดซ้ำ อาจจะสำเร็จหรือไม่สำเร็จบ้าง แต่เราก็ต้องทำเพื่อให้โอกาสให้พวกเขาเหล่านั้นมีทางเลือกที่จะกลับตัวเป็นคนดี” นายสมศักดิ์ กล่าว .-สำนักข่าวไทย