ฉะเชิงเทรา 7 พ.ย.- รมช.สาธารณสุข ติดตามมาตรการป้องกันควบคุมโรคโควิด-19 อำเภอพนมสารคาม ภาพรวมบริหารจัดการได้ดี รพ.สต.มีการบูรณาการท้องถิ่นและชุมชนดูแลผู้ติดเชื้อ ขณะที่โรงพยาบาลพนมสารคาม นอกจากมีมาตรการคัดกรองเข้มข้น ป้องกันการแพร่เชื้อระหว่างบุคลากรและผู้รับบริการ ยังให้ความสำคัญกับการส่งเสริมสุขภาพวัยทำงาน และใส่ใจข้อร้องเรียนของประชาชน ช่วยสร้างความประทับใจให้กับผู้รับบริการ
ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์หลังตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลพนมสารคาม และ รพ.สต.บ้านต้นนา จังหวัดฉะเชิงเทรา ว่า ชื่นชมวิสัยทัศน์ของผู้บริหารโรงพยาบาลพนมสารคาม ที่มุ่งเน้นงานด้านส่งเสริมสุขภาพและกีฬา มีศูนย์สุขภาพคนวัยทำงาน ห้องกายภาพบำบัด คลินิกแพทย์แผนไทย แผนจีน และสปา สำหรับให้บริการประชาชน 30-40 คนต่อวัน ซึ่งจะช่วยให้ประชาชนและผู้ป่วยมีสุขภาพแข็งแรง มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ส่งผลให้ลดการเจ็บป่วยได้และเป็นการสร้างสุขภาพดีอย่างยั่งยืน ที่สำคัญคือ การให้ความสนใจในข้อร้องเรียนของประชาชน และนำไปปรับปรุงพัฒนางาน ซึ่งจะช่วยสร้างความประทับใจให้กับผู้รับบริการ เป็นตัวอย่างที่ดีให้กับหน่วยบริการต่าง ๆ
ดร.สาธิตกล่าวต่อว่า ในช่วงสถานการณ์โควิด 19 ระลอกเดือนเมษายน ข้อมูลวันที่ 6 พฤศจิกายน จังหวัดฉะเชิงเทรา มีผู้ติดเชื้อสะสม 33,400 คน เฉพาะอำเภอพนมสารคาม มีผู้ติดเชื้อ 2,986 คน โรงพยาบาลพนมสารคามซึ่งเป็นโรงพยาบาลหลักที่ดูแลผู้ติดเชื้อในอำเภอ ได้ปรับปรุงหอผู้ป่วยในและหอพักพยาบาล เป็นหอผู้ป่วยโควิด 19 จำนวน 140 เตียง ติดตั้งห้องความดันลบในหอผู้ป่วยแผนกอุบัติเหตุฉุกเฉิน ปรับสถานที่สำหรับผู้ป่วยระบบทางเดินหายใจและกลุ่มเสี่ยง แยกจุดตรวจสอบสวนโรค ออกจากพื้นที่ให้บริการ และมีการคัดกรองทุกประตูทางเข้าและทุกจุดบริการ เพื่อความปลอดภัยของทั้งบุคลากรและประชาชนที่เข้ารับบริการโดยภาพรวมการฉีดวัคซีนโควิด 19 อำเภอพนมสารคาม ครอบคลุมกลุ่มผู้สูงอายุ 7 กลุ่มโรคเรื้อรังและหญิงตั้งครรภ์แล้ว 73.37% ส่วนนักเรียนครอบคลุม 97.75% ได้กำชับให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดและสำนักงานสาธารณสุขทุกอำเภอเร่งรัดการฉีดวัคซีนประชาชนทุกกลุ่มให้ได้มากที่สุด จะทำให้เศรษฐกิจของประเทศสามารถเดินต่อได้
สำหรับ รพ.สต.บ้านต้นนา พบว่ามีการบูรณาการการป้องกันควบคุมโรคโควิด 19 เน้นการทำงานเป็นเครือข่าย “ท้องถิ่น ท้องที่ ท้องทุ่ง” โดยท้องถิ่น สนับสนุนงบประมาณ ท้องที่ และท้องทุ่ง ช่วยกันประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสาร ให้ความรู้ประชาชน ผู้ติดเชื้อ ผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ในช่วงที่มีผู้ติดเชื้อจำนวนมาก ได้จัดตั้งศูนย์พักคอยประจำตำบลที่วัดมะลิ 1 แห่ง รับดูแลผู้เข้ารับการกักตัวและผู้ติดเชื้อแล้ว 199 คน ปัจจุบันปิดดำเนินการแล้วเนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อลดลง และมีหน่วยงานภาครัฐเป็นหลักในการดูแลรักษา ทั้งนี้ รพ.สต.บ้านต้นนาให้การดูแลผู้ติดเชื้อโควิด 19 ในชุมชน 107 คน และกลุ่มเสี่ยงที่ต้องเข้ารับการกักตัว 276 คน ซึ่งส่วนใหญ่เข้ารับการกักตัวที่บ้าน โดยมีอสม.เป็นกำลังสำคัญในการติดตามผู้ที่อยู่ระหว่างการกักตัว ตรวจวัดอุณภูมิทุกวันและเฝ้าระวังบุคคลภายนอกคนที่เดินทางเข้ามาในพื้นที่ .-สำนักข่าวไทย