สภา กทม. ติดตามแนวทางเก็บค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียว

กทม. 3 พ.ย.-สภา กทม. ติดตามความคืบหน้าแนวทางการจัดเก็บค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียว

(3 พ.ย. 64) นายคำรณ โกมลศุภกิจ ประธานสภากรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมสภากรุงเทพมหานคร สมัยประชุมสามัญ สมัยที่สี่ (ครั้งที่ 2) ประจำปีพุทธศักราช 2564 โดยมี สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร คณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม ณ ห้องประชุมสภากรุงเทพมหานคร อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดง


ในที่ประชุม พล.ต.ท.ธีระศักดิ์ ง่วนบรรจง เสนอญัตติ เรื่อง ขอให้กรุงเทพมหานครรายงานความคืบหน้าการบริหารจัดการและแนวทางการจัดเก็บค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต และช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ ตามที่คณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) มีมติเห็นชอบในหลักการให้กรุงเทพมหานครรับผิดชอบเป็นผู้เดินรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต และช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ ซึ่งเมื่อกรุงเทพมหานครรับมอบโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวช่วงดังกล่าวแล้ว กรุงเทพมหานครจะรับภาระหนี้สิน ทรัพย์สิน สิทธิหน้าที่ และภาระผูกพันอื่นๆ ที่การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยใช้ในการดำเนินโครงการไปพร้อมกันด้วย และในการประชุมของคณะกรรมการกำกับดูแลและติดตามผลการดำเนินงานเพื่อดำเนินการตามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือมอบหมายให้กรุงเทพมหานครเป็นผู้บริหารจัดการเดินรถโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต และช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ กระทรวงการคลัง ได้มีข้อเสนอให้กรุงเทพมหานครกู้เงินต่อจากกระทรวงการคลังแทนการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย เป็นค่างานก่อสร้างโครงสร้างงานโยธา รวมทั้งต้องทำสัญญาชดใช้เงินต่อกระทรวงการคลังในส่วนค่าจัดกรรมสิทธิ์ และดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมเงินกู้ของค่างานโครงสร้างพื้นฐานที่สำนักงบประมาณได้จัดสรรงบประมาณเพื่อชำระไปแล้ว

สภากรุงเทพมหานครได้เห็นชอบข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง การกู้เงินเพื่อใช้ในการรับโอนทรัพย์สิน และหนี้สินของโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต และช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ พ.ศ. 2561 โดยกรุงเทพมหานครได้มอบหมายให้บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด (เคที) บริหารจัดการเดินรถในส่วนที่รับโอนจากการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย และบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด ได้จ้างบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTSC ดำเนินการ โดยได้เปิดให้บริการเดินรถเต็มระบบ ตั้งแต่วันที่ 16 ธ.ค. 63 แต่จากปัญหาการกำหนดอัตราค่าโดยสารและการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนกรณีการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ปัจจุบันจึงยังไม่สามารถจัดเก็บค่าโดยสารได้ กรุงเทพมหานครต้องรับภาระค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการจ้างเดินรถเดือนละ 600 ล้านบาท โดยไม่มีรายรับ ส่งผลให้กรุงเทพมหานครมีภาระหนี้สินจำนวนมากทั้งจากการจ่ายดอกเบี้ยเงินกู้และการจ้างเดินรถ ส่งผลกระทบต่อการใช้จ่ายงบประมาณโดยรวมของกรุงเทพมหานคร ดังนั้น เพื่อให้สภากรุงเทพมหานครได้รับทราบข้อมูลการบริหารจัดการในเรื่องดังกล่าว จึงขอให้กรุงเทพมหานครรายงานความคืบหน้าการบริหารจัดการและแนวทางการจัดเก็บค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต และช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ


ทั้งนี้สมาชิกสภากรุงเทพมหานครได้ร่วมอภิปรายในวาระดังกล่าวอย่างกว้างขวาง โดย นายชยาวุธ ศิริยุทธ์วัฒนา สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร กล่าวว่า บีทีเอส ได้ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองกลาง กรณีที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) ค้างค่าจ้างเดินรถโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวช่วงหมอชิต–สะพานใหม่–คูคต และช่วงแบริ่ง–เคหะสมุทรปราการ เป็นจำนวนมูลหนี้รวม 1.2 หมื่นล้านบาท โดย กทม. เป็นจำเลยที่ 1 และบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด (เคที) เป็นจำเลยที่ 2 เพื่อร่วมกันชดใช้หนี้ โดยมูลหนี้ดังกล่าวยังไม่รวมค่าก่อสร้างอีก 20,000 ล้านบาท รวมทั้งสิ้น 32,000 ล้านบาท หากยังไม่แก้ปัญหา อาจจะเป็นปัญหาสะสม จึงควรแก้ปัญหาโดยการประกาศจัดเก็บอัตราค่าโดยสารชั่วคราว ระหว่างที่รอให้การต่อสัญญาสัมปทานสายสีเขียวผ่านการพิจารณาของที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อป้องกันไม่ให้ภาระหนี้มากกว่านี้ เพื่อรักษาผลประโยชน์หน่วยงานของรัฐไม่เกิดความเสียหายไปมากกว่านี้ ด้านนายธวัชชัย ฟักอังกูร สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ขอให้กรุงเทพมหานคร ตรวจสอบสถานภาพทางการเงินการคลังของกรุงเทพมหานคร รวมทั้งรายละเอียดค่าใช้จ่ายทั้งที่ผ่านมาและที่กรุงเทพมหานครต้องมีภาระในอนาคต เพื่อนำไปใช้เป็นข้อมูลประกอบการขอสนับสนุนจากรัฐบาล โดยเป็นการแสดงให้เห็นถึงเหตุผลความจำเป็นของกรุงเทพมหานครที่จำเป็นต้องได้รับการสรับสนุนงบประมาณ

นายสกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ในการพิจารณาแนวทางการจัดเก็บค่าโดยสาร ภายหลังที่โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายได้เปิดให้บริการช่วงสถานีแบริ่ง-สถานีสำโรง เมื่อวันที่ 3 เม.ย. 60 และเปิดให้บริการถึงสถานีเคหะสมุทรปราการ เมื่อวันที่ 6 ธ.ค. 61 กรุงเทพมหานครได้มีการเสนอการเก็บค่าโดยสารในอัตราค่าโดยสาร 15-21 บาท แต่เนื่องจากมีการร้องเรียนจากประชาชนเกี่ยวกับการเก็บค่าแรกเข้าซ้ำซ้อน จึงทำให้อยู่ระหว่างการทบทวนโครงสร้างอัตราค่าโดยสารที่เหมาะสม สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายที่ 2 ได้มีการทดลองเปิดให้บริการต่อเป็นช่วง ๆ จนได้เปิดให้บริการเต็มระบบจนถึงสถานีคูคตเมื่อวันที่ 16 ธ.ค. 63 และได้เล็งเห็นว่าการดำเนินการตามคำสั่ง คสช. ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี กรุงเทพมหานครจึงได้มีการพิจารณาโครงสร้างค่าโดยสารและออกประกาศกรุงเทพมหานคร เรื่อง การกำหนดค่าโดยสารโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว เพื่อดำเนินการจัดเก็บค่าโดยสารโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ซึ่งรวมถึงโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต และช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการในอัตราไม่เกิน 104 บาท ตลอดสาย ตั้งแต่วันที่ 16 ก.พ.64 เป็นต้นไป ซึ่งหลังจากที่กรุงเทพมหานครได้มีการออกประกาศดังกล่าวแล้ว ปรากฎว่าได้รับการร้องเรียนจากหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ขอให้พิจารณาทบทวนการจัดเก็บค่าโดยสารตามประกาศฯ ต่อมาผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครจึงได้ลงนามในประกาศกรุงเทพมหานคร เรื่อง การกำหนดค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียว โดยให้เลื่อนการจัดเก็บค่าโดยสารโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวออกไปก่อน ทั้งนี้ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการเก็บค่าโดยสารระหว่างที่รอคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบ สำนักการจราจรและขนส่ง จึงได้มีหนังสือประสานบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด (เคที) เพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางการหารายได้จากพื้นที่เชิงพาณิชย์บริเวณสถานีในส่วนต่อขยายที่ 2 และให้ศึกษาโครงสร้างค่าโดยสารที่เหมาะสมในส่วนต่อขยายที่ 1 และส่วนต่อขยายที่ 2 ปัจจุบันจึงอยู่ระหว่างที่บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด (เคที) ศึกษาแนวทางและนำเสนอต่อสำนักการจราจรและขนส่งเพื่อพิจารณาต่อไป .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“สุชาติ” จ่อลาออก สส. ให้สภามี สส.ทำงาน

ทำเนียบ 7 ก.ค.-“สุชาติ” เผยเตรียมลาออก สส. เพื่อให้บัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้ขึ้นมา มองให้สภามี สส.ทำงาน นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงธรรมเนียมปฏิบัติของคนที่เป็น สส.ระบบบัญชีรายชื่อ จะลาออกเมื่อเป็นรัฐมนตรี หรือไม่ว่า ที่ผ่านมายังไม่มีการลาออกแต่โดยธรรมเนียมก็ควรจะลาออก เพราะการทำหน้าที่ของรัฐมนตรีก็เต็มเวลาอยู่แล้ว ไม่มีเวลาที่จะไปช่วยงานสภา ซึ่งขณะนี้สภาเสียงปริ่มน้ำ ซึ่งตนมีความตั้งใจที่จะลาออกจาก สส ระบบบัญชีรายชื่ออยู่แล้ว เพื่อให้ สส.ระบบบัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้เลื่อนขึ้นมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สส. ลำดับถัดไปที่จะขึ้นมาเป็น สส.แทนนายสุชาติ คือ นายเอกพร รักความสุข บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 38.-316.-สำนักข่าวไทย

พม.ร้องเอาผิด “จอนนี่ มือปราบ” สร้างรีสอร์ทรุกล้ำที่ส่วนกลาง

บก.ปทส. 7 ก.ค. – จนท.กรมพัฒนาสังคมฯ ร้องตำรวจป่าไม้ตรวจสอบปมรีสอร์ทของ “จอนนี่มือปราบ” อินฟลูชื่อดัง บุกรุกพื้นที่นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ในอุบลราชธานี และถูกข่มขู่ไม่ให้เข้าพื้นที่ นายวัชระ โกเสนตอ นักพัฒนาสังคมชำนาญการพิเศษ ได้รับมอบอำนาจจากนายกันตพงศ์ รังษีสว่าง อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นำหลักฐานเอกสารเข้าแจ้งความกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ บก.ปทส. เพื่อให้ดำเนินคดีกับ ด.ต.ยุทธพล หรือ “จอนนี่ มือปราบ” อดีตตำรวจที่ผันตัวลาออกจากราชการมาเป็นอินฟลูเอนเซอร์ กรณีสร้างรีสอร์ทรุกเข้าไปในเขตนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ตำบลคำเขื่อนแก้ว อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี นายวัชระ เปิดเผยว่า กรมพัฒนาสังคมฯ รับแจ้งจากนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ว่ามีผู้เข้าไปทำประโยชน์ในที่ดินของนิคมโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยส่วนที่รุกล้ำเข้ามาเป็นพื้นที่ที่นิคมกันไว้เป็นป่าไม้ส่วนกลาง 20% รุกล้ำเข้ามาประมาณ 1 ไร่ และเริ่มก่อสร้างรีสอร์ทเมื่อปี 2564 เป็นต้นมา และทางกรมฯ ก็ได้ลงบันทึกประจำวันและมีหนังสือให้ระงับการดำเนินการรีสอร์ทมาตั้งแต่ปี 2565 แต่เจ้าของรีสอร์ทไม่ให้ความร่วมมือ และยังมาโวยวายที่นิคมฯ ข่มขู่เจ้าหน้าที่ ไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปที่รีสอร์ท ทั้งนี้นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย มีพื้นที่ตามแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งนิคมสร้างตนเองฯ ชัดเจน เนื้อที่ […]

Camp Mystic after Texas floods

เปิดภาพความเสียหายน้ำท่วมแคมป์ในเท็กซัส

เท็กซัส 6 ก.ค.- ทีมกู้ภัย อาสาสมัครและตำรวจ ช่วยกันรื้อถอนเศษซากความเสียหายและซากต้นไม้กิ่งไม้ใกล้ที่ตั้งแคมป์ในรัฐเท็กซัสของสหรัฐ ซึ่งมีนักเรียนหญิง 27 คน สูญหายจากเหตุน้ำท่วมฉับพลันที่เกิดขึ้นเมื่อเช้ามืดวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น   ค่ายมิสติก (Camp Mystic) เป็นค่ายกิจกรรมนักเรียนหญิงล้วน มีนักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมในค่าย 700 คน ในช่วงที่เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมฉับพลันครั้งใหญ่ในเทศมณฑลเคอร์ ทางตอนกลางของรัฐเท็กซัส แคมป์แห่งนี้ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำกัวดาลูปในแถบหุบเขาตอนกลางรัฐเท็กซัส ซึ่งเป็นศูนย์กลางที่เกิดน้ำท่วม ก่อตั้งโดยโค้ชฟุตบอลมหาวิทยาลัยเท็กซัส เมื่อเกือบหนึ่งร้อยปีก่อนในปี 2469 เพื่อให้เยาวชนหญิงได้สัมผัสบรรยากาศแบบคริสเตียนในการพัฒนาตนเอง.-820(814).-สำนักข่าวไทย

กรมอุตุฯ เตือน 4 ภาครับมือฝนถล่ม ระวังน้ำท่วม-น้ำป่าไหลหลาก

กทม. 6 ก.ค.- กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยยังมีฝนฟ้าคะนอง เตือน “เหนือ อีสาน ตะวันออก ใต้” รับมือฝนตกหนัก อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณจังหวัดภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเมียนมาตอนบนและลาวตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง พายุโซนร้อน “ดานัส” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะเคลื่อนเข้าใกล้ไต้หวัน ในช่วงวันที่ 6–7 กรกฎาคม 2568 โดยไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย แต่จะทำให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่ปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยพายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“เท้ง” นำทีม ปชน.ยื่นร่างแก้รัฐธรรมนูญ 3 ฉบับ

รัฐสภา 7 ก.ค.- “เท้ง” นำทีม สส.ปชน. ยื่นร่างแก้รัฐธรรมนูญ 3 ฉบับ มุ่งสร้างศาลรัฐธรรมนูญ-องค์กรอิสระ ยึดโยงประชาชน หวังรัฐสภาให้ความเห็นชอบ ปลดชนวนระเบิดเวลาการเมืองไทย ด้าน “พริษฐ์” เผยยังไม่คุย “ภูมิใจไทย” ชี้ให้เวลาพิสูจน์จุดยืน บอกให้ดูการกระทำ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน พร้อม สส.พรรคประชาชน แถลงข่าวการยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญประเด็นศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร ว่า หลายเหตุการณ์ทางการเมืองที่ผ่านมา เช่น การยุบพรรคตัดสิทธินักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้ง ความล้มเหลวในการแก้ปัญหาการทุจริตคอร์รัปชัน คำถามต่อการตรวจสอบคดีการโกงการเลือก สว. หรือการขาดความรับผิดรับชอบจากกรณีตึก สตง. ถล่ม ล้วนมีต้นตอมาจากการออกแบบศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระที่ถูกขยายขอบเขตอำนาจในการตรวจสอบสถาบันทางการเมืองอื่น แต่กลับมีที่มาที่ไม่ยึดโยงกับประชาชน รวมถึงขาดกลไกที่จะถูกประชาชนตรวจสอบได้โดยตรง ซึ่งการแก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับจะต้องมีการหารือร่วมกันทุกฝ่ายใน ส.ส.ร. แต่พรรคประชาชนเห็นว่ารัฐสภาเดินหน้าแก้ไขได้บาง มาตรา โดยเป็นการแก้ไขแบบคู่ขนานกันไป ขณะที่นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคประชาชน กล่าวว่า สำหรับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เรายื่นในวันนี้ มุ่งสู่การสร้างศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระที่ไม่เป็นอิสระจากประชาชนโดยแบ่งออกเป็น 3 ร่าง ร่างที่ 1 เป็นการ […]

สั่งระงับงานก่อสร้างในพื้นที่สถานีสูบจ่ายน้ำมีนบุรี

กทม. 7 ก.ค. – เขตมีนบุรี สั่งระงับงานก่อสร้างภายในพื้นที่สถานีสูบจ่ายน้ำมีนบุรี ซอยนิมิตใหม่ 6 จนกว่าเจ้าหน้าที่จะตรวจสอบโครงสร้าง-สาเหตุเหล็กล้มลงแล้วเสร็จ ด้าน กปน. ออกแถลงการณ์ ยืนยันไม่กระทบโครงสร้างอาคาร พร้อมเยียวยาผู้บาดเจ็บ ภาพจากกล้องวงจรปิด เผยนาทีโครงเหล็กภายในไซต์งานก่อสร้างอุโมงค์ส่งน้ำของการประปานครหลวง (กปน.) ค่อยๆ เอนแล้วก็ล้มลงมา ทำให้คนงานที่นั่งทำงานอยู่บนนั้นได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดเมื่อช่วงค่ำวานนี้ (6 ก.ค.) ภายในสถานีสูบจ่ายน้ำมีนบุรี ซอยนิมิตใหม่ 6 เขตมีนบุรี ขณะเกิดเหตุมีคนงานปฏิบัติงานอยู่ 160 คน ออกมาภายนอกได้ทั้งหมด โดยมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 12 คน ล่าสุดวันนี้ นายศักดิ์ชัย ใสสุข ผู้อำนวยการเขตมีนบุรี เข้าตรวจสอบพื้นที่ โดยมีเจ้าหน้าที่จากสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) สำนักงานประกันสังคม กรมสวัสดิภาพและคุ้มครองแรงงาน ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง โดยไม่ได้อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปด้านใน ให้อยู่ด้านนอกรั้วเท่านั้น ผู้อำนวยการเขตมีนบุรี ออกมาเปิดเผยว่า โครงการดังกล่าวเป็นโครงการก่อสร้างบ่อเก็บน้ำขนาดใหญ่ เพื่อใช้ในการจ่ายน้ำของสถานีสูบจ่ายน้ำมีนบุรี กปน. โดยมีขนาดกว้าง […]

ชาวกัมพูชาแห่ขึ้นปราสาทตาควาย มากผิดปกติ

7 ก.ค. – ชาวกัมพูชา แห่ขึ้นปราสาทตาควาย ร่ายคาถาภาษาเขมร ทำพีธีเซ่นไหว้ ด้านคนไทยหวังดี เตือนคุณตาวัย 76 พิการขา เดินดีๆ แต่เจอตอบสวน “ถึงจะล้ม ก็ล้มบนผืนแผ่นดินกัมพูชา” บรรยากาศที่ปราสาทตาควาย มีนักท่องเที่ยวกัมพูชา มาท่องเที่ยวมากผิดปกติกว่า 200 คน ท่ามกลางฝนที่ตกลงมาตลอดทั้งวัน โดยชาวกัมพูชา นำเครื่องเซ่นไหว้ เข้าไปในตัวปราสาทควาย บริเวณจุดทำพิธี ทำพิธีอะไรเป็นภาษาเขมร ระหว่างนั้นมีชายชาวกัมพูชา ขาด้วนหนึ่งข้างอายุ 76 ปี มาจากจังหวัดเสียมเรียบ ใช้ไม้ค้ำประคองตัวเอง เพื่อที่จะขึ้นบันไดปราสาท ด้วยความหวังดีคนไทยกลัวว่าชายขาด้วนจะลื่นล้ม เพราะตะไคร้น้ำขึ้นตามบันไดหนาแน่น เลยเตือนว่า “ระวังลื่นล้มน่ะตาเดินดีๆ” ยังไม่ทันพูดจบ แทนที่ชายขาด้วนจะขอบคุณ ตอบกลับมาว่า “ถึงจะล้มก็ล้มบนผืนแผ่นดินกัมพูชา” นอกจากนี้ เกิดการโต้เถียงกันระหว่างนักท่องเที่ยวกัมพูชากับนักท่องเที่ยวไทย รวมไปถึงทหารฝั่งกัมพูชาและทหารฝั่งไทย หลังจากนักท่องเที่ยวกัมพูชาเอาผ้าพันคอที่มีสัญลักษณ์ธงชาติกัมพูชาเข้ามาแสดงสัญลักษณ์ เจ้าหน้าที่ไทยห้ามปรามจนเกิดปากเสียงกัน แต่ไม่ได้บานปลายเพียงก่อกวน.-สำนักข่าวไทย

“พิชัย” เผยไทยยื่นข้อเสนอเจรจาภาษีเพิ่มเติมถึงสหรัฐเมื่อคืน

ทำเนียบ 7 ก.ค.-“พิชัย” เผยไทยยื่นข้อเสนอเจรจาภาษีเพิ่มเติมถึงสหรัฐเมื่อคืน ลุ้นขยายเส้นตายออกไปจนถึง 1 ส.ค. ชี้การเจรจายังไม่จบ และข้อเสนอที่ส่งไปยังปรับปรุงได้ตลอด นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงความคืบหน้าการเจรจาภาษีกับสหรัฐว่าในส่วนของประเทศไทยได้มีการยื่นข้อเสนอเพิ่มเติมให้ทางสหรัฐพิจารณาไปตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา โดยข้อเสนอที่ยื่นไปอยู่บนหลักเกณฑ์เดิมที่เราเคยยื่นไปก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตามการที่เราเดินทางไปเจรจาก่อนหน้านี้ ข้อเสนอที่มีอยู่ไม่ถึงขนาดที่ต้องแก้ไขอะไรใหม่ เพียงแต่ว่าเราไปฟังความเห็นของสหรัฐเองว่ามีรายการไหนที่เขาสนใจเป็นพิเศษ เราก็นำกลับมาดูอีกครั้งและปรับปรุงเท่าที่เราทำได้แล้วส่งไปให้พิจารณาใหม่ โดยเป็นการยื่นในเรื่องอัตราภาษีและสินค้า ซึ่งก็ยังมีเรื่องอื่นๆที่เขานั่งดูอยู่ที่ไม่เกี่ยวกับอัตราภาษี สหรัฐก็กำลังพิจารณาอยู่ ซึ่งจริงๆแล้วเมื่อเขาประกาศออกมาเท่าไหร่ก็ยังไม่จบสามารถที่จะปรับปรุงไปได้เรื่อยๆ เมื่อถามว่าอัตราภาษีที่ไทยจะถูกเก็บจากสหรัฐยังคาดหวังที่ต่ำกว่า 18% ใช่หรือไม่ นายพิชัย กล่าวว่าขณะนี้ประเทศที่ได้เจรจาแล้วยังมีจำนวนน้อย ตอนนี้ก็ต้องดูว่าจากข่าวที่ออกมาว่าอาจมีการเลื่อนออกไปจนถึง 1 ส.ค. ถึงจะกำหนดอีกครั้งหนึ่งว่าประเทศที่เหลือที่เจรจาแล้ว จะแล้วเสร็จเมื่อไหร่ เมื่อถามว่าเราจะยอมเหมือนเวียดนามให้เขานำเข้าแบบเสียภาษีศูนย์เปอร์เซ็นต์ได้หรือไม่ นายพิชัย ตอบว่าอย่างที่บอกไปแล้วว่าเราต้องใช้หลักในการเปิดใจคุยกันด้วยความปรารถนาที่ดี เขามีอะไรที่อยากได้ แล้วเราก็เอารายการที่เคยซื้อสินค้าจากสหรัฐทั้งหมดมาดูอีกครั้ง ดังนั้นถามว่าเป็นอย่างไรในเรื่องการนำเข้าสินค้าเพิ่ม เราก็ต้องดูแลผู้ผลิตสินค้าในไทยด้วย ส่วนเรื่องของสินค้าสวมสิทธิ์เป็นเรื่องในหลักการอยู่ในข้ออื่นๆ ที่เขาก็ดูอยู่ ซึ่งประเทศไทยเราเองก็ทำงานในเรื่องนี้ บางเรื่องเราก็ให้สหรัฐมาทำงานร่วมกัน เข้ามาดูด้วยกันซึ่งกติกาแบบนี้ต้องทำต่อเนื่องตอนนี้ยังไม่จบ ถามต่อว่าประเทศไทยจะอยู่ในกลุ่มที่สหรัฐส่งจดหมายแจ้งอัตราภาษีที่จะต้องเสียเพิ่ม หรืออยู่ในกลุ่มที่ได้คุยต่อ นายพิชัย กล่าวว่าเรื่องนี้ต้องรอดูก่อนว่าเขาว่าอย่างไร ซึ่งอีก 2 -3 วันก็จะได้ความชัดเจน.-314.-สำนักข่าวไทย