สภา กทม. ติดตามแนวทางเก็บค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียว

กทม. 3 พ.ย.-สภา กทม. ติดตามความคืบหน้าแนวทางการจัดเก็บค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียว

(3 พ.ย. 64) นายคำรณ โกมลศุภกิจ ประธานสภากรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมสภากรุงเทพมหานคร สมัยประชุมสามัญ สมัยที่สี่ (ครั้งที่ 2) ประจำปีพุทธศักราช 2564 โดยมี สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร คณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม ณ ห้องประชุมสภากรุงเทพมหานคร อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดง


ในที่ประชุม พล.ต.ท.ธีระศักดิ์ ง่วนบรรจง เสนอญัตติ เรื่อง ขอให้กรุงเทพมหานครรายงานความคืบหน้าการบริหารจัดการและแนวทางการจัดเก็บค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต และช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ ตามที่คณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) มีมติเห็นชอบในหลักการให้กรุงเทพมหานครรับผิดชอบเป็นผู้เดินรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต และช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ ซึ่งเมื่อกรุงเทพมหานครรับมอบโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวช่วงดังกล่าวแล้ว กรุงเทพมหานครจะรับภาระหนี้สิน ทรัพย์สิน สิทธิหน้าที่ และภาระผูกพันอื่นๆ ที่การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยใช้ในการดำเนินโครงการไปพร้อมกันด้วย และในการประชุมของคณะกรรมการกำกับดูแลและติดตามผลการดำเนินงานเพื่อดำเนินการตามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือมอบหมายให้กรุงเทพมหานครเป็นผู้บริหารจัดการเดินรถโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต และช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ กระทรวงการคลัง ได้มีข้อเสนอให้กรุงเทพมหานครกู้เงินต่อจากกระทรวงการคลังแทนการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย เป็นค่างานก่อสร้างโครงสร้างงานโยธา รวมทั้งต้องทำสัญญาชดใช้เงินต่อกระทรวงการคลังในส่วนค่าจัดกรรมสิทธิ์ และดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมเงินกู้ของค่างานโครงสร้างพื้นฐานที่สำนักงบประมาณได้จัดสรรงบประมาณเพื่อชำระไปแล้ว

สภากรุงเทพมหานครได้เห็นชอบข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง การกู้เงินเพื่อใช้ในการรับโอนทรัพย์สิน และหนี้สินของโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต และช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ พ.ศ. 2561 โดยกรุงเทพมหานครได้มอบหมายให้บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด (เคที) บริหารจัดการเดินรถในส่วนที่รับโอนจากการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย และบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด ได้จ้างบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTSC ดำเนินการ โดยได้เปิดให้บริการเดินรถเต็มระบบ ตั้งแต่วันที่ 16 ธ.ค. 63 แต่จากปัญหาการกำหนดอัตราค่าโดยสารและการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนกรณีการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ปัจจุบันจึงยังไม่สามารถจัดเก็บค่าโดยสารได้ กรุงเทพมหานครต้องรับภาระค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการจ้างเดินรถเดือนละ 600 ล้านบาท โดยไม่มีรายรับ ส่งผลให้กรุงเทพมหานครมีภาระหนี้สินจำนวนมากทั้งจากการจ่ายดอกเบี้ยเงินกู้และการจ้างเดินรถ ส่งผลกระทบต่อการใช้จ่ายงบประมาณโดยรวมของกรุงเทพมหานคร ดังนั้น เพื่อให้สภากรุงเทพมหานครได้รับทราบข้อมูลการบริหารจัดการในเรื่องดังกล่าว จึงขอให้กรุงเทพมหานครรายงานความคืบหน้าการบริหารจัดการและแนวทางการจัดเก็บค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต และช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ


ทั้งนี้สมาชิกสภากรุงเทพมหานครได้ร่วมอภิปรายในวาระดังกล่าวอย่างกว้างขวาง โดย นายชยาวุธ ศิริยุทธ์วัฒนา สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร กล่าวว่า บีทีเอส ได้ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองกลาง กรณีที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) ค้างค่าจ้างเดินรถโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวช่วงหมอชิต–สะพานใหม่–คูคต และช่วงแบริ่ง–เคหะสมุทรปราการ เป็นจำนวนมูลหนี้รวม 1.2 หมื่นล้านบาท โดย กทม. เป็นจำเลยที่ 1 และบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด (เคที) เป็นจำเลยที่ 2 เพื่อร่วมกันชดใช้หนี้ โดยมูลหนี้ดังกล่าวยังไม่รวมค่าก่อสร้างอีก 20,000 ล้านบาท รวมทั้งสิ้น 32,000 ล้านบาท หากยังไม่แก้ปัญหา อาจจะเป็นปัญหาสะสม จึงควรแก้ปัญหาโดยการประกาศจัดเก็บอัตราค่าโดยสารชั่วคราว ระหว่างที่รอให้การต่อสัญญาสัมปทานสายสีเขียวผ่านการพิจารณาของที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อป้องกันไม่ให้ภาระหนี้มากกว่านี้ เพื่อรักษาผลประโยชน์หน่วยงานของรัฐไม่เกิดความเสียหายไปมากกว่านี้ ด้านนายธวัชชัย ฟักอังกูร สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ขอให้กรุงเทพมหานคร ตรวจสอบสถานภาพทางการเงินการคลังของกรุงเทพมหานคร รวมทั้งรายละเอียดค่าใช้จ่ายทั้งที่ผ่านมาและที่กรุงเทพมหานครต้องมีภาระในอนาคต เพื่อนำไปใช้เป็นข้อมูลประกอบการขอสนับสนุนจากรัฐบาล โดยเป็นการแสดงให้เห็นถึงเหตุผลความจำเป็นของกรุงเทพมหานครที่จำเป็นต้องได้รับการสรับสนุนงบประมาณ

นายสกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ในการพิจารณาแนวทางการจัดเก็บค่าโดยสาร ภายหลังที่โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายได้เปิดให้บริการช่วงสถานีแบริ่ง-สถานีสำโรง เมื่อวันที่ 3 เม.ย. 60 และเปิดให้บริการถึงสถานีเคหะสมุทรปราการ เมื่อวันที่ 6 ธ.ค. 61 กรุงเทพมหานครได้มีการเสนอการเก็บค่าโดยสารในอัตราค่าโดยสาร 15-21 บาท แต่เนื่องจากมีการร้องเรียนจากประชาชนเกี่ยวกับการเก็บค่าแรกเข้าซ้ำซ้อน จึงทำให้อยู่ระหว่างการทบทวนโครงสร้างอัตราค่าโดยสารที่เหมาะสม สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายที่ 2 ได้มีการทดลองเปิดให้บริการต่อเป็นช่วง ๆ จนได้เปิดให้บริการเต็มระบบจนถึงสถานีคูคตเมื่อวันที่ 16 ธ.ค. 63 และได้เล็งเห็นว่าการดำเนินการตามคำสั่ง คสช. ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี กรุงเทพมหานครจึงได้มีการพิจารณาโครงสร้างค่าโดยสารและออกประกาศกรุงเทพมหานคร เรื่อง การกำหนดค่าโดยสารโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว เพื่อดำเนินการจัดเก็บค่าโดยสารโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ซึ่งรวมถึงโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต และช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการในอัตราไม่เกิน 104 บาท ตลอดสาย ตั้งแต่วันที่ 16 ก.พ.64 เป็นต้นไป ซึ่งหลังจากที่กรุงเทพมหานครได้มีการออกประกาศดังกล่าวแล้ว ปรากฎว่าได้รับการร้องเรียนจากหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ขอให้พิจารณาทบทวนการจัดเก็บค่าโดยสารตามประกาศฯ ต่อมาผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครจึงได้ลงนามในประกาศกรุงเทพมหานคร เรื่อง การกำหนดค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียว โดยให้เลื่อนการจัดเก็บค่าโดยสารโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวออกไปก่อน ทั้งนี้ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการเก็บค่าโดยสารระหว่างที่รอคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบ สำนักการจราจรและขนส่ง จึงได้มีหนังสือประสานบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด (เคที) เพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางการหารายได้จากพื้นที่เชิงพาณิชย์บริเวณสถานีในส่วนต่อขยายที่ 2 และให้ศึกษาโครงสร้างค่าโดยสารที่เหมาะสมในส่วนต่อขยายที่ 1 และส่วนต่อขยายที่ 2 ปัจจุบันจึงอยู่ระหว่างที่บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด (เคที) ศึกษาแนวทางและนำเสนอต่อสำนักการจราจรและขนส่งเพื่อพิจารณาต่อไป .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตึกถล่มพบเสียชีวิตเพิ่ม

พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 5 ราย ทีมกู้ภัยเร่งกู้ร่าง

พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 5 ราย ในพื้นที่โซน B และโซน C มีซากอาคารถล่มทับร่างอยู่ ทีมกู้ภัยเร่งกู้ร่างและค้นหาผู้สูญหายใต้ซากอาคารต่อเนื่อง

ชายวัย 50 ไหว้ขอโทษ ไม่มีเจตนากุเรื่องเมียท้อง 4 เดือน ติดใต้ซากตึก สตง.

ชายวัย 50 ปี ยกมือไหว้ขอโทษ ไม่มีเจตนากุเรื่องภรรยาท้อง 4 เดือน ติดใต้ซากอาคาร สตง.ถล่ม ด้านรอง ผบช.น. เตือนอย่าใช้โอกาสที่มีผู้ประสบเหตุสร้างความสงสารหลอกเอาทรัพย์สิน มีความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน

ออกแล้ว! ผลตรวจเหล็ก 28 ชิ้น ตึก สตง.ถล่ม พบไม่ได้มาตรฐาน 13 ชิ้น

ผลตรวจตัวอย่างเหล็ก 28 ชิ้น ตึก สตง.ถล่มจากแผ่นดินไหว พบได้มาตรฐาน 15 ชิ้น ไม่ได้มาตรฐาน 13 ชิ้น ยังไม่สรุปเป็นสาเหตุตึกถล่ม ชี้ต้องดูหลายองค์ประกอบ

ข่าวแนะนำ

เริ่มใช้เครื่องจักรหนักเปิดซากอาคาร สตง.ถล่ม

102 ชั่วโมงแล้ว สำหรับปฏิบัติการค้นหาผู้รอดชีวิตจากเหตุอาคาร สตง.ถล่ม หน่วยกู้ภัยจากนานาชาติให้ความหวังว่ายังมีโอกาสเจอผู้รอดชีวิต ทำให้การค้นหาวันนี้ต้องแข่งกับเวลาอย่างเต็มที่

ทองไทยนิวไฮต่อเนื่อง ปิดตลาดเพิ่มขึ้น 550 บาท

ทองคำไทยผันผวนหนัก ปรับเปลี่ยน 18 ครั้ง ก่อนปิดตลาดปรับเพิ่ม 550 บาท ระหว่างวันขึ้นไปแตะนิวไฮ ทองคำแท่งขายออก 50,700 บาท ทองรูปพรรณขายออก 51,500 บาท ขึ้นไปต่อเนื่อง