ศูนย์แพทย์ภัยพิบัติและฉุกเฉินเจ้าฟ้าจุฬาภรณ์

กทม. 3 พ.ย.- มหาดไทยลงนาม MOU กับราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ขยายผลจัดตั้ง “ศูนย์แพทย์ภัยพิบัติและฉุกเฉินเจ้าฟ้าจุฬาภรณ์” ทุกภูมิภาค เพื่อดูแลพี่น้องประชาชน ด้านการจัดการภัยพิบัติอย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืน


ณ ห้องประชุมผู้บริหาร (ใหญ่) (MC232) ชั้น 3 อาคารบริหาร 2 สำนักงานราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์กับกระทรวงมหาดไทย กับ ศาสตราจารย์ นายแพทย์นิธิ มหานนท์ เลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ โดยมี นายประยูร รัตนเสนีย์ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น นายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พลอากาศตรี นายแพทย์สันติ ศรีเสริมโภค รองเลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ นายแพทย์ภูมินทร์ ศิลาพันธ์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ และนายภาณุพล รัตนกาญจนภัทร ผู้ว่าการการยาสูบแห่งประเทศไทย ร่วมเป็นสักขีพยาน

ศาสตราจารย์ นายแพทย์นิธิ มหานนท์ เลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ กล่าวว่า ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เป็นสถาบันด้านวิทยาศาสตร์ การศึกษา วิจัย และการให้บริการทางการแพทย์และสาธารณสุข ภายใต้องค์ประธาน คือ สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์ อัคราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ซึ่งทรงมีพระปณิธานให้ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์เป็นหน่วยงานที่มีขนาดกะทัดรัดและมีความคล่องตัวในการช่วยเหลือประชาชน เช่นเดียวกับพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ที่มีพระราชประสงค์ และพระประสงค์จะดูแลประชาชนให้มีความสุข พ้นจากความทุกข์ สอดคล้องกับแนวทางการทำงานของกระทรวงมหาดไทย ในการดูแลประชาชนทุกคนในประเทศนี้ให้มีความสุข ไม่มีทุกข์ ปลอดจากโรคภัย อย่างไรก็ตามในช่วงวิกฤตการระบาดของโรคโควิด-19 ในช่วงที่ผ่านมา เราเห็นได้ว่ากลไกกระทรวงมหาดไทยในท้องที่และท้องถิ่นต่าง ๆ เป็นผู้นำในการดูแลประชาชนในทุก ๆ เรื่อง โดยราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ได้ขับเคลื่อนเรื่องการจัดหาวัคซีน โดยประสานกับหลายภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลไกของกระทรวงมหาดไทย 


ศาสตราจารย์ นายแพทย์นิธิ มหานนท์ เลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เน้นย้ำว่า ความร่วมมือระหว่างราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์และกระทรวงมหาดไทยในครั้งนี้ มีเป้าหมายประการสำคัญที่สุด คือ “เพื่อประชาชนและสังคมไทย”  สิ่งที่ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ให้การสนับสนุน คือ การให้ความรู้  เพิ่มศักยภาพบุคลากรด้านต่าง ๆ งานวิจัย โดยจัดเก็บข้อมูลอย่างเป็นระบบ เพื่อนำมาวิเคราะห์และแก้ไขปัญหาในพื้นที่ โดยเฉพาะในท้องถิ่น และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ความร่วมมือในวันนี้จะนำไปสู่การบูรณาการในเรื่องต่าง ๆ ก่อให้เกิด “ศูนย์ภัยพิบัติ” ที่มีศักยภาพสูงในการช่วยพัฒนาบุคลากรด้านต่าง ๆซึ่งจะเป็นก้าวที่สำคัญในการช่วยดูแลประชาชนได้อย่างดีขึ้น และเป็นระบบมากขึ้น

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ขอขอบคุณราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ที่ได้กรุณาให้การสนับสนุนกระทรวงมหาดไทยมาโดยตลอด เพื่อยกระดับการทำงาน ในการ “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” ให้พี่น้องประชาชน ในยามปกติและภาวะฉุกเฉินหรือเกิดภัยพิบัติ กระทรวงมหาดไทย สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ในพระปณิธานของสมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยะราชนารี องค์ประธานราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ และมุ่งมั่นเพื่อบรรลุเป้าหมาย ในการยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การจัดตั้ง “ศูนย์ภัยพิบัติ” ซึ่งเกี่ยวข้องกับทุกภาคส่วน ในการที่จะเสริมศักยภาพความชำนิชำนาญความคล่องตัวที่ถูกต้องในการช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ที่จะต้องเผชิญเหตุที่ไม่สามารถคาดการณ์ได้ในอนาคต โดยเหตุการณ์ในอดีตที่ผ่านมา เช่น ปี 2548 ประเทศไทยต้องเผชิญกับสถานการณ์สึนามิ ที่เราไม่มีความรู้ในการรับมือเหตุการณ์ เราไม่มีประสบการณ์การเรียนรู้จากการฝึกซ้อมที่เสมือนจริง เวลาเราฝึกซ้อมภัยต่าง ๆ เราใช้จินตนาการเป็นหลัก แต่เมื่อราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ได้กรุณาในวันนี้ ทำให้เรามีความหวังว่าเราจะมีประสบการณ์ที่ดีขึ้น ไปเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้ โดยราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์เป็นผู้ให้กระทรวงมหาดไทยเป็นผู้รับ ซึ่งในส่วนของศูนย์ภัยพิบัตินั้น ในระยะสั้น ควรมีทุกภูมิภาค ทั้งภาคกลาง เหนือ ตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ และในอนาคต จะได้ขยายผลความร่วมมือไปสู่การจัดตั้งศูนย์เขตทั้ง 18 เขตตามกลุ่มจังหวัด เพื่ออบรมเจ้าหน้าที่และยกระดับเป็นศูนย์ที่เชี่ยวชาญภัยพิบัติตามสภาพแวดล้อมของพื้นที่ ซึ่งจะทำให้มีคุณูปการให้กับพี่น้องประชาชนมากขึ้น

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวต่อว่า ประการถัดมา ผู้ว่าราชการจังหวัด ทำหน้าที่เป็นประธานกรรมการศึกษาธิการจังหวัด ซึ่งทำให้กลไกกระทรวงมหาดไทยสามารถขับเคลื่อนในเรื่องความร่วมมือครั้งนี้เผยแพร่ขยายผลองค์ความรู้ไปสู่โรงเรียนในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการที่ตั้งอยู่ในทุกจังหวัด รวมถึงโรงเรียนในสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อจะได้เสริมสร้างองค์ความรู้ทางวิชาการ การใช้ชีวิตให้กับเด็กตั้งแต่เด็กเล็ก ประถมศึกษา มัธยมศึกษา และอาชีวศึกษา ซึ่งจะได้พิจารณาร่วมกันในการส่งเสริมด้านการศึกษาเพื่อให้คนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และอีกเรื่องที่สำคัญที่เป็นการสนับสนุนของราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ คือ การป้องกันภัยจากโรคพิษสุนัขบ้า ซึ่งราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ได้ช่วยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในด้านการป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า ทำให้สังคมเกิดการเรียนรู้ และทำให้หน่วยงานที่มีอำนาจเห็นความสำคัญของการป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า เพราะโรคนี้ เมื่อเป็นแล้วรักษาไม่ได้ การป้องกันจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ และยังเป็นเรื่องมนุษยธรรมของมนุษย์ที่มีกับสุนัขจรจัดและแมวจรจัด ซึ่งกระทรวงมหาดไทยจะได้ขับเคลื่อนเรื่องดังกล่าวร่วมกับราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำท้องถิ่น และประชาชน ทราบซึ้งและรำลึกนึกถึงความดีที่ทางราชวิทยาลัยได้จัดวัคซีนให้กับคนในพื้นที่ได้มีโอกาสเข้าถึงวัคซีนได้เร็วขึ้น ทำให้ประชาชนทั่วประเทศสามารถเข้าถึงวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19


นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เน้นย้ำว่า ความร่วมมือในครั้งนี้จะต้องเกิดผลเป็นรูปธรรม ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นการเกื้อหนุน เกื้อกูล เพื่อให้ประชาชนมีความสุข สอดคล้องกับความต้องการของกระทรวงมหาดไทย ในการบำบัดทุกข์ บำรุงสุข ให้เกิดผลดีกับพี่น้องประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

สำหรับการลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมมือระหว่างราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์กับกระทรวงมหาดไทยในครั้งนี้ จัดทำขึ้นเพื่อส่งเสริม สนับสนุนและประสานความร่วมมือด้านการวิจัยและพัฒนาด้านการศึกษาและฝึกอบรมด้านการแพทย์และการสาธารณสุข ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ด้านสิ่งแวดล้อม และด้านการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติหรือเจ็บป่วยฉุกเฉิน รวมทั้งเพื่อเป็นการสนับสนุนการจัดตั้งศูนย์แพทย์ภัยพิบัติและฉุกเฉินเจ้าฟ้าจุฬาภรณ์ เพื่อให้เป็นไปตามพระปณิธานในสมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

แม่น้ำยมล้นพนังกั้นน้ำ ชาวบ้าน-พระ เดือดร้อน

สุโขทัย 28 ส.ค. – หลายพื้นที่เมืองสุโขทัย จมอยู่ใต้น้ำและขยายวงกว้าง แม่น้ำยมล้นพนังกั้นน้ำ ด้านหลังวัดปากแคว พระและชาวบ้าน ช่วยกันขนสิ่งของหนีน้ำ ภาพมุมสูง เผยให้เห็นสภาพน้ำท่วมสูงภายในวัดปากแคว และบริเวณโดยรอบ ทหารนำกำลังพล 22 นาย ลงพื้นที่ช่วยเหลือ พระวัดปากแคว ชาวบ้านในพื้นที่หมู่ 2 หมู่ 4 ต.ปากแคว 4 ชุมชน ในเขตเทศบาลเมืองสุโขทัยธานี ถูกน้ำท่วมขยายวงกว้าง รถยนต์จมน้ำหลายคัน ด้านหลังวัดปากแคว อำเภอเมือง แม่น้ำยมผนังกั้นน้ำล้นตลิ่ง มวลน้ำมหาศาล ทะลักเข้าท่วมเต็มพื้นที่ ระดับน้ำสูงรอบวัดเกือบ 2 เมตร ทะลักเข้าท่วม ไหลข้ามถนนจรดวิถีถ่อง ระยะทางกว่า 500 เมตร ต้องปิดกั้นถนนห้ามสัญจรไปมา พระครูปลัดสุวัฒนสาธุคุณ (พระอาจารย์นาค) เจ้าคณะตำบลบ้านกล้วย เจ้าอาวาสวัดพายชุมพล หลังทราบข่าว ระดับน้ำท่วม ในวัดปากแคว รีบนำอาหารกล่องพร้อมทั้งถุงยังชีพ เข้าไปถวายพระสงฆ์ 18 รูป ที่จำพรรษาอยู่ในวัดปากแคว เร่งหาผู้สูญหายที่แม่ฮ่องสอน […]

เร่งค้นหาอีก 3 ผู้สูญหายดินถล่มปางอุ๋ง ท่ามกลางความหวังของญาติ

28 ส.ค. – เข้าสู่วันที่ 2 ของเหตุดินโคลนถล่มบ้านปางอุ๋ง หมู่บ้านกลางหุบเขา อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ เจ้าหน้าที่ยังคงปฏิบัติการค้นหาผู้สูญหายอีก 3 ราย โดยระดมกำลังนับร้อยนายพร้อมเครื่องจักรเดินหน้าค้นหา ท่ามกลางบรรดาญาติที่เฝ้ารอด้วยความหวัง ล่าสุดวันนี้พบร่างผู้เสียชีวิตอีก 2 ราย ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้เพิ่มเป็น 6 ราย และยังสูญหายอีก 3 คน ขณะที่หลายครอบครัวต้องสูญเสียบ้านที่อยู่มาหลายสิบปีและยังไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นสร้างขึ้นใหม่ได้อย่างไร.-สำนักข่าวไทย

ประชุม ก.ตร. ล่ม เลื่อนไป 31 ส.ค. โผนายพล 136 ตำแหน่งสะดุด

กทม. 28 ส.ค.-ประชุม ก.ตร. ล่ม เลื่อนไป 31 ส.ค. หลัง “ภูมิธรรม” ถกลับ ผบ.ตร. นานหลายชั่วโมง เหตุมีหนังสือร้องเรียนจำนวนมาก ทำโผนายพล 136 ตำแหน่งสะดุด ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรีไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร. เป็นประธานการประชุม ก.ตร.ครั้งที่ 7/2568 ณ ห้องประชุมศรียานนท์ ชั้น 2 อาคาร 1 มีระเบียบวาระการประชุม 5 วาระ ประกอบด้วย วาระที่ 1 เรื่องที่ประธานแจ้งให้ที่ประชุมทราบ /วาระที่ 2 รับรองรายงานการประชุม ก.ตร.ครั้งที่ 6/2568 /วาระที่ 3 เรื่องที่เสนอเพื่อทราบ เรื่องที่ 1 รายงานการดำเนินการของ อ.ก.ตร.สืบสวนสอบสวน ที่ ก.ตร. มอบหมายให้ทำการแทน […]

กองทัพไทย เคาะสร้างรั้วชายแดนไทย-กัมพูชา เขต อ.อรัญประเทศ

สระแก้ว 23 ส.ค.-กองทัพไทย เคาะสร้างรั้วชายแดนไทย-กัมพูชา จุดแรกบริเวณหลักเขตที่ 50-51 เขต อ.อรัญประเทศ ระยะทาง 10 กม. เชื่อเริ่มดำเนินการได้เป็นรูปธรรมภายในปีนี้ พลเอกมนัส จันดี เสนาธิการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทยพร้อมคณะลงพื้นที่เพื่อสำรวจแนวชายแดนตั้งแต่หลักเขตที่สี่ 48 ต่อเนื่องถึง 51 บริเวณพื้นที่บ้านป่าไร่ ถึงบ้านท่าข้าม ในเขต อ.อรัญประเทศ โดยการสำรวจดังกล่าวเพื่อเตรียมสร้างแนวกำแพงแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยได้ข้อสรุปเบื้องต้นบริเวณหลักเกณฑ์ที่ห้า 50 และ 51 ซึ่งไทยและกัมพูชาเห็นตรงกันแล้วในเรื่องเขตแดน จะสร้างเป็นรั้วถาวรเป็นจุดแรกระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร ขณะบริเวณอื่นๆ ซึ่งยังมีการอ้างสิทธิ และยังไม่มีข้อสรุปเรื่องเขตแดนที่ชัดเจน เบื้องต้นก็จะสร้างเป็นแนวรั้วชั่วคราวด้วยวิธีการตัดถนนเลียบตลอดแนวชายแดนและวางรั้วลวดหนามหีบเพลงสามชั้น พร้อมติดกล้องวงจรปิดในจุดที่สามารถดำเนินการได้ ทั้งนี้เชื่อว่าการดำเนินการดังกล่าวจะเกิดประโยชน์ในการเคลื่อนย้ายกำลัง รวมไปถึงการลาดตระเวนตรวจตรา นอกจากนี้การปรับพื้นที่ให้โล่งก็จะทำให้การลักลอบผ่านแดนตามช่องทางธรรมชาติยากขึ้น ซึ่งถือเป็นการสกัดกั้นทั้งแก๊งคอลเซ็นเตอร์และปัญหาสแกมเมอร์ ได้ โดยการดำเนินการจะเริ่มต้นทันทีที่นำเรื่องเข้าขออนุมัติจากสภาความมั่นคงแห่งชาติและไม่ได้ติดขัดในเรื่องงบประมาณแต่อย่างใด เชื่อว่าภายในปีนี้น่าจะเห็นแนวรั้วกำแพงชายแดนไทย-กัมพูชา เริ่มต้นเกิดขึ้นได้ ซึ่งขั้นตอนต่อจากนี้จะมีการลงในรายละเอียดพื้นที่ต่างๆ เพื่อทำความเข้าใจกับประชาชนตามแนวชายแดนที่บางส่วนอาจได้รับผลกระทบบ้าง แต่ก็เชื่อว่าประชาชนพร้อมที่จะเสียสละเพื่อความมั่นคงปลอดภัยของส่วนรวม พลตรี วันชนะ สวัสดี ผู้อำนวยการสำนักงานประสานภารกิจด้านความมั่นคงกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร กรมยุทธการทหาร กล่าวเพิ่มเติมว่า การทำรั้วตลอดแนวชายแดนไทยกัมพูชาเกิดขึ้นจากข้อเรียกร้องของประชาชน […]