จิตแพทย์ชี้ “โจ๊กเกอร์” ไล่แทงคนที่ญี่ปุ่น เป็นความรุนแรงบนท้องถนน

กรุงเทพฯ 1 พ.ย. – ที่ปรึกษากรมสุขภาพจิต ระบุ “โจ๊กเกอร์” ที่ออกมาไล่แทงคนและจุดไฟเผารถไฟใต้ดินที่ญี่ปุ่น ถือเป็นความรุนแรงบนท้องถนน ผู้ปกครองควรพูดคุยกับบุตรหลาน กรณีดูสื่อที่ใช้ความรุนแรง และควรตกลงเป็นกติกาว่าห่วงเรื่องความรุนแรง


จากกรณีคนร้ายแต่งตัวเป็น “โจ๊กเกอร์” ในค่ำคืนวันฮาโลวีน อาละวาดไล่แทงผู้คนและจุดไฟเผารถไฟใต้ดินในกรุงโตเกียวของญี่ปุ่น ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 17 คน สอดคล้องกับทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติของไทย ที่เคยออกมากล่าวเตือนว่า การเลียนแบบพฤติกรรมความรุนแรงจากซีรีส์ “Squid Game” ผู้ปกครองควรกำกับดูแลบุตรหลาน โดยให้พิจารณาเนื้อหาที่มีความรุนแรงลักษณะนี้ เพื่อไม่ให้เกิดพฤติกรรมการลอกเลียนแบบ และอาจจะก่อเหตุขึ้นจริงได้

ส่วนมุมมองของนักจิตวิทยา นพ.ยงยุทธ วงศ์ภิรมย์ศานติ์ ที่ปรึกษากรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข มองประเด็นนี้ว่า จากปัญหาความรุนแรงจะมี 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ ความรุนแรงบนท้องถนน และความรุนแรงในครอบครัว เรื่องของ “โจ๊กเกอร์” ที่ออกมาไล่แทงคนและจุดไฟเผารถไฟใต้ดิน ถือเป็นความรุนแรงบนท้องถนน ซึ่งผู้ก่อเหตุมีทั้งอาการป่วยทางจิตและไม่ป่วยทางจิต กลุ่มคนที่เปราะบางมากกว่าคนอื่น ก็จะได้รับผลกระทบจากการรับสื่อมากกว่าคนอื่น เพราะไม่มีความมั่นคงภายในเพียงพอ


สำหรับผู้ปกครอง ควรจะต้องมีการตกลงเป็นกติกากับบุตรหลานว่า พ่อแม่หรือผู้ปกครองมีความเป็นห่วง หากเกิดเหตุการณ์แบบนี้ ควรส่งเสริมให้เด็กทำกิจกรรมอื่นๆ ที่มีประโยชน์ จะช่วยทำให้บุตรหลานไม่มีอาการหลงผิดได้. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผ่าไชน่า เรลเวย์ คว้า 3 โครงการรัฐในภูเก็ต

เหตุการณ์ตึก สตง.ถล่ม กลายเป็นปฐมบทในการปูพรมตรวจสอบบริษัท ไชน่า เรลเวย์ หลังพบเป็นผู้ชนะการประมูลโครงการก่อสร้างตึก สตง. และโครงการรัฐหลายแห่งทั่วประเทศ ล่าสุดที่ จ.ภูเก็ต ตรวจพบ 3 โครงการ และหนึ่งในนั้นกำลังมีปัญหาก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน

มหาสงครามโลก

นักวิชาการชี้ “มหาสงครามโลกครั้งที่ 3” เกิดแน่ถ้าโลกยังตึงเครียด

นักวิชาการด้านความมั่นคงและการต่างประเทศระดับแนวหน้าของไทย มีความเห็นตรงกันว่า หากผู้นำชาติมหาอำนาจไม่เร่งลดระดับความตึงเครียดสถานการณ์โลก

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว หลังอยู่ปฏิบัติภารกิจค้นหา-กู้ชีพ สนับสนุนกู้ภัยไทย เหตุตึก สตง.ถล่ม กว่า 1 สัปดาห์

ธรรมชาติใต้ดินเปลี่ยนไป หลังแผ่นดินไหว 1 สัปดาห์

แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่งแรงสั่นสะเทือนในหลายพื้นที่ของภาคเหนือ แม้บนพื้นผิวดินจะไม่ได้สร้างความเสียหายมากนัก แต่พบความเปลี่ยนแปลงสภาพใต้ดินจนเกิดปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทั้งหลุมยุบขนาดใหญ่ น้ำพุร้อนที่เคยพุ่งจากใต้ดินหายไป แต่น้ำตกที่แห้งในหน้าแล้งกลับมีน้ำไหลออกมา ซึ่งนักธรณีวิทยายืนยันเป็นผลพวงจากแผ่นดินไหวครั้งนี้

ข่าวแนะนำ

“ไฮโซกำมะลอ” กระโดดชั้น 3 สน.โคกคราม

“ไฮโซเก๊” โลก 2 ใบ เครียดปีนตึก หลังถูก “คะน้า” ดาราสาว ออกมาแฉกลางรายการดัง จนตำรวจต้องเข้าเกลี้ยกล่อมพาไปโรงพัก แต่ยังวิ่งหนีการควบคุม กระโดดลงมาจากชั้น 3 สน.โครกคราม บาดเจ็บ

วันที่ 11 ปฏิบัติการกู้ซากตึก สตง. ถล่ม

วันที่ 11 ของปฏิบัติการกู้ซากตึก สตง. พังถล่ม เจ้าหน้าที่เดินหน้าใช้เครื่องจักรหนักเข้า เคลียร์ซากต่อเนื่อง โดยเฉพาะโซนบี และซี ที่คาดว่าเป็นจุดที่มีผู้ติดค้างอยู่จำนวนมาก

ชุดค้นหาลงโพรงโซน B, C ลึก 5-6 เมตร ได้กลิ่นแรง ไม่พบผู้สูญหาย

“กู้ภัย” เผยเจาะโพรงพื้นที่โซน B และ C ได้แล้ว พร้อมส่งชุดค้นหาลงโพรงไปตรวจสอบลึก 5-6 เมตร ยังไม่พบผู้สูญหายเพิ่ม แต่ได้กลิ่นแรง เร่งเดินหน้าเครื่องจักรหนักเคลียร์ซากต่อเนื่อง ยันจะช่วยเหลือจนกว่านำร่างสุดท้ายออกมาครบ