fbpx

เตรียมใช้หนังสือรับรองฉีดวัคซีนโควิดรูปแบบดิจิทัล พ.ย.นี้

กรุงเทพฯ 28 ต.ค.-คณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ เห็นชอบร่าง กม. ออกหนังสือรับรองฉีดวัคซีนโควิด-19 เตรียมใช้รูปแบบดิจิทัลใน พ.ย.นี้


คณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ เห็นชอบร่างประกาศปรับปรุงการออกหนังสือรับรองการฉีดวัคซีนโควิด 19 เพิ่มรูปแบบเอกสารดิจิทัล อัตรา 50 บาทต่อครั้ง คาดดำเนินการได้ภายใน พ.ย.นี้ ส่วนรูปแบบเล่มดำเนินการแล้ว 4 หมื่นราย เห็นชอบกรอบการดำเนินงานรองรับการเปิดประเทศและการระบาดของโควิดปี 2565 เน้นชีวิตวิถีใหม่ สร้างความมั่นคงสุขภาพและฟื้นฟูเศรษฐกิจ และเห็นชอบปรับนิยามผู้สัมผัสเสี่ยงสูงเดินทางโดยเครื่องบิน เป็นผู้นั่งติดกับผู้ติดเชื้อ ไม่สวมหน้ากากนานกว่า 5 นาที ให้ลดกักตัวจาก 14 วันเหลือ 10 วัน

วันนี้ (28 ตุลาคม 2564) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ครั้งที่ 10/2564 โดยมี นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค ผู้บริหารหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กลาโหม มหาดไทย แรงงาน ศึกษาธิการ การต่างประเทศ การท่องเที่ยวและกีฬา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ UHOSNET โรงพยาบาลเอกชน ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการแพทย์และสาธารณสุข ผู้แทนสภาวิชาชีพและองค์กรอิสระ ร่วมการประชุมและประชุมผ่านระบบออนไลน์


นายอนุทินกล่าวว่า สถานการณ์การระบาดของโรคโควิด 19 ในประเทศไทยมีแนวโน้มลดลง ทั้งผู้ติดเชื้อรายใหม่ ผู้ป่วยอาการหนัก และผู้เสียชีวิต แต่ยังต้องเฝ้าระวัง 4 จังหวัดชายแดนใต้ ซึ่งเริ่มมีสัญญาณผู้ติดเชื้อลดลง และนครศรีธรรมราช ตาก จันทบุรี ระยอง ซึ่งแนวโน้มยังทรงตัว ส่วนการฉีดวัคซีนโควิด 19 ฉีดสะสมมากกว่า 72 ล้านโดส โดยเข็มแรกครอบคลุมร้อยละ 56.5 ของประชากร เข็ม 2 ร้อยละ 40.4 และเข็ม 3 ร้อยละ 3.1 สำหรับเดือนพฤศจิกายนนี้ มีแผนจัดหาวัคซีนเพื่อรองรับการเปิดประเทศและการเปิดเรียนทั่วประเทศ ซึ่งปัจจุบันฉีดวัคซีนให้แก่ครูและบุคลากรทางการศึกษาแล้วมากกว่า 7.6 แสนคน คิดเป็นร้อยละ 85.3 และนักเรียนมากกว่า 2 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 57.6 โดยจะส่งมอบวัคซีนอีก 23 ล้านโดส แบ่งเป็น แอสตร้าเซนเนก้า 13 ล้านโดส และไฟเซอร์ 10 ล้านโดส เพื่อฉีดให้ได้ตามเป้าหมาย คือ จังหวัดและพื้นที่แซนด์บ็อกซ์นำร่อง ต้องฉีดวัคซีนครอบคลุมมากกว่าร้อยละ 70 ของประชากร, เพิ่มความครอบคลุมกลุ่มเสี่ยง 608, ฉีดเข็มกระตุ้นผู้ที่ได้รับวัคซีนซิโนแวคและแอสตร้าเซนเนก้าครบ 2 เข็ม และฉีดวัคซีนเข็ม 2 ให้กลุ่มนักเรียนอายุ 12-18 ปี

นายอนุทินกล่าวต่อว่า วันนี้ที่ประชุมได้หารือประเด็นสำคัญได้แก่ 1.เห็นชอบ (ร่าง) ประกาศคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ เรื่องการออกหนังสือรับรองการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 พ.ศ. … ซึ่งเป็นฉบับปรับปรุงแก้ไขจากประกาศเดิมที่กำหนดรูปแบบเป็นเอกสารเล่ม โดยฉบับนี้จะเพิ่มในส่วนของวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์หรือดิจิทัล เรียกเก็บค่าใช้จ่ายในการออกหนังสือรับรองในอัตรา 50 บาทต่อเล่มหรือต่อครั้ง มีผลบังคับใช้วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา ส่วนการออกหนังสือรับรองการฉีดวัคซีนนั้น ขณะนี้มีหน่วยงานให้บริการออกหนังสือรับรอง 102 แห่ง ได้แก่ กองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค , สถาบันบำราศนราดูร สถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง กทม. สำนักงานป้องกันควบคุมโรค 7 แห่ง (เชียงใหม่ สระบุรี ราชบุรี ชลบุรี ขอนแก่น อุดรธานี และสงขลา) และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด โรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป รวม 92 แห่ง มีผู้รับบริการแล้วกว่า 4 หมื่นคน โดยภายในเดือนพฤศจิกายน 2564 จะเริ่มให้บริการหนังสือรับรองในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ (Digital Certificate) ในบางสถานที่นำร่องก่อนขยายทั่วประเทศต่อไป

2.เห็นชอบกรอบการดำเนินงานรองรับการเปิดประเทศและการระบาดของโรคโควิด 19 ปี พ.ศ. 2565 มีเป้าหมายสร้างความเชื่อมั่นในการใช้ชีวิตวิถีใหม่ ภายใต้มาตรการป้องกันควบคุมโรค สร้างความมั่นคงด้านสุขภาพและฟื้นฟูเศรษฐกิจ โดยมอบคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด คณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร จัดทำแผนปฏิบัติการรองรับการเปิดประเทศและการระบาดของโรคโควิด 19 ปี พ.ศ. 2565 และมอบหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประสาน สนับสนุน และติดตามการดำเนินงานตามแนวทาง  3.เห็นชอบผลการประชุมของคณะกรรมการวิชาการ เรื่องแนวทางปฏิบัติในการกักตัวสำหรับผู้สัมผัสเสี่ยงสูง โดยปรับนิยามผู้สัมผัสเสี่ยงสูงกรณีผู้เดินทางโดยเครื่องบิน จากผู้ที่นั่งใกล้ชิด 2 แถวหน้าหลังและแถวเดียวกับผู้ติดเชื้อ ไม่สวมหน้ากากนานกว่า 5 นาที เป็นผู้ที่นั่งติดกับผู้ติดเชื้อซ้ายขวา ไม่สวมหน้ากากนานกว่า 5 นาที และลดเวลากักตัวผู้สัมผัสเสี่ยงสูงที่ได้รับวัคซีนโควิด 19 ครบโดส จาก 14 วัน เป็น 10 วัน ส่วนผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำจะใช้วิธีการติดตาม ซึ่งจะเสนอ ศบค.ต่อไป


และ 4.รับทราบแผนการเปิดประเทศและแนวทางปฏิบัติสำหรับผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร ซึ่งวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ ประเทศไทยจะเริ่มเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติจาก 45 ประเทศ 1 เขตบริหารพิเศษ ในพื้นที่นำร่อง (สีฟ้า) 17 จังหวัด แบบไม่ต้องกักตัว โดยต้องรับวัคซีนครบโดส ลงทะเบียนผ่านระบบ Thailand Pass มีผลตรวจ RT-PCR เป็นลบไม่เกิน 72 ชั่วโมงก่อนเดินทาง มีเอกสารยืนยันการชำระค่าที่พักอย่างน้อย 1 วัน และมีประกันภัยวงเงินไม่น้อยกว่า 5 หมื่นเหรียญสหรัฐ (ยกเว้นผู้มีสัญชาติไทย) โดยเดินทางไปยังโรงแรมหรือที่พักโดยยานพาหนะที่จัดไว้แบบระบบปิด (Sealed route) ไม่มีการหยุดพักภายใน 2 ชั่วโมง เพื่อตรวจหาเชื้อด้วยวิธี RT-PCR อีกครั้ง รอผล 1 คืน หากไม่พบเชื้อสามารถเดินทางในประเทศได้ ภายใต้การปฏิบัติตามมาตรการที่กำหนด และทางโรงแรมจะมอบชุดตรวจ ATK ไว้สำหรับตรวจหาเชื้อด้วยตนเองเมื่อมีความเสี่ยงหรืออาการของโรคระบบทางเดินหายใจ โดยบันทึกผลตรวจในแอปพลิเคชันหมอพร้อม ซึ่งจะมีการเตรียมความพร้อมหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ส่วนกลุ่มเข้าแซนด์บ็อกซ์หลักเกณฑ์เหมือนกัน แต่เป็นผู้เดินทางมาจากประเทศใดก็ได้ อยู่ในแซนด์บ็อกซ์ 7 วันถึงเดินทางต่อได้ นอกจากนี้ คณะกรรมการฯ ยังรับทราบการเฝ้าระวังสายพันธุ์เดลตาพลัส และแผนการจัดการยาโมลนูพิราเวียร์.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

ชีวิตติดลบ! ชาวแม่สายจมน้ำจมโคลน 10 วันแทบหมดตัว

หลายชุมชนชายแดนแม่สาย เผชิญน้ำท่วมและจมโคลนมา 10 วันแล้ว อยู่ในสภาพแทบหมดตัว ต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่กับชีวิตที่ต้องติดลบจากน้ำท่วมครั้งนี้

อาลัย “อดีตแข้ง U19” ขับเบนซ์พลิกคว่ำดับพร้อมภรรยา

วงการลูกหนังอาลัย “อดีตนักเตะ U19” ขับเบนซ์พลิกคว่ำดับพร้อมภรรยา ชาวบ้านเผยจุดนี้เกิดอุบัติเหตุบ่อย ลงสะพานอย่าขับเร็ว

สอบเพิ่ม “ไอ้แม็ก” ฆ่าชิงทรัพย์หญิงขับโบลท์ ฝากขังพรุ่งนี้

ตำรวจคุมตัว “ไอ้แม็ก” สอบปากคำเพิ่มคดีฆ่าชิงทรัพย์โชเฟอร์สาวขับโบลท์ เจ้าตัวปฏิเสธไปชี้จุด อ้างปวดท้องไม่สบาย เตรียมฝากขังพรุ่งนี้