ปัญหาความรุนแรงในครอบครัวพุ่ง

กรุงเทพฯ 26 ต.ค. – ไทยพบปัญหาความรุนแรงในครอบครัวเป็นปัญหาสะสมมานาน แม้มีกฎหมายคุ้มครองผู้ถูกกระทำความรุนแรงในครอบครัว ซึ่งช่วยคุ้มครองและมีกลไกการแจ้งเบาะแสและช่วยเหลือ แต่จากสถิติพบว่าในช่วงนี้มีผู้ถูกกระทำความรุนแรงในครอบครัวเพิ่มมากขึ้น จากหลายปัจจัย ขณะที่มีมุมมองกุมารแพทย์เด็กและวัยรุ่น ห่วงเด็กที่ต้องอยู่ในครอบครัวที่ใช้ความรุนแรงที่จะส่งผลต่อสภาพจิตใจและพฤติกรรมในอนาคตด้วย


1837 ราย คือจำนวนผู้ถูกกระทำความรุนแรงในครอบครัว ในรอบเพียง 10 เดือน ช่วงปี 63-64 จากการเก็บข้อมูลของศูนย์ปฏิบัติการกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

แม้เพียงในรอบ 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา เรื่องของปัญหาความรุนแรงในครอบครัวปรากฏออกมาให้เห็นในสื่อสาธารณะ แต่อธิบดีกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว พม. ระบุยังมีครอบครัวในสังคมไทยอีกจำนวนไม่น้อยที่ถูกปิดบังและตกเป็นเหยื่อความรุนแรงไม่ได้เข้าสู่กระบวนการ


จากข้อมูลพบในรอบ 6 ปี ไทยมีสถิติความรุนแรงในครอบครัวรวม 9,214 ราย เฉลี่ยพบเหยื่อในครอบครัว 128 รายต่อเดือน หรือพบถึง 4 รายต่อวัน กราฟพบตัวเลขที่พุ่งสูงช่วงสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ครอบครัวต้องใช้เวลาอยู่ร่วมกันยาวนานขึ้น ประกอบกับเครียดสะสมปัญหาปากท้อง และปัจจัยการดื่มสุรา ใช้ยาเสพติด เป็นตัวกระตุ้นสำคัญ ทำให้เกิดความรุนแรงทั้งทางร่างกายและทางเพศ ที่ผ่านมาไทยมี พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัวปี 50 เป็นกฎหมายสำคัญที่จะนำมาใช้คุ้มครองผู้ที่ถูกกระทำความรุนแรงในครอบครัว แต่ที่น่าห่วงคือสถานการณ์โควิด ทำให้ผู้ถูกกระทำเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมยากขึ้นด้วย

ด้านกุมารแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเด็กและวัยรุ่น อธิบายว่าปัญหาความรุนแรงในครอบครัวเป็นปัญหาเรื้อรังในสังคมมานาน โดยเฉพาะผู้หญิง เด็ก คนชรา หรือผู้พิการ ที่ประสบปัญหา ส่วนหนึ่งแม้ไม่โดนกระทำทางร่างกายรุนแรง แต่ก็ถูกกระทำซ้ำทั้งทางร่างกาย จิตใจ สะสม

ในงานเสวนาออนไลน์ หัวข้อความรุนแรงทางเพศกับการเข้าถึงความยุติธรรมในช่วงโควิด ที่จัดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ ข้อมูลจากมูลนิธิส่งเสริมความเสมอภาคทางสังคม ยังระบุพบปัญหาความรุนแรงทางเพศ ความรุนแรงในครอบครัวเพิ่มสูงขึ้น ทั้งยังใช้สื่อออนไลน์เผยแพร่ภาพทำให้อับอาย ขณะเดียวกันการระบาดของโควิด ทำกระบวนการทางกฎหมายล่าช้า ส่งผลให้ปัญหารุนแรงขึ้น บางกรณีนำมาสู่การเสียชีวิต ที่ผ่านมาจึงมีความพยายามผลักดันให้มีการแก้ไข อุดช่องโหว่ของกฎหมายที่ใช้ในปัจจุบัน โดยเพิ่มกลไกการทำงานภาคส่วนต่างๆ ให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น ซึ่งไม่เพียงการป้องกัน แก้ไข เยียวยา ยังครอบคลุมไปถึงการเสริมสร้างความเข้มแข็งของครอบครัว


นอกจากนี้ในมุมมองของผู้ที่เกี่ยวข้องยังเห็นตรงกันว่าสิ่งสำคัญที่ลดปัญหาได้คือ หากพบเห็นความรุนแรงในครอบครัวอย่านิ่งเฉย และปรับทัศนคติที่มองว่าผู้ที่ถูกใช้ความรุนแรงในครอบครัวไม่ใช่เรื่องส่วนตัว แต่เป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

“กานต์” จากเพื่อไทย คะแนนนำ ศึกชิงนายก อบจ.อุบลฯ

ลุ้นผลคะแนนเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี ล่าสุด ณ เวลา 19.30 น. “กานต์ กัลป์ตินันท์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย มีคะแนนนำเป็นอันดับ 1 กกต.คาดรู้ผลไม่เป็นทางการ 4 ทุ่ม คืนนี้

เด้ง ตร.จราจร ปมคลิปรับเงินแลกไม่เขียนใบสั่ง

ผบก.ภ.จว.นนทบุรี สั่งย้าย “รอง สว.จร.สภ.รัตนาธิเบศร์” เซ่นคลิปรับเงินแลกไม่ออกใบสั่ง พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงภายใน 3 วัน ด้านเจ้าตัวอ้างไม่เห็นเงินที่วางบนโต๊ะในตู้ควบคุมสัญญาณไฟจราจร

เชิญชวนร่วมงาน “มหานคร คัลเลอร์ฟูล ปาร์ตี้ 2025”

“กำภู-รัชนีย์” พาทัวร์งาน “มหานคร คัลเลอร์ฟูล ปาร์ตี้ 2025” ณ ลานจอดรถ บมจ.อสมท พบปะผู้ประกาศ ดีเจ และอินฟลูเอนเซอร์ รวมไปถึงศิลปินที่จะมาร่วมสนุกในงาน “มหานคร คัลเลอร์ฟู ปาร์ตี้ 2025”