fbpx

ดีอีเอสห่วงคนไทยหลงเชื่อการแชร์ข่าวปลอมในไลน์

กรุงเทพฯ 22 ต.ค. – “นพวรรณ” โฆษกดีอีเอสฝ่ายการเมือง เผยข้อมูลจากศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม พบไลน์กำลังเป็นแพลตฟอร์มโซเชียลยอดนิยมในการแพร่กระจายข่าวปลอม ห่วงคนไทยหลงเชื่อ เพราะไม่รู้เท่าทัน แนะผู้รับข่าวสารตรวจสอบให้รอบด้านก่อนเชื่อและแชร์


น.ส.นพวรรณ หัวใจมั่น โฆษกกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมฝ่ายการเมือง กล่าวว่า ปัจจุบันมีผู้ใช้ไลน์ในประเทศไทยไม่ต่ำกว่า 50 ล้านคน หรือเกินครึ่งประเทศ ดังนั้น จึงน่าเป็นห่วงว่าผู้ไม่หวังดีจะหันมาใช้ประโยชน์จากช่องทางนี้มากขึ้น เพื่อกระจายข่าวปลอม เมื่อมีผู้ที่ตกเป็นเหยื่อหลงเชื่อก็เกิดการแชร์ต่อๆ กันโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ รู้ไม่เท่าทันผู้สร้างข่าวปลอม จนอาจสร้างความตื่นตระหนกในวงกว้าง และแพร่กระจายความเสียหาย

จากการสรุปผลการมอนิเตอร์ และรับแจ้งข่าวปลอมประจำสัปดาห์ ระหว่างวันที่ 15-21 ต.ค.64 โดยศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม มีข้อความที่เข้ามาจำนวน 11,564,020 ข้อความ โดยจากการคัดกรองมีข้อความที่ต้องดำเนินการตรวจสอบ (Verify) จำนวน 217 ข้อความ รวมเรื่องที่ต้องดำเนินการตรวจสอบ 114 เรื่อง ในจำนวนนี้เป็นข่าวเกี่ยวกับโควิด 49 เรื่อง


สำหรับช่องทางหลักๆ ที่พบจำนวนข้อความที่ต้องคัดกรองและตรวจสอบ อันดับ 1 ยังมาจากระบบ social listening มากกว่า 90% ตามมาด้วยแพลตฟอร์มโซเชียลของศูนย์ฯ ได้แก่ ไลน์ทางการ ทวิตเตอร์ เฟซบุ๊ก และเว็บไซต์ อย่างไรก็ตาม มีข้อสังเกตว่า ในส่วนของการมอนิเตอร์และการแจ้งเบาะแสผ่านแพลตฟอร์มโซเชียล จำนวนข้อความที่ต้องคัดกรอง และข้อความข่าวที่เข้าเกณฑ์ตรวจสอบ จะมาจากเบาะแสที่ได้จากช่องทางไลน์มากที่สุด

สำหรับข่าวปลอมที่มีคนสนใจสูงสุด 3 อันดับแรก รอบสัปดาห์ล่าสุดนี้ ได้แก่ เรื่องโครงการคนละครึ่ง ส่ง SMS ให้ประชาชนลงทะเบียนรับสิทธิ์สำหรับเฟส 4 เรื่องตำรวจปฏิเสธการรับแจ้งความ จากเหตุการณ์ที่ชาวต่างชาติพลัดตกบ่อน้ำพุร้อน และเรื่องพบแอปฯ ดูดเงินจากบัญชีธนาคารของประชาชน เนื่องจากข้อมูลจากธนาคารรั่วไหล มีผู้เสียหายจำนวนมาก ตามลำดับ

ทั้งนี้ กระทรวงดิจิทัลฯ ขอความร่วมมือประชาชนช่วยกันแก้ไขปัญหาข่าวปลอม เมื่อได้รับข่าวสารข้อมูลผ่านโซเชียล ควรตรวจสอบให้รอบด้าน เลือกเชื่อ เลือกแชร์ และสามารถติดตามและแจ้งเบาะแสข่าวปลอมได้ผ่านช่องทางต่างๆ ของศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ดังนี้ ไลน์ @antifakenewscenter เว็บไซต์ https://www.antifakenewscenter.com/ ทวิตเตอร์ https://twitter.com/AFNCThailand และช่องทางโทรศัพท์โทรสายด่วน GCC 1111 ต่อ 87. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

“สารวัตรแจ๊ะ” ยื่นฟ้องหมิ่น “ทนายรัชพล” กล่าวหาจับแพะติดคุกฟรีปีกว่า

“สารวัตรแจ๊ะ” พร้อมทนายความ ยื่นฟ้องหมิ่นประมาททนายดัง และฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท ยันไม่ได้นําตัวไปเซฟเฮาส์ ด้านทนายเผยพบหลักฐานทนายคู่กรณีบีบผู้เสียหายกลับคําให้การ แบ่งเงินคนละครึ่ง

ข่าวแนะนำ

“บิ๊กโจ๊ก” ร้อง ตร.ขอความเป็นธรรม ปมโดนให้ออกจากราชการ

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล บุกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หอบหลักฐานยื่นคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมตำรวจ ขอให้เพิกถอนคำสั่งให้ออกจากราชการ

เร่งตรวจสอบเหตุสารเคมีรั่วไหลโรงงานย่านพระราม 2

เจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบเหตุสารเคมีรั่วไหลในโรงงานย่านพระราม 2 ควันสีขาวลอยโขมง เบื้องต้นพบเป็นสารไทโอยูเรีย

อุตุฯ เผยไทยตอนบนร้อนจัด แนะเลี่ยงทำงานในที่โล่งแจ้งเป็นเวลานาน

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด แนะหลีกเลี่ยงการทำงานหรือการประกอบกิจกรรมในที่โล่งแจ้งเป็นระยะเวลานาน ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง กรุงเทพฯ-ปริมณฑล อากาศร้อนจัดบางแห่ง

คดีสะเทือนขวัญ ฆ่าหั่นศพ “ยากูซ่า” จ.นนทบุรี

คดีสะเทือนขวัญ พบชิ้นส่วนมือ ในพื้นที่ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ล่าสุดตำรวจจับกุมหนึ่งในผู้ต้องหาได้แล้ว และทราบว่าทั้งผู้ตายและผู้ลงมือฆ่าหั่นศพ เป็นแก๊งยากูซ่าชาวญี่ปุ่น