สธ.18 ต.ค.- “อนุทิน” สั่งกรมควบคุมโรค ทำความเข้าใจประชาชนหลังสำรวจโพล ไม่มั่นใจเปิดประเทศ ย้ำหากฉีดวัคซีนมากพอเจ็บป่วยตายลด ต่อไปหากมีการระบาดเกิดคลัสเตอร์ ล็อกเฉพาะจุด
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงผลสำรวจของสวนดุสิตโพลที่มีประชาชนถึง 59% ยังไม่เห็นด้วยกับนโยบายการเปิดประเทศใน 1 พ.ย.64 ว่า นโยบายการเปิดประเทศ เป็นความร่วมมือหลายภาคส่วน ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขในฐานะผู้สนับสนุนให้เกิดความปลอดภัยเรื่องสุขภาพสำหรับการผ่อนคลายมาตรการที่มากขึ้น มีมาตรการ คัดกรองผู้เดินทางเข้าประเทศ เช่น ต้องมีผลตรวจ RT-PCR ก่อนเดินทาง ได้รับการฉีดวัคซีนโควิดครบโดส มีใบรับรอง Fit-to-fly และเมื่อเดินทางถึงไทยต้องตรวจ RT-PCR ซ้ำอีกครั้งโดย 1 คืนแรกจะต้องพักรอผลตรวจในพื้นที่ที่เราติดตามได้ ดังนั้น เรื่องระบบสาธารณสุขมีความพร้อม และเตรียมรับสถานการณ์ได้ ส่วนผลสำรวจที่สูงกว่า 50% ทางกรมควบคุมโรคจะต้องสื่อสารข้อมูลให้ประชาชนเกิดความมั่นใจและเข้าใจสถานการณ์
เมื่อถามขณะนี้พบคลัสเตอร์ติดเชื้อในจังหวัดนำร่องเปิดการท่องเที่ยว สธ.จะต้องดำเนินการอย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า คำว่าคลัสเตอร์ หมายถึงควบคุมได้แล้ว โดยเราใช้ระบบดูแลผู้ติดเชื้อที่ไม่มีอาการให้สามารถแยกกักที่บ้าน (Home Isolation) แยกกักที่ชุมชน(Community Isolation) วันนี้ผู้เสียชีวิตก็ลดลงต่อเนื่อง ตัวเลขต่ำร้อยรายหลายวันแล้ว แนวโน้มดีขึ้นทุกวัน ส่วนการเปิดท่องเที่ยวนั้น ก็จะต้องเร่งฉีดวัคซีนให้ครบ ทุกคนต้องระวังตัวเองเพื่อลดความเสี่ยง และช่วยกันทุกฝ่าย
นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า หากดูแนวโน้มแต่ละประเทศโลก หลังจากที่ไทยประกาศเปิดประเทศ หลายประเทศก็ประกาศตามเรา เช่น อินโดนีเซีย เนื่องจากระยะหลังแม้ยังมีจำนวนผู้ติดเชื้อแต่อัตราป่วยและอัตราเสียชีวิตลดลงชัดเจน ส่วนไทยสำหรับพื้นที่ กทม.มีการเร่งฉีดวัคซีน บางวันเสียชีวิตไม่ถึง 10 คน ส่วนจังหวัดอื่นจะเร่งฉีดให้ครบ เชื่อว่าการเปิดประเทศจะเกิดผลดีมากกว่า เพราะ หากมัวแต่ปิด ล็อกดาวน์ ก็ไม่รู้จักจบสักที เชื่อว่าจะจบได้หากปลายปี 2564 นี้ มีการฉีดวัคซีนเพิ่มมากขึ้น อัตราการติดเชื้อก็จะไม่รุนแรง ไม่เสียชีวิต เปิดประเทศด้วยความมั่นใจ ก็ขอให้ทุกคนเข้ามารับวัคซีนกัน
นพ.โอภาส กล่าวด้วยว่า ขณะนี้จะให้จังหวัดทำแผนปฏิบัติการอย่างละเอียด จังหวัดที่การระบาดไม่มากเน้นเฝ้าระวังให้ความรู้ประชาชน เพื่อป้องกันตัวเองอย่างสูงสุด (Universal Prevention) ส่วนจังหวัดระบาดมาก เน้นเรื่องควบคุมมาตรการสังคม ปิดกิจการต่างๆเช่น 4 จังหวัดชายแดนใต้ ขณะที่จังหวัดกลางๆ จะปรับตามสถานการณ์ หากมีโรงงานเยอะ ก็จะเน้นมาตรการบับเบิ้ลแอนด์ซีล(Bubble and seal)
ส่วนเมื่อมีนักท่องเที่ยวเข้ามาใน 1 พ.ย. จะต้องเป็นการท่องเที่ยวปลอดแอลกอฮอล์เท่านั้นหรือไม่ นพ.โอภาส กล่าวว่า จะต้องมีมาตรการดูแลสถานที่เสี่ยงสูง เช่น สถานบันเทิง ทางกรมอนามัยก็จะมีมาตรการออกมาเพิ่มเติม อย่างไรก็ตามหากประชาชนฉีดวัคซีนกันจำนวนมากในปลายปีนี้แล้วก็จะไม่ป่วยหนักก็จะไม่ต้องล็อกดาวน์ทั้งหมด เพราะสิ่งที่ต้องเน้นย้ำคือการลดกิจกรรมลง ลดการเดินทาง โดยเกณฑ์ชี้วัดการปิดหรือล็อกดาวน์บางพื้นที่ ต่อไปจะขึ้นอยู่กับว่าระบบสาธารณสุขรองรับเพียงพอหรือไม่ .-สำนักข่าวไทย