กทม. 16 ต.ค.-กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เผยโรงงานผลิตน้ำดื่มที่ได้รับการอนุญาตตามกฎหมายอาหารและปฏิบัติตามมาตรฐาน GMP หรือ HACCP ผ่านกระบวนการผลิตที่มีความปลอดภัยจากโควิด-19 ช่วยสร้างความมั่นใจให้ผู้บริโภค พร้อมขอความร่วมมือให้สถานประกอบการโรงงานผลิตน้ำดื่มทุกแห่ง ปฏิบัติตามมาตรการเฝ้าระวังและป้องกันโรคโควิด-19 อย่างเคร่งครัด
นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า จากกรณีเกิดการระบาดของโรคไวรัสโคโรนา 2019 ในโรงงานผลิตน้ำดื่ม จังหวัดเชียงใหม่ ทำให้ประชาชนมีความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของน้ำดื่มบรรจุขวดอาจจะปนเปื้อนเชื้อโควิด-19 ซึ่งการปนเปื้อนเชื้อโรคที่สามารถติดต่อกันทางระบบทางเดินอาหาร และตัวเชื้อเองนั้น มีเยื่อหุ้มที่ทนทานต่อสภาพแวดล้อมได้ต่ำ สามารถอยู่ในน้ำสะอาดที่ปราศจากคลอรีนได้เพียง 2 วัน และจะถูกทำลายได้ง่ายจากคลอรีนในการช่วยฆ่าเชื้อโรค โดยสามารถกรองได้ด้วยเยื่อกรองที่มีช่องว่างไม่เกิน 100 นาโนเมตร ได้แก่ การกรองแบบ Ultra Filtration (UF), Nano Filtration (NF) และ Reverse Osmosis (RO)
นอกจากนี้ยังสามารถกำจัดได้ด้วยแสง UV (Ultraviolet) ซึ่งโรงงานผลิตน้ำดื่มที่ได้รับการอนุญาตตามกฎหมายอาหารและปฏิบัติตามมาตรฐาน GMP หรือ HACCP จึงทำให้มั่นใจได้ว่าคุณภาพน้ำดื่มที่ผลิตมีความปลอดภัยจากโควิด-19
“ทั้งนี้ ขอความร่วมมือให้สถานประกอบการโรงงานผลิตน้ำดื่มทุกแห่ง มีมาตรการเฝ้าระวังและป้องกันโรคโควิด-19 ด้วยการคัดกรองผู้ปฏิบัติงานก่อนมาทำงานในระดับเข้มข้น โดยเจ้าของโรงงานควรประเมินผ่านแพลตฟอร์ม Thai Stop COVID 2 Plus และในส่วนของคนงานให้ประเมินตนเองผ่านไทยเซฟไทย ก่อนเข้าทำงานทุกวัน เพื่อลดความเสี่ยงต่อการแพร่กระจายโรค ลดความแออัดหรือความหนาแน่นบริเวณ ที่ปฏิบัติงาน รวมทั้งเน้นย้ำสุขลักษณะส่วนบุคคลที่ดีของผู้ปฏิบัติงาน เช่น การล้างมือหรือใช้เจลแอลกอฮอล์ เปลี่ยนรองเท้าที่จะปฏิบัติงาน ในส่วนของที่พักคนงานให้หลีกเลี่ยงการรวมกลุ่มบริเวณที่พัก ควบคุมความสะอาดของที่พักให้ได้มาตรฐาน หากมีรถรับ – ส่งต้องจำกัดจำนวนไม่ให้แออัด และสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าตลอดเวลาที่ใช้บริการ และหมั่นทำความสะอาดและฆ่าเชื้อภายภายในรถเป็นประจำ สำหรับประชาชนที่ใช้บริการน้ำดื่มบรรจุขวดหรือถัง 20 ลิตร ก่อนนำน้ำดื่มบรรจุขวดมาบริโภคควรล้างหรือทำความสะอาดภายนอก ภาชนะบรรจุน้ำดื่มก่อน และไม่ควรใช้ปากดื่มจากขวดโดยตรง ควรใช้หลอดหรือเทใส่แก้วดื่มจะดีกว่า” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว .-สำนักข่าวไทย