สธ. 4 ต.ค.- อธิบดีกรมควบคุมโรค เผยแนวโน้มการติดเชื้อโควิดดีขึ้น การรับวัคซีนเป็นไปตามเป้า เดินหน้าฉีดวัคซีนในเด็กวันแรก ยังไม่ฟันเด็กชายรับไฟเซอร์เข็ม 2 หรือไม่ รอคณะกรรมพิจารณา หลังข้อมูลพบกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ เกิดในเข็ม 2 หลังรับวัคซีนช่วง 0-5 วัน
นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่าสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 มีแนวโน้มดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยวันนี้พบผู้ป่วยติดเชื้อ 9,930 คน เสียชีวิต 97 คน รักษาหายป่วยแล้ว 12,336 คนเหลือรักษาตัวในโรงพยาบาล 109,748 คน ในจำนวนนี้ปอดอักเสบ 3,071 คน และใส่ท่อช่วยหายใจ 719 คน และเมื่อติดตามกราฟอัตราการป่วยพบว่า มีแนวโน้มลดลงเช่นกัน โดยในกราฟของ กทม.และปริมณฑล แต่พบว่า กราฟของภาคใต้ที่มีแนวโน้มสูงขึ้น โดยพบการติดเชื้อ ร้อยละ 21 หรือประมาณ 1,968 คนต่อวัน
นพ.โอภาส กล่าวว่า ส่วนยอดการรับวัคซีนในขณะนี้ (ตั้งแต่ 28 ก.พ.- 3 ต.ค.64)พบว่ามีการฉีดวัคซีนไปแล้ว 55 ล้านโดส แบ่งเป็นวัคซีนเข็ม 1 ฉีดแล้ว 32,987,918 คน หรือ คิดเป็น 45.8% ,เข็มที่ 2 ฉีดแล้ว 20,696,791 คน หรือคิดเป็น 28.7% อย่างไรก็ตามเนื่องจากจำนวนวัคซีนได้มีการทยอยเข้ามาเพิ่มมากขึ้น จึงได้มีการปรับเป้าหมายในการฉีดวัคซีนใหม่ เป็นในปี 2564 จะต้องมีการ ฉีดวัคซีนให้ได้ 120 ล้านโดส แบ่งเป็นเข็มที่ 1 จำนวน 60 ล้านโดส ,เข็ม 2 จำนวน 52 ล้านโดส และเข็ม 3 จำนวน 7 ล้านโดส ส่วนในปี 2565 เป้าหมายฉีดวัคซีน 86 ล้านโดส เน้นการฉีดวัคซีนในกลุ่มตกค้าง มีตั้งแต่อายุ 3-11 ปี เข็มที่ 1 จำนวน 6 ล้านโดส ,เข็มที่ 2 จำนวน 8 ล้านโดส และเข็ม 3 จำนวน 66 ล้านโดส
นพ.โอภาส กล่าวต่อไปว่า ส่วนการเดินหน้าฉีดวัคซีนให้กับเด็กที่เริ่มดำเนินการวันนี้ (4 ต.ค.) ได้มีการกระจายวัคซีนลงไปในระดับอำเภอ เพื่อเตรียมความพร้อมฉีดให้กับนักเรียนในแต่ละพื้นที่ โดยในส่วนของเด็กหญิงส่วนใหญ่ไม่กังวลเรื่องการรับวัคซีน เพราะเคยรับวัคซีนมะเร็งปากมดลูกมาแล้ว พร้อมย้ำว่าวัคซีนที่จัดสรรมานี้ เป็นวัคซีนที่ผ่านการรับรองความปลอดภัยจาก อย.และจะฉีดให้กับเด็ก ม.4-ม.6 หรือระดับชั้น ปวช.และ ปวส.เบื้องต้นการฉีดวัคซีนในเด็กหญิงจะให้รับครบทั้ง 2 เข็ม ส่วนเด็กชายเบื้องต้นรับเข็ม 1 ไปก่อน เพื่อลดความห่วงกังวลเรื่องการเกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ ที่พบได้ในเด็กชาย ในการรับวัคซีนเข็ม 2 โดยในระหว่างนี้รอดูข้อมูลทางวิชาการในการรับวัคซีนเข็ม 2 ในเด็กชายจากต่างประเทศเพื่อประกอบการพิจารณา
นพ.โอภาส กล่าวต่อไปอีกว่า การเกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบในการรับวัคซีนชนิด m-RNA พบได้ประมาณ 10-20 ต่อแสนประชากร เช่นเดียวกับการเกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบในธรรมชาติ โดยการเกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจในเด็กชาย ส่วนใหญ่จะเกิดหลังรับวัคซีน ชนิด m-RNA เข็มที่ 2 ในวันที่ 0-5 วัน พร้อมย้ำประโยชน์ของการรับวัคซีนมีมากกว่าไม่รับวัคซีน
ส่วนการพิจารณาการฉีดวัคซีนเข็ม 2 ในเด็กชายหรือไม่นั้น ยังต้องรอการประเมินผลและติดตามอาการหลังจากรับวัคซีนเข็มแรกไปก่อน 2 สัปดาห์ พร้อมกล่าวว่าจำนวนวัคซีนไฟเซอร์ที่สั่งซื้อเข้ามา 30 ล้านโดส ได้ทยอยเข้ามาก่อน 2 ล้านโดส และได้กระจายฉีดให้กับเด็ก จากนั้นในพุธ 6 ต.ค.จะเข้ามาอีก 1.5 ล้านโดส และ 13 ต.ค.เข้ามาอีก 1.5 ล้านโดส ทำให้มีวัคซีนรวม 5ล้านโดส เพียงพอกับการฉีดวัคซีนให้กับเด็กนีกเรียน เพื่อเป้าหมายการเปิดเรียนและใช้ชีวิตได้อย่างปกติ .-สำนักข่าวไทย