สธ.ส่ง 144 ทีมดูแลผู้ประสบภัยน้ำท่วม เฝ้าระวังโรคที่มากับน้ำ

กทม. 2 ต.ค.-ก.สาธารณสุข ส่ง 144 ทีม ดูแลผู้ประสบภัยน้ำท่วม 17 จังหวัด ส่วนใหญ่น้ำกัดเท้า ประเมินสุขภาพจิต 7,797 ราย พบเครียดมาก 2 ราย ให้การดูแลแล้ว สถานบริการได้รับผลกระทบเพิ่ม 4 แห่ง รวม 78 แห่ง

วันนี้ (2 ตุลาคม 2564) นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า จากอิทธิพลของพายุ “เตี้ยนหมู่” ทำให้มีประชาชนได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมและน้ำป่าไหลหลากรวม 264,210 ครัวเรือนใน 195 อำเภอ จาก 31 จังหวัด มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 51 ราย เสียชีวิต 27 ราย และสูญหาย 1 ราย ขณะนี้สถานการณ์คลี่คลายแล้ว 14 จังหวัด สำหรับสถานบริการสาธารณสุขได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมเพิ่มขึ้น 4 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านกุ่ม อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลโนนพะยอม โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลศรีบุญเรือง อ.ชนบท จ.ขอนแก่น และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านดอนดู่ อ.หนองสองห้อง จ.ขอนแก่น รวมได้รับผลกระทบ 78 แห่ง สามารถเปิดบริการตามปกติ 48 แห่ง เปิดบริการบางส่วน 8 แห่ง และปิดบริการ 29 แห่ง โดยมีการย้ายผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาลอื่นๆ ให้ได้รับการดูแลตามมาตรฐานต่อไป


ทั้งนี้ ได้ส่งทีมปฏิบัติการด้านการแพทย์ 144 ทีม ดำเนินการดูแลประชาชนและผู้ประสบภัยใน 17 จังหวัด รวม 60,467 ราย ประกอบด้วย การดูแลเยี่ยมบ้าน 19,042 ราย แจกยาชุดน้ำท่วม 13,793 ราย ตรวจรักษา 8,597 ราย การให้สุขศึกษา 11,637 ราย ประเมินสุขภาพจิต 7,397 ราย และดำเนินการส่งต่อรักษา 1 ราย โดยอาการเจ็บป่วยที่ตรวจพบมากที่สุด คือ น้ำกัดเท้า 5,295 ราย ตามด้วยอาการทางผิวหนัง เช่น แพ้ ผื่นคัน 992 ราย และเหนื่อย อ่อนเพลีย 894 ราย เป็นต้น ส่วนการประเมินสุขภาพจิตอยู่ในภาวะปกติ 7,395 ราย มีภาวะเครียดระดับมาก 2 ราย ได้ดำเนินการดูแลแล้ว นอกจากนี้ ยังได้สนับสนุนยาและเวชภัณฑ์จากส่วนกลาง 5 พันชุดในพื้นที่ 6 จังหวัด ได้แก่ ชัยภูมิ นครราชสีมา เพชรบูรณ์ ตรัง สุโขทัย และกำแพงเพชร

นายแพทย์เกียรติภูมิ กล่าวต่อว่า ได้กำชับให้พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบและพื้นที่เสี่ยงเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์และผลกระทบด้านโรคและภัยสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นจากน้ำท่วม โดยเฉพาะโรคที่มากับน้ำท่วม ซึ่งขณะนี้พบอาการระบบทางเดินหายใจ 684 ราย โรคระบบทางเดินอาหาร 164 ราย อุจจาระร่วงเฉียบพลัน/อาหารเป็นพิษ 8 ราย ส่วนโรคที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัส โรคฉี่หนู และไข้เลือดออกยังไม่พบรายงาน ส่วนที่ต้องเน้นย้ำคืออุบัติเหตุ เช่น จมน้ำ ไฟฟ้าช็อต เป็นต้น พบรายงาน 11 ราย จึงขอให้ประชาชนระมัดระวัง หากน้ำท่วมบ้านให้ปิดอุปกรณ์ไฟฟ้าทันที หลีกเลี่ยงการใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าที่เปียกน้ำ โดยพื้นที่ที่น้ำลดระดับแล้ว ให้ตรวจสอบระบบไฟฟ้าหลังกลับเข้าบ้าน เพื่อป้องกันอันตรายจากไฟฟ้าดูด รวมถึงเฝ้าระวังบุตรหลานที่อาจจมน้ำจากการลงไปเล่นน้ำท่วม.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง