เสวนา ผลักดันพืชกระท่อมไทยไปตลาดโลก

กรุงเทพฯ 20 ก.ย.- เสวนา “พืชกระท่อมไทยไปตลาดโลก” ผลักดันเป็นพืชเศรษฐกิจ บำบัดคนติดยา ป.ป.ส.ยันเอาจริงปราบน้ำท่อม 4×100 แต่กิน-ใช้-ปลูกเสรี เอกชนเผยตลาดอเมริกามีมูลค่าสูงถึงหมื่นล้าน ชี้พันธุ์ก้านแดงดี คนนิยมมาก


นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดเสวนาออนไลน์ “พืชกระท่อมไทยไปตลาดโลก” และบรรยายพิเศษ เรื่องความเป็นมาในการพัฒนาและผลักดันนโยบายพืชกระท่อมของประเทศไทย ตอนหนึ่งว่า เรามองเห็นพืชกระท่อมเป็นของดีมีประโยชน์กับประชาชนคนไทย ทั้ง ๆ ที่กระท่อมผิดกฎหมายมา 78 ปี การที่ตนได้รับฟังในฐานะ ส.ส.และรัฐมนตรีว่าการฯ จากผู้คน 135 หมู่บ้าน ที่ ป.ป.ส. ได้นำร่อง ตนมองไปถึงเรื่องของเศรษฐกิจ ประชาชนทุกภาคในประเทศไทยต้องทำมาหากินในเรื่องของการเกษตร ซึ่งทุกคนทำเหมือนกันหมด ทำให้ราคาตกต่ำ ตนมีหน้าที่ต้องทำให้พี่น้องมีรายได้ โดยเฉพาะวันนี้ที่เป็นหนี้กันดูจากกองทุนหมู่บ้าน ที่เป็นหนี้กันเกือบ 3 ล้านบาท เกือบทุกกองทุน พืชกระท่อมหากเราทำให้ดีจะเป็นพืชเศรษฐกิจ ซื้อขาย ปลูกได้ ประกอบกับ ป.ป.ส. มีหมู่บ้านที่อนุรักษ์พืชกระท่อม ตนจึงได้ปรึกษารัฐบาลและเห็นด้วย ใช้เวลา 1 ปีครึ่ง ที่ทำกฎหมายปลดล็อกได้สำเร็จ รวมทั้งกฎหมายรองที่ผ่านสภาผู้แทนราษฎรแล้ว อยู่ในช่วงพิจารณาของวุฒิสภา

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า วันนี้กระท่อมพัฒนาไประดับหนึ่ง ผู้คนสนใจอยากจะปลูก ถ้าจะเอาต้นเล็กๆไปปลูกจะโตช้า หากจะให้เร็วใช้ต้นตอของกระทุ่มแล้วเสียบยอดกระท่อม ซึ่งจะโตได้เร็วกว่า ส่วนประโยชน์จากทางด้านอุตสาหกรรมและการแพทย์ เมื่อเราเปิดให้ถูกกฎหมาย การทดลองวิจัยต่างๆ การพัฒนา มี ป.ป.ส. ที่ช่วยดูในช่วงแรก จากนั้นวันข้างหน้าจะมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมารับไม้ต่อ วันนี้ใบกระท่อมราคา 300-500 บาทต่อกิโลกรัม หากปลูกแบบพอเหมาะพอดีจะรักษาราคาไว้ได้และจะช่วยปลดหนี้ให้เกษตรกร นอกจากนี้ยังมีเรื่องการวิจัยของสารสกัดสำหรับนำมาบำบัดผู้ติดยาเสพติดด้วย โดยตนได้ให้กรมคุมประพฤติไปดำเนินการทดลองแล้ว


นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการป.ป.ส.บรรยายเรื่องกฎหมายกระท่อมหลังปลดล็อก ว่า ปลูกได้ทุกที่ ซื้อได้ทุกทาง กินได้ทุกคน ตอนนี้กระท่อมได้ปลดล็อกออกจากยาเสพติด ตั้งแต่ 24 ส.ค.64 ใครที่จะปลูก จะค้าขายใบหรือต้นพันธุ์ ไม่ผิดกฎหมาย แต่หากเอาไปทำเป็นอาหาร เครื่องสำอาง หรือน้ำต้มกระท่อม ไม่ได้ผิดกฎหมายยาเสพติด แต่ผิด พ.ร.บ.อาหาร ของกระทรวงสาธารณสุข การกินนั้นโดยเฉพาะเด็กและสตรีมีครรภ์ ต้องระวัง เพราะมีสารบางตัวที่จะส่งผลกระทบได้ สิ่งที่ ป.ป.ส. ต้องเฝ้าระวังคือ การนำพืชกระท่อมไปผสมกับยาเสพติดหรือทำเป็น 4×100 ที่เราจะเอาจริงเอาจัง ส่วนเรื่องของกฎหมายรอง หลักคือการห้ามเด็กและสตรีมีครรภ์นำไปใช้ และทำอย่างไรจะให้ประชาชนได้ประโยชน์ตรงนี้ให้มากที่สุด ไม่ให้ตกไปอยู่ในมือนายทุน รวมทั้งการควบคุมเรื่องการนำเข้า-ส่งออก เพื่อไม่ให้กระทบกับราคาภายในประเทศ เพราะหากนำเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้านมากเกินไปราคาจะตกต่ำ

ผศ.ดร.ศรีเมฆ ชาวโพงพาง ผู้เชี่ยวชาญเทคนิคอาวุโส ธนาคารทรัพยากรชีวภาพแห่งชาติ สวทช.บรรยายเรื่อง พฤกษศาสตร์ความหลากหลายทางพันธุกรรม สารชีวภาพในพืชกระท่อม ว่าตอนนี้ สวทช.กำลังศึกษาพันธุ์ต่างๆ ของพืชกระท่อม มีการออกสำรวจ เก็บลักษณะของต้น ช่วงออกดอกเป็นอย่างไร มีการเก็บ DNA เพื่อนำไปศึกษา นอกจากนี้ยังศึกษาเรื่องเก็บเมล็ดว่าจะเก็บแห้งได้นานเท่าไรและมีการ ศึกษาพันธุกรรมของแต่ละสายพันธุ์นำมาวิเคราะห์ หาสารสำคัญในใบกระท่อม ว่าจะสามารถนำไปใช้ประโยชน์อะไรได้บ้าง แต่ปัญหาที่เจอตอนนี้คือ สถานการณ์โควิด ที่ทำให้เราทำงานแล้วยาก แต่เมื่อสถานการณ์ดีขึ้นคงได้อะไรบ้าง

ผศ.นพ.วรวิทย์ วาณิชย์สุวรรณ ผอ.สถาบันวิจัยและนวัตกรรมทางการแพทย์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ กล่าวว่า การพัฒนาโรงงานต้นแบบในการผลิตสารสกัดมาตรฐานจากสมุนไพรเพื่อใช้ในทางการแพทย์และอาหาร ที่ได้มาตรฐาน GMP โดยเราหวังว่าจะสามารถส่งขายให้กับร้านยาและพัฒนาสู่การส่งออกไปยังต่างประเทศได้ ซึ่งเราได้มีการพัฒนาร่วมกับวิสาหกิจชุมชนด้วย และหวังว่าในอนาคตจะมีโรงงานขนาดใหญ่ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อการเพิ่มมูลค่าให้กับพืชกระท่อมได้ โดยกระท่อมมีฤทธิ์ในการรักษาโรคได้หลายอย่าง เช่น การลดระดับน้ำตาลในเลือด ระบบทางเดินอาหาร แก้ปวด เราต้องมีต้นน้ำ กลางน้ำและปลายน้ำที่ดี เพื่อพัฒนาต่อยอดให้เราสามารถส่งออกสู่ตลาดโลกได้


รศ.ดร.เอกสิทธิ์ กุมารสิทธิ์ ภาควิชาสรีรวิทยา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ กล่าวว่า เราได้มีการทดลองพืชกระท่อมใช้ในการบำบัดคนติดยา สรรพคุณต่อระบบประสาทและสมอง ผลการทดลองที่ออกมาจะเป็นจุด เริ่มต้นในการวิจัยเพื่อนำไปสู่ข้อเท็จจริง โดยขณะนี้มีการทดลองเรื่องการนำพืชกระท่อมไปบำบัดผู้ติดยาเสพติด และผู้ป่วยโรคพาร์กินสัน ซึ่งเราเชื่อว่าพืชกระท่อมมีศักยภาพพอในการนำมาบำบัดและรักษาโรคได้ และยังสามารถนำไปพัฒนาเป็นยาเพื่อสุขภาพในการควบคุมน้ำหนักได้อีกด้วย

นายจุลภาค เครือโสภณ ผู้ก่อตั้งบริษัท โกลเด้น ไตรแองเกิล เฮลท์ จำกัด บรรยายเรื่อง พืชกระท่อมไทยไปอเมริกาว่า มูลค่าการตลาดพืชกระท่อมในอเมริกามีมูลค่า 10,000 ล้านบาท โดยมี 2 ประเทศที่ส่งออกไปอเมริกาคือ มาเลเซียกับอินโดนีเซีย โดยประเทศไทยเองอเมริกาก็ให้การรับรองว่าเป็นสายพันธุ์ที่ดี แต่ติดเรื่องกฎหมายมานานหลายสิบปี ซึ่งส่วนใหญ่พื้นที่ปั๊มน้ำมันในอเมริกาจะเป็นพื้นที่ขายกระท่อมจำนวนมากให้กับบรรดาคนขับรถบรรทุก ซึ่งขณะนี้ความต้องการมีมากกว่าการผลิต

จากนั้นได้เปิดให้ผู้เข้าร่วมสัมมนาส่งคำถามเข้ามา โดยคำถามแรกถามว่า สายพันธุ์ที่ดีที่สุดที่จะปลูกแล้วบริษัทรับซื้อให้ราคาดีและมีตัวยาในใบปริมาณมาก นายจุลภาค ตอบว่า พันธุ์ก้านแดงเป็นที่นิยมมากที่สุดเพราะมีสารไมต้าเจดีนสูง ต้นพันธุ์ที่จะนำ มาปลูกควรใช้ ต้นที่มาจากการเพาะเมล็ดจะมีระบบรากแก้ว คำถามต่อมาคือ ควรเว้นระยะการปลูกเท่าไร นายสมศักดิ์ กล่าวว่า การปลูกควรเว้นระยะห่าง 8 เมตร เพราะเป็นพืชใช้ใบ ปลูก 1 ไร่ประมาณ 25 ต้น เมื่อถามว่าจะมีใครมารับซื้อใบ นายจุลภาค กล่าวว่า จะมีบริษัทรับซื้ออยู่หลายบริษัท เพื่อทำสินค้าขายในไทย รวมถึงการส่งออก .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ

กทม. 23 ส.ค.- กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ เฝ้าระวัง “พายุดีเปรสชัน” มีแนวโน้มทวีกำลังแรงเป็นพายุโซนร้อน กระทบไทย 24-27 ส.ค.นี้ กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดตาก จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนตกสะสมที่อาจเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวตอนบน และเวียดนามตอนบน สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนมีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน และจะขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามและประเทศลาวตอนบน ในช่วงวันที่ 25–26 ส.ค. 68 ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้น กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ กับมีลมแรงบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 24–27 ส.ค. 68 -สำนักข่าวไทย

โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊ก ขรก.มหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน

ทำเนียบ 23 ส.ค.- โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊กข้าราชการมหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน ด้าน “เชษฐา” เป็นอธิบดี ปภ. ราชกิจจานุเบกษา ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงมหาดไทย พ้นจากตำแหน่ง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 6 ราย ดังนี้ ตั้งแต่วันที่ 21 ส.ค.2568 เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 22 ส.ค.2568 ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี -สำนักข่าวไทย

จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมืองโกงเงินอุดหนุน ก่อนหนีกบดานลาว

22 ส.ค. – ตำรวจภูธรภาค 1 จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมือง โกงเงินอุดหนุน 17.6 ล้านบาท หนีกบดานลาว ก่อนจนมุมถูกจับกุมได้ พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (ผบช.ภ.1), พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1, พล.ต.ต.ธรรมนูญ เชาวะวนิชย์ ผบก.ภ.จว.สระบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระพุทธบาท, ตม.จว.หนองคาย, กกต.จว.หนองคาย ร่วมกันจับกุม นายพีระวิทย์ อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ สืบเนื่องจากเมื่อปี 2562 นายพีระวิทย์ เป็นหัวหน้าพรรคการเมือง รับเงินอุดหนุนพรรคการเมือง เพื่อพัฒนาพรรคการเมือง จำนวนประมาณ 17.6 ล้านบาท โดยไม่มีการทำหลักฐานการเบิกจ่าย ทำให้ กกต. เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายพีระวิทย์ และเหรัญญิกพรรค ต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สภ.พระพุทธบาท โดยเลื่อนการเข้าให้ปากคำและแสดงหลักฐานการเบิกจ่ายเงิน และต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองได้หลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงออกหมายจับในข้อหา […]

“ธีรรัตน์” สั่งผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บาย 24 ชม. รับพายุคาจิกิ

กทม. 22 ส.ค.- “ธีรรัตน์” สั่งการผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บายรับมือผลกระทบ “พายุคาจิกิ” ตลอด 24 ชั่วโมง ย้ำ ประชาสัมพันธ์ข้อมูลให้ประชาชนรับรู้และเตรียมพร้อมอย่างต่อเนื่อง นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทยโดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ติดตามสภาวะอากาศร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับผลกระทบพายุโซนร้อน “คาจิกิ” ซึ่งพบว่าพื้นที่บางส่วนมีความเสี่ยงต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขังในเขตชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังซ้ำซาก ระหว่างวันที่ 24 – 28 สิงหาคม 2568 ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ 45 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร นางสาวธีรรัตน์ ได้สั่งการผู้ว่าราชการจังหวัด 45 จังหวัด และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต รวมถึงกรุงเทพมหานคร กำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด พร้อมกำชับให้จัดทีมปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัยเข้าประจำพื้นที่เสี่ยง เพื่อเข้าเผชิญเหตุและให้การช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงทีตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้บุคคลใดเข้าพื้นที่หากพบว่ามีความเสี่ยง ในส่วนพื้นที่ชายฝั่ง ให้สั่งห้ามนักท่องเที่ยวเล่นน้ำและห้ามเดินเรือทุกชนิดหากสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรง “ให้ผู้ว่าฯ […]

ข่าวแนะนำ

ทบ. ตรวจสอบสาเหตุพลทหารเสียชีวิตที่ปราสาทตาเมือนธม

24 ส.ค. – กองทัพบกได้รับรายงานการเสียชีวิตของกำลังพลบริเวณปราสาทตาเมือนธม ปัจจุบันอยู่ระหว่างการตรวจสอบสาเหตุ พร้อมให้การช่วยเหลือเยียวยาตามสิทธิอย่างครบถ้วน กองทัพบกขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวของ พลทหาร พิทยุตท์ โสดา กำลังพลสังกัด กองพันทหารราบที่ 21 หน่วยเฉพาะกิจที่ 2 ซึ่งเสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชา เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2568 เวลา 18.15 น. โดยพบร่างผู้เสียชีวิตภายในห้องสุขา บริเวณหน้าปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ พลทหารพิทยุตท์ โสดา อายุ 20 ปี เป็นทหารกองประจำการ รุ่นปี 1/67 จากการสมัครใจเข้ามารับราชการในโครงการพลทหารออนไลน์ ปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่ง พลปืนเล็ก หมู่ปืนเล็กที่ 2 หมวดปืนเล็กที่ 1 สังกัด กองร้อยทหารราบที่ 211 กองพันทหารราบที่ 21 หน่วยเฉพาะกิจที่ 2 จากการตรวจสอบเบื้องต้น ผู้เสียชีวิตไม่มีโรคประจำตัว ไม่มีประวัติเสพยาเสพติด ไม่มีภาวะความเครียด […]

แจงปมเลขบัตรประชาชน “หลวงพ่ออลงกต” ซ้ำคนตาย

กทม. 24 ส.ค.-กรมการปกครอง แจงปม “เลขประจำตัวประชาชน” หลวงพ่ออลงกต ซ้ำกับคนตาย ส่วนการเปิดพร้อมเพย์ เลขบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ตาย ซึ่งตรงกับบัญชีกองทุนอาทรประชานาถ เป็นการดำเนินการโดยธนาคารพาณิชย์ กรณีมีรายงานว่า หลวงพ่ออลงกต วัดพระบาทน้ำพุ ซึ่งมีชื่อเดิมว่า นายอลงกต พูลมุข มีชื่อซ้ำกับ นายอลงกต พลมุข ที่มีภูมิลำเนาที่ อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา และได้เสียชีวิตไปแล้วนั้น รวมทั้งวันเดือนเกิดยังตรงกัน ต่างกันเพียงปีเกิด ล่าสุดเฟซบุ๊ก กรมการปกครอง fanpage ได้โพสต์ข้อความถึงประเด็นดังกล่าว โดยระบุว่า “กรมการปกครอง ชี้แจงกรณีเลขบัตรประจำตัวประชาชนของหลวงพ่ออลงกต ตามที่ปรากฏข้อมูลจากสื่อมวลชนว่า ‘หลวงพ่ออลงกต มีเลขประจำตัวประชาชนตรงกับนายอลงกต พลมุข ซึ่งเป็นบุคคลที่เสียชีวิตแล้ว’ นั้น สำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง ได้ตรวจสอบฐานข้อมูลทะเบียนราษฎรของกรมการปกครอง พบว่า พระราชวิสุทธิประชานาถ หรือ หลวงพ่ออลงกต เลขประจำตัวประชาชน x-xxxx-xxx036-50-7 ชื่อจริง อลงกต พูลมุข นามสกุล พูลมุข มีสระอู เกิดปี […]

ผู้ว่าฯ สระแก้ว ขอโทษทำเข้าใจคลาดเคลื่อน ปมเอกสารสิทธิ์ที่ดินบ้านหนองจาน

สระแก้ว 24 ส.ค.-ผู้ว่าฯ สระแก้ว ขอโทษที่ทำให้เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อน กรณีเอกสารสิทธิ์ที่ดินบ้านหนองจาน ยืนยันพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในราชอาณาจักรไทย ให้ประชาชนผู้มีหลักฐานยื่นคำขอออกโฉนดที่ดินได้ วันที่ 23 ส.ค.68 เพจ สวท.สระแก้ว เผยแพร่สารจากผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ชี้แจงกรณีเอกสารสิทธิ์ชาวบ้านหนองจาน อ.โคกสูง ระบุว่า ผมกราบขอโทษพี่น้องประชาชนทุกท่าน ที่ทำให้เกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนกรณีพื้นที่บริเวณบ้านหนองจาน อำเภอโคกสูง ทั้งนี้ ผมขอยืนยันว่า พื้นที่บริเวณบ้านหนองจาน อำเภอโคกสูง อยู่ในราชอาณาจักรไทย ประชาชนผู้มีหลักฐานแบบแจ้งการครอบครองที่ดิน (ส.ค.1) ใบจอง (ส.ค.2) และหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3) บริเวณบ้านหนองจาน และบริเวณหลักเขตแดนที่ 45-49 สามารถยื่นคำขอออกโฉนดที่ดิน ต่อเจ้าหน้าที่ ณ สำนักงานที่ดินจังหวัดสระแก้ว สาขาอรัญประเทศได้ โดยเจ้าหน้าที่จะดำเนินการออกโฉนดที่ดินให้แก่ประชาชนที่มีสิทธิทุกราย ภายใต้อำนาจหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนด.-สำนักข่าวไทย

พายุ “คาจิกิ” แนวโน้มทวีกำลังแรงขึ้น เตือน 24-27 ส.ค. ฝนหนักหลายพื้นที่

กทม. 24 ส.ค.-กรมอุตุฯ ประกาศฉบับ 7 พายุ “คาจิกิ” มีแนวโน้มทวีกำลังแรงขึ้น เตือน 24-27 ส.ค.68 ไทยฝนเพิ่มมากขึ้น ตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่กับมีลมแรง บริเวณอีสานตอนบน ภาคเหนือ กลาง ตะวันออก และใต้ฝั่งตะวันตก รวมทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑล กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศฉบับที่ 7 เรื่อง พายุ “คาจิกิ” และฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทย เมื่อเวลา 04.00 น. ของวันนี้ (24 ส.ค. 68) พายุโซนร้อนกำลังแรง “คาจิกิ” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน มีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 570 กิโลเมตร ทางทิศตะวันออกของเมืองดองฮอย ประเทศเวียดนาม หรือที่ละติจูด 17.5 องศาเหนือ ลองจิจูด 112.0 องศาตะวันออก ความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 112 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกด้วยความเร็วประมาณ 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และมีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้น […]