เสวนา ผลักดันพืชกระท่อมไทยไปตลาดโลก

กรุงเทพฯ 20 ก.ย.- เสวนา “พืชกระท่อมไทยไปตลาดโลก” ผลักดันเป็นพืชเศรษฐกิจ บำบัดคนติดยา ป.ป.ส.ยันเอาจริงปราบน้ำท่อม 4×100 แต่กิน-ใช้-ปลูกเสรี เอกชนเผยตลาดอเมริกามีมูลค่าสูงถึงหมื่นล้าน ชี้พันธุ์ก้านแดงดี คนนิยมมาก


นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดเสวนาออนไลน์ “พืชกระท่อมไทยไปตลาดโลก” และบรรยายพิเศษ เรื่องความเป็นมาในการพัฒนาและผลักดันนโยบายพืชกระท่อมของประเทศไทย ตอนหนึ่งว่า เรามองเห็นพืชกระท่อมเป็นของดีมีประโยชน์กับประชาชนคนไทย ทั้ง ๆ ที่กระท่อมผิดกฎหมายมา 78 ปี การที่ตนได้รับฟังในฐานะ ส.ส.และรัฐมนตรีว่าการฯ จากผู้คน 135 หมู่บ้าน ที่ ป.ป.ส. ได้นำร่อง ตนมองไปถึงเรื่องของเศรษฐกิจ ประชาชนทุกภาคในประเทศไทยต้องทำมาหากินในเรื่องของการเกษตร ซึ่งทุกคนทำเหมือนกันหมด ทำให้ราคาตกต่ำ ตนมีหน้าที่ต้องทำให้พี่น้องมีรายได้ โดยเฉพาะวันนี้ที่เป็นหนี้กันดูจากกองทุนหมู่บ้าน ที่เป็นหนี้กันเกือบ 3 ล้านบาท เกือบทุกกองทุน พืชกระท่อมหากเราทำให้ดีจะเป็นพืชเศรษฐกิจ ซื้อขาย ปลูกได้ ประกอบกับ ป.ป.ส. มีหมู่บ้านที่อนุรักษ์พืชกระท่อม ตนจึงได้ปรึกษารัฐบาลและเห็นด้วย ใช้เวลา 1 ปีครึ่ง ที่ทำกฎหมายปลดล็อกได้สำเร็จ รวมทั้งกฎหมายรองที่ผ่านสภาผู้แทนราษฎรแล้ว อยู่ในช่วงพิจารณาของวุฒิสภา

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า วันนี้กระท่อมพัฒนาไประดับหนึ่ง ผู้คนสนใจอยากจะปลูก ถ้าจะเอาต้นเล็กๆไปปลูกจะโตช้า หากจะให้เร็วใช้ต้นตอของกระทุ่มแล้วเสียบยอดกระท่อม ซึ่งจะโตได้เร็วกว่า ส่วนประโยชน์จากทางด้านอุตสาหกรรมและการแพทย์ เมื่อเราเปิดให้ถูกกฎหมาย การทดลองวิจัยต่างๆ การพัฒนา มี ป.ป.ส. ที่ช่วยดูในช่วงแรก จากนั้นวันข้างหน้าจะมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมารับไม้ต่อ วันนี้ใบกระท่อมราคา 300-500 บาทต่อกิโลกรัม หากปลูกแบบพอเหมาะพอดีจะรักษาราคาไว้ได้และจะช่วยปลดหนี้ให้เกษตรกร นอกจากนี้ยังมีเรื่องการวิจัยของสารสกัดสำหรับนำมาบำบัดผู้ติดยาเสพติดด้วย โดยตนได้ให้กรมคุมประพฤติไปดำเนินการทดลองแล้ว


นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการป.ป.ส.บรรยายเรื่องกฎหมายกระท่อมหลังปลดล็อก ว่า ปลูกได้ทุกที่ ซื้อได้ทุกทาง กินได้ทุกคน ตอนนี้กระท่อมได้ปลดล็อกออกจากยาเสพติด ตั้งแต่ 24 ส.ค.64 ใครที่จะปลูก จะค้าขายใบหรือต้นพันธุ์ ไม่ผิดกฎหมาย แต่หากเอาไปทำเป็นอาหาร เครื่องสำอาง หรือน้ำต้มกระท่อม ไม่ได้ผิดกฎหมายยาเสพติด แต่ผิด พ.ร.บ.อาหาร ของกระทรวงสาธารณสุข การกินนั้นโดยเฉพาะเด็กและสตรีมีครรภ์ ต้องระวัง เพราะมีสารบางตัวที่จะส่งผลกระทบได้ สิ่งที่ ป.ป.ส. ต้องเฝ้าระวังคือ การนำพืชกระท่อมไปผสมกับยาเสพติดหรือทำเป็น 4×100 ที่เราจะเอาจริงเอาจัง ส่วนเรื่องของกฎหมายรอง หลักคือการห้ามเด็กและสตรีมีครรภ์นำไปใช้ และทำอย่างไรจะให้ประชาชนได้ประโยชน์ตรงนี้ให้มากที่สุด ไม่ให้ตกไปอยู่ในมือนายทุน รวมทั้งการควบคุมเรื่องการนำเข้า-ส่งออก เพื่อไม่ให้กระทบกับราคาภายในประเทศ เพราะหากนำเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้านมากเกินไปราคาจะตกต่ำ

ผศ.ดร.ศรีเมฆ ชาวโพงพาง ผู้เชี่ยวชาญเทคนิคอาวุโส ธนาคารทรัพยากรชีวภาพแห่งชาติ สวทช.บรรยายเรื่อง พฤกษศาสตร์ความหลากหลายทางพันธุกรรม สารชีวภาพในพืชกระท่อม ว่าตอนนี้ สวทช.กำลังศึกษาพันธุ์ต่างๆ ของพืชกระท่อม มีการออกสำรวจ เก็บลักษณะของต้น ช่วงออกดอกเป็นอย่างไร มีการเก็บ DNA เพื่อนำไปศึกษา นอกจากนี้ยังศึกษาเรื่องเก็บเมล็ดว่าจะเก็บแห้งได้นานเท่าไรและมีการ ศึกษาพันธุกรรมของแต่ละสายพันธุ์นำมาวิเคราะห์ หาสารสำคัญในใบกระท่อม ว่าจะสามารถนำไปใช้ประโยชน์อะไรได้บ้าง แต่ปัญหาที่เจอตอนนี้คือ สถานการณ์โควิด ที่ทำให้เราทำงานแล้วยาก แต่เมื่อสถานการณ์ดีขึ้นคงได้อะไรบ้าง

ผศ.นพ.วรวิทย์ วาณิชย์สุวรรณ ผอ.สถาบันวิจัยและนวัตกรรมทางการแพทย์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ กล่าวว่า การพัฒนาโรงงานต้นแบบในการผลิตสารสกัดมาตรฐานจากสมุนไพรเพื่อใช้ในทางการแพทย์และอาหาร ที่ได้มาตรฐาน GMP โดยเราหวังว่าจะสามารถส่งขายให้กับร้านยาและพัฒนาสู่การส่งออกไปยังต่างประเทศได้ ซึ่งเราได้มีการพัฒนาร่วมกับวิสาหกิจชุมชนด้วย และหวังว่าในอนาคตจะมีโรงงานขนาดใหญ่ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อการเพิ่มมูลค่าให้กับพืชกระท่อมได้ โดยกระท่อมมีฤทธิ์ในการรักษาโรคได้หลายอย่าง เช่น การลดระดับน้ำตาลในเลือด ระบบทางเดินอาหาร แก้ปวด เราต้องมีต้นน้ำ กลางน้ำและปลายน้ำที่ดี เพื่อพัฒนาต่อยอดให้เราสามารถส่งออกสู่ตลาดโลกได้


รศ.ดร.เอกสิทธิ์ กุมารสิทธิ์ ภาควิชาสรีรวิทยา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ กล่าวว่า เราได้มีการทดลองพืชกระท่อมใช้ในการบำบัดคนติดยา สรรพคุณต่อระบบประสาทและสมอง ผลการทดลองที่ออกมาจะเป็นจุด เริ่มต้นในการวิจัยเพื่อนำไปสู่ข้อเท็จจริง โดยขณะนี้มีการทดลองเรื่องการนำพืชกระท่อมไปบำบัดผู้ติดยาเสพติด และผู้ป่วยโรคพาร์กินสัน ซึ่งเราเชื่อว่าพืชกระท่อมมีศักยภาพพอในการนำมาบำบัดและรักษาโรคได้ และยังสามารถนำไปพัฒนาเป็นยาเพื่อสุขภาพในการควบคุมน้ำหนักได้อีกด้วย

นายจุลภาค เครือโสภณ ผู้ก่อตั้งบริษัท โกลเด้น ไตรแองเกิล เฮลท์ จำกัด บรรยายเรื่อง พืชกระท่อมไทยไปอเมริกาว่า มูลค่าการตลาดพืชกระท่อมในอเมริกามีมูลค่า 10,000 ล้านบาท โดยมี 2 ประเทศที่ส่งออกไปอเมริกาคือ มาเลเซียกับอินโดนีเซีย โดยประเทศไทยเองอเมริกาก็ให้การรับรองว่าเป็นสายพันธุ์ที่ดี แต่ติดเรื่องกฎหมายมานานหลายสิบปี ซึ่งส่วนใหญ่พื้นที่ปั๊มน้ำมันในอเมริกาจะเป็นพื้นที่ขายกระท่อมจำนวนมากให้กับบรรดาคนขับรถบรรทุก ซึ่งขณะนี้ความต้องการมีมากกว่าการผลิต

จากนั้นได้เปิดให้ผู้เข้าร่วมสัมมนาส่งคำถามเข้ามา โดยคำถามแรกถามว่า สายพันธุ์ที่ดีที่สุดที่จะปลูกแล้วบริษัทรับซื้อให้ราคาดีและมีตัวยาในใบปริมาณมาก นายจุลภาค ตอบว่า พันธุ์ก้านแดงเป็นที่นิยมมากที่สุดเพราะมีสารไมต้าเจดีนสูง ต้นพันธุ์ที่จะนำ มาปลูกควรใช้ ต้นที่มาจากการเพาะเมล็ดจะมีระบบรากแก้ว คำถามต่อมาคือ ควรเว้นระยะการปลูกเท่าไร นายสมศักดิ์ กล่าวว่า การปลูกควรเว้นระยะห่าง 8 เมตร เพราะเป็นพืชใช้ใบ ปลูก 1 ไร่ประมาณ 25 ต้น เมื่อถามว่าจะมีใครมารับซื้อใบ นายจุลภาค กล่าวว่า จะมีบริษัทรับซื้ออยู่หลายบริษัท เพื่อทำสินค้าขายในไทย รวมถึงการส่งออก .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

Chinese foreign ministry in January 2025

ถอดบทเรียนจากจีน แก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 จริงจัง

ปักกิ่ง 23 ม.ค. – สถานการณ์ฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่และเร่งด่วนในไทยอยู่ในขณะนี้ หลายฝ่ายกำลังหาทางแก้ไขด้วยการมุ่งไปที่ต้นตอที่ทำให้เกิดฝุ่น จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่า ในปี พ.ศ. 2542 ประชากรโลกมากถึง 92% ได้รับฝุ่น PM2.5 ในระดับความเข้มข้นสูงกว่าที่องค์การอนามัยโลกกำหนด และถ้ารัฐบาลทุกประเทศไม่เร่งแก้ปัญหาอย่างเอาจริงเอาจัง ภายในอีก 7 ปีข้างหน้า หรือ พ.ศ. 2573 คุณภาพชีวิตคนทั่วโลกจะยิ่งเลวร้ายสุดขีด เพราะปริมาณ PM2.5 จะเพิ่มขึ้นจากเดิม 50% และประเทศที่สามารถพิสูจน์ให้เห็นเป็นตัวอย่างว่า หากรัฐบาลตั้งใจจริงจัง ทุ่มสรรพกำลังความพยายาม จะสามารถกำจัดปัญหาฝุ่นควันพิษได้อย่างแน่นอนนั่นก็คือ จีน   จีนเคยมีคนเสียชีวิตเพราะมลพิษในอากาศปีละหลายล้านคน แต่ทุกวันนี้แม้แต่ธนาคารโลกยังยกย่องจีนว่า เป็นแบบอย่างของความพยายาม สามารถพลิกฟ้าหม่นเพราะฝุ่น PM2.5 ให้กลับเป็นฟ้าใสได้สำเร็จ ความพยายามของเหมา เจ๋อตุง ผู้นำจีนที่มุ่งเปลี่ยนสังคมเกษตรกรรมเป็นสังคมอุตสาหกรรม ทำให้จำนวนโรงงานในจีนเพิ่มขึ้นทวีคูณภายใน พ.ศ. 2502 แน่นอนว่า นโยบายเศรษฐกิจของผู้นำจีนช่วยให้คนจีนหลายล้านหลุดพ้นจากขีดความยากจน แต่ก็ต้องแลกกับชีวิตและสุขภาพ เพราะควันพิษจากโรงงานทำให้ฝุ่น PM2.5 พุ่งในระดับเกินกว่าจะรับไหว กว่ารัฐบาลจะรู้ตัวว่าปัญหามาถึงขั้นวิกฤต […]

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ผู้ป่วยเสียชีวิต

รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก-เสียชีวิต จากเหตุชายผิวสีคลุ้มคลั่ง

ผอ.รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก หรือเสียชีวิต จากเหตุต่างชาติผิวสีคลุ้มคลั่ง มีเพียงเจ้าหน้าที่ รพ.บาดเจ็บจากการถูกต่อยเล็กน้อย

ข่าวแนะนำ

เปิดรับการลงทุน

นายกฯ ย้ำบทบาทของไทยในเวทีโลก ที่ดาวอส พร้อมเปิดรับการลงทุน

นายกฯ ย้ำบทบาทของไทยในเวทีโลก ที่ดาวอส พร้อมเปิดรับการลงทุนสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ ด้วยจุดแข็งด้านเกษตรกรรม Soft Power และอุตสาหกรรมที่มีความยั่งยืน มุ่งมั่นพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลและการค้าเสรี เร่งสร้างสภาพแวดล้อมทางการค้าที่เสรี เปิดกว้าง และยั่งยืน

ช้างหลุดเดินถนน

ระทึก! ช้างหลุดจากปางช้างเดินบนถนน รถเสียหาย 1 คัน

ระทึก! ควาญช้างและตำรวจเร่งติดตามช้างหลุดจากปาง เดินบนถนน ชนกระจกมองข้างรถยนต์เสียหาย 1 คัน สุดท้ายไปเจอเล่นน้ำอยู่ในลำธารอย่างสบายใจ

ฝุ่น กทม.

แดงเกือบทั้งกรุง คุณภาพอากาศวิกฤติ ฝุ่น PM 2.5 กระทบต่อสุขภาพ

คุณภาพอากาศกรุงเทพฯ วิกฤติต่อเนื่อง เช้านี้ฝุ่น PM 2.5 อยู่ระดับสีแดง ผลกระทบต่อสุขภาพ 67 พื้นที่ คุณภาพอากาศจะแย่แบบนี้ไปถึงสัปดาห์หน้า

วันประวัติศาสตร์ สมรสเท่าเทียมวันแรก

วันนี้เป็นวันแรกที่กฎหมายสมรสเท่าเทียม มีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ ใน กทม. มีการจัดงานวันสมรสเท่าเทียมอย่างยิ่งใหญ่ เฉลิมฉลองให้กับเส้นทางการต่อสู้อันยาวนานกว่าที่กฎหมายจะมีผลบังคับใช้ ไม่ว่าเพศใดก็จะได้รับสิทธิการสมรสอย่างเท่าเทียมกัน