กรมการแพทย์เตือนโรคลมชักกับการขับขี่ เสี่ยงอุบัติเหตุ

สธ. 11 ก.ย.-กรมการแพทย์ โดยสถาบันประสาทวิทยา แนะผู้ป่วยโรคลมชักไม่ควรขับรถ เสี่ยงอุบัติเหตุร้ายแรงจากการขับรถต่อตัวเองและผู้อื่น

นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า โรคลมชัก เกิดจากความผิดปกติของการส่งสัญญาณไฟฟ้าในสมอง ซึ่งมีสาเหตุหลากหลาย พบได้ในทุกเพศทุกวัย ตั้งแต่แรกเกิด จนถึงวัยผู้สูงอายุ ในประเทศไทยมีผู้ป่วยโรคลมชักกว่า 5 แสนราย กระจายตัวกันอยู่ตามภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วประเทศ ขณะผู้ป่วยมีอาการของโรคลมชัก อาจจะมีอาการแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับชนิดของโรคลมชักและจุดกำเนิดในสมอง อาทิ เกร็งกระตุกทั้งตัว เหม่อนิ่งไม่รู้สึกตัว พฤติกรรมเปลี่ยนแปลงชั่วขณะ ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะสูญเสียความสามารถในการควบคุมตนเองขณะมีอาการ เป็นเหตุให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นได้ ทั้งต่อตนเอง ต่อทรัพย์สิน หรือบางครั้งอาจจะรุนแรงจนถึงขั้นทำให้เกิดการสูญเสียต่อชีวิตได้ ปัจจุบันเทคโนโลยีในการรักษาโรคลมชักพัฒนาก้าวไกลไปมาก สามารถตรวจหาสาเหตุเพื่อให้การรักษาตรงจุด มียากันชักหลากหลายชนิดที่ล้วนมีประสิทธิภาพในการควบคุมอาการ หรือในกรณีที่โรคมีการดื้อต่อยาการรักษาด้วยยากันชัก ก็สามารถให้การรักษาด้วยการตรวจประเมินหาจุดกำเนิดลมชักและผ่าตัดรักษาได้ ซึ่งจะช่วยทำให้คุณภาพชีวิตของผู้ป่วยดีขึ้นอย่างมาก


นายแพทย์ธนินทร์ เวชชาภินันท์ ผู้อำนวยการสถาบันประสาทวิทยา กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับผู้ป่วยที่ยังไม่สามารถควบคุมอาการชักได้ อาจจะมีข้อจำกัดในชีวิตอยู่บ้าง แต่ก็เป็นไปเพื่อความปลอดภัยทั้งต่อตัวผู้ป่วยเอง ต่อทรัพย์สิน และถือเป็นการรับผิดชอบต่อสังคมโดยรวมด้วย อุบัติเหตุขณะมีอาการชักเกิดขึ้นได้ตั้งแต่เรื่องใกล้ตัวเช่น หากมีอาการชักระหว่างกำลังประกอบอาหารอาจจะได้รับบาดเจ็บจากไฟไหม้ น้ำร้อนลวกได้ หรือหากมีอาการชักระหว่างประกอบอาชีพกับเครื่องจักรหรือของมีคม มีโอกาสได้รับบาดเจ็บจากเครื่องจักรและของมีคมได้ แต่อีกหนึ่งปัญหาที่เรายังพบเรื่อย ๆ คืออุบัติเหตุจราจร เนื่องจากผู้ป่วยโรคลมชักสามารถดำเนินชีวิตได้ตามปกติในช่วงที่ไม่มีอาการ ไปเรียนหนังสือ ไปทำงาน หรือทำกิจกรรมในชีวิตประจำวันตามปกติ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน กรมการแพทย์ โดยสถาบันประสาทวิทยาจึงได้ร่วมมือกับกรมการขนส่งทางบกและแพทยสภา ดำเนินการปรับปรุงข้อกำหนดในการออกใบรับรองแพทย์เพื่อใช้ในการขอมีใบอนุญาตขับขี่สำหรับผู้ป่วยโรคลมชักขึ้น โดยกำหนดให้ผู้ที่ต้องการขอมีใบอนุญาตขับขี่ครั้งแรก ต่ออายุ เปลี่ยนชนิด หรือประเภทของใบอนุญาต ต้องใช้ใบรับรองแพทย์ฉบับใหม่ที่แพทยสภากำหนด และสำหรับผู้ป่วยโรคลมชัก ต้องสามารถควบคุมอาการชักได้อย่างน้อย 1 ปี โดยเริ่มประกาศใช้อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2564 ที่ผ่านมา ทั้งนี้ต้องเรียนฝากทุกท่านว่า ผู้ป่วยโรคลมชักสามารถรักษาให้หายขาดและจะสามารถดำเนินชีวิตปกติหรือขับรถได้ เมื่อไม่มีอาการชักอย่างน้อย 1 ปี การบังคับใช้กฎหมายต้องดำเนินการเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อส่วนรวม และต้องไม่ลิดรอนสิทธิในการดำรงชีวิตของประชาชนอีกด้วย และอีกหนึ่งสิ่งจำเป็นที่ต้องเรียนให้ทราบทั่วกันคือ หากเราพบผู้ป่วยที่มีอาการชัก วิธีการช่วยเหลือที่ถูกต้องคือ ต้องไม่งัด ไม่ง้าง ไม่ถ่าง ไม่กด ไม่ทั้งหมด แค่ดูแลให้ชักอย่างปลอดภัย ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะหยุดชักได้เองในเวลาไม่เกิน 5 นาที หากมีอาการชักนานหรือได้รับบาดเจ็บระหว่างชัก จึงค่อยนำส่งโรงพยาบาลหรือโทร 1669 .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มุกใหม่มิจฉาชีพ

มุกใหม่มิจฉาชีพ! ป่วนโทรแจ้ง ตร. เกิดเหตุร้ายที่บ้านเหยื่อ

อินฟลูฯ สาว สายทำอาหาร ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นตำรวจโทรหา แต่เธอไม่เชื่อ โดนท้าอีก 10 นาทีเจอกัน ปรากฏว่า มีตำรวจจาก 2 โรงพักบุกมาที่บ้านจริง

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา บอกสนามใหญ่ ไม่เข้าไปก้าวก่ายสนามท้องถิ่น ซ้ายก็เพื่อน ขวาก็พวก

ครม.เคาะแจกเงินหมื่นเฟส 2 ผู้สูงอายุ 60 ปี

“จุลพันธ์” เผย ครม.เห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกลุ่มผู้สูงอายุ วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการทันก่อน 29 ม.ค.68 รวม 3 มาตรการ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ 1.4-1.5 แสนล้านบาท

ข่าวแนะนำ

มติกฤษฎีกา “กิตติรัตน์” คุณสมบัติไม่ผ่านนั่งประธานบอร์ด ธปท.

คณะกรรมการกฤษฎีกา 3 คณะ มีมติไม่ผ่านคุณสมบัติ “กิตติรัตน์ ณ ระนอง” เป็นประธานบอร์ดธนาคารแห่งประเทศไทย

เครื่องบินโดยสาร อาเซอร์ไบจาน แอร์ไลน์ ตกในคาซัคสถาน

เครื่องบินโดยสารเอ็มบราเออร์ ของสายการบินอาเซอร์ไบจาน แอร์ไลน์ ที่บินจากอาเซอร์ไบจาน ไปยังประเทศรัสเซีย เกิดอุบัติเหตุตกที่บริเวณใกล้กับเมืองอัคเทา ในคาซัคสถาน โดยมีผู้โดยสาร 62 คน และลูกเรือ 5 คน บนเครื่อง เจ้าหน้าที่คาซัคสถานกล่าวว่า มีผู้รอดชีวิต 28 ราย