เสนอ 3 มิติ แก้น้ำท่วมขังกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออก

กรุงเทพฯ 9 ก.ย.- นายกสภาวิศวกร ลงพื้นที่ตั้งข้อสังเกต เหตุน้ำท่วมขังกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออก พร้อมแนะหน่วยงานท้องถิ่นเร่งแก้ไขใน 3 มิติ “เคลียร์เส้นทางน้ำ-ใช้เอไอคุมประตูระบายน้ำ-จัดสรรพื้นที่แก้มลิงใต้ดิน”


ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ นายกสภาวิศวกร เปิดเผยว่า จากกรณีฝนตกหนักต่อเนื่อง จนเป็นเหตุให้กรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออก ครอบคลุมย่านชุมชน นิคมอุตสาหกรรม และสถานศึกษา เกิดน้ำท่วม ซึ่งโดยธรรมชาติน้ำจะไหลจากที่สูงไปยังพื้นที่ต่ำเสมอ ล่าสุดพื้นที่ลาดกระบังมีระดับน้ำท่วมสูงกว่าปกติ จึงตั้งข้อสังเกตได้ว่า เป็นเพราะน้ำไม่สามารถไหลออกสู่เส้นทางปกติได้ใน 2 เส้นทาง ประกอบด้วย (1) ไหลผ่านไปยังเขตพื้นที่สำโรง บางปู คลองด่าน จ.สมุทรปราการ (2) ไหลผ่านประตูระบายน้ำฝั่งพระโขนง เพื่อออกสู่แม่น้ำเจ้าพระยา/ทะเลได้ตามลำดับ

นอกจากนี้ ยังพบว่า การควบคุมระบบเปิด-ปิดประตูระบายน้ำ ยังไม่สอดคล้องกับปริมาณน้ำที่เกิดขึ้น จึงทำให้น้ำท่วมสูงกีดขวางเส้นทางจราจร กระทบต่อการใช้ชีวิตของคนในชุมชนยาวนานนับสัปดาห์ ดังนั้น เพื่อให้ประชาชนย่านลาดกระบัง สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติโดยเร็วที่สุดในสถานการณ์เช่นนี้ สภาวิศวกร จึงมีข้อเสนอแนะถึงหน่วยงานท้องถิ่นที่เกี่ยวข้อง เร่งดำเนินการวางแผนการจัดสรรน้ำเมื่อเกิดภาวะวิกฤติใน 3 มิติ ดังนี้


(1) ผลักดันทางไหลของน้ำ ด้วยการระดมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และทีมจิตอาสา ลงพื้นที่สำรวจคลองสาขา และคลองหลัก ให้ปราศจากวัชพืชหรือขยะ เพื่อให้สามารถรองรับน้ำจากทั้งในพื้นที่โดยรอบ น้ำฝน ตลอดจนเพิ่มอัตราการไหลของน้ำกรณีฝนตกหนักต่อเนื่องได้อย่างมีประสิทธิภาพ
(2) ใช้เอไอเปิด-ปิดประตูน้ำอัตโนมัติ เพื่อประเมินสถานการณ์/ปริมาณน้ำทั้งต้นทางและปลายทาง ก่อนสั่งการเปิด-ปิดประตูระบายน้ำอัตโนมัติได้อย่างแม่นยำ และสอดคล้องกับความสามารถในการรองรับน้ำพื้นที่ปลายทาง เพื่อลดการเกิดความผิดพลาดที่เกิดจากคน (Human Error)
(3) จัดสรรพื้นที่ “แก้มลิงใต้ดิน” หรือสวนสาธารณะในชุมชน เพื่อเป็นพื้นที่รองรับน้ำกรณีฝนตกหนัก/รอการระบาย และในขณะเดียวกันยังสามารถเป็นพื้นที่สันทนาการสำหรับออกกำลังกายหรือพักผ่อนหย่อนใจของคนในชุมชนได้ในอนาคต

นอกจากนี้ ในภาคประชาชนที่มีความจำเป็นต้องสัญจรหรือขับขี่ยานพาหนะในเส้นทางที่มีน้ำท่วมขังสูง แนะระมัดระวังการขับขี่ใน 2 รูปแบบ คือ (1) ขับเลนขวา เนื่องจากเลนซ้ายจะเป็นพื้นที่แอ่ง/ถูกออกแบบให้เป็นช่องทางระบายน้ำ จึงมีระดับน้ำท่วมขังที่สูงกว่าเลนขวา (2) ขับให้ช้าลง เพื่อป้องกันการเกิดคลื่นน้ำกระเซ็น หรือกระทบกับห้องเครื่องภายในรถยนต์ โดยเฉพาะหากเป็นเครื่องยนต์เก่าจะมีความเสี่ยงสูงที่เครื่องยนต์จะดับทันที.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

Chinese foreign ministry in January 2025

ถอดบทเรียนจากจีน แก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 จริงจัง

ปักกิ่ง 23 ม.ค. – สถานการณ์ฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่และเร่งด่วนในไทยอยู่ในขณะนี้ หลายฝ่ายกำลังหาทางแก้ไขด้วยการมุ่งไปที่ต้นตอที่ทำให้เกิดฝุ่น จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่า ในปี พ.ศ. 2542 ประชากรโลกมากถึง 92% ได้รับฝุ่น PM2.5 ในระดับความเข้มข้นสูงกว่าที่องค์การอนามัยโลกกำหนด และถ้ารัฐบาลทุกประเทศไม่เร่งแก้ปัญหาอย่างเอาจริงเอาจัง ภายในอีก 7 ปีข้างหน้า หรือ พ.ศ. 2573 คุณภาพชีวิตคนทั่วโลกจะยิ่งเลวร้ายสุดขีด เพราะปริมาณ PM2.5 จะเพิ่มขึ้นจากเดิม 50% และประเทศที่สามารถพิสูจน์ให้เห็นเป็นตัวอย่างว่า หากรัฐบาลตั้งใจจริงจัง ทุ่มสรรพกำลังความพยายาม จะสามารถกำจัดปัญหาฝุ่นควันพิษได้อย่างแน่นอนนั่นก็คือ จีน   จีนเคยมีคนเสียชีวิตเพราะมลพิษในอากาศปีละหลายล้านคน แต่ทุกวันนี้แม้แต่ธนาคารโลกยังยกย่องจีนว่า เป็นแบบอย่างของความพยายาม สามารถพลิกฟ้าหม่นเพราะฝุ่น PM2.5 ให้กลับเป็นฟ้าใสได้สำเร็จ ความพยายามของเหมา เจ๋อตุง ผู้นำจีนที่มุ่งเปลี่ยนสังคมเกษตรกรรมเป็นสังคมอุตสาหกรรม ทำให้จำนวนโรงงานในจีนเพิ่มขึ้นทวีคูณภายใน พ.ศ. 2502 แน่นอนว่า นโยบายเศรษฐกิจของผู้นำจีนช่วยให้คนจีนหลายล้านหลุดพ้นจากขีดความยากจน แต่ก็ต้องแลกกับชีวิตและสุขภาพ เพราะควันพิษจากโรงงานทำให้ฝุ่น PM2.5 พุ่งในระดับเกินกว่าจะรับไหว กว่ารัฐบาลจะรู้ตัวว่าปัญหามาถึงขั้นวิกฤต […]

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ผู้ป่วยเสียชีวิต

รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก-เสียชีวิต จากเหตุชายผิวสีคลุ้มคลั่ง

ผอ.รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก หรือเสียชีวิต จากเหตุต่างชาติผิวสีคลุ้มคลั่ง มีเพียงเจ้าหน้าที่ รพ.บาดเจ็บจากการถูกต่อยเล็กน้อย

ข่าวแนะนำ

ตร.ทางหลวงไล่ล่ากระบะขนแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าไทย

ระทึก! ตำรวจทางหลวงขับรถไล่ล่ากระบะขนแรงงานต่างด้าว 2 คัน สุดท้ายไม่รอด จนมุมบริเวณ ต.หาดท่าเสา อ.เมือง จ.ชัยนาท ตรวจสอบพบแรงงานต่างด้าวจำนวนมาก จึงนำตัวทั้งหมด พร้อมกับคนขับรถทั้ง 2 คัน ส่งดำเนินคดีที่ สภ.เมืองชัยนาท

คุมพ่อชาวรัสเซียฝากขัง จับลูกชายวัย 13 โยนลงทะเลเสียชีวิต

ตำรวจคุมตัว “หนุ่มรัสเซีย” ฝากขัง หลังก่อเหตุโยนลูกวัย 13 ปี ออกจากเรือ บริเวณหมู่เกาะสุรินทร์ จ.พังงา จนถูกใบพัดเรือบาดเจ็บสาหัส ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา อ้างเสียความทรงจำ ไม่รู้ทำอะไรลงไป

ดีเอสไอจ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ สืบคดี “แตงโม”

ดีเอสไอ นำผู้เชี่ยวชาญหลายด้านเปิดประชุมนัดแรก ลุยสืบสวน “คดีแตงโม” จ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ หาพยานหลักฐานใหม่ และบินเก็บข้อมูลระบบ Cloud ในมือถือทุกคนบนเรือ-นอกเรือ

แก้ปัญหาฝุ่น

นายกฯ สั่งการด่วนคมนาคมออกมาตรการหยุด PM 2.5

นายกฯ สั่งการคมนาคมออกมาตรการเร่งด่วน หยุด PM 2.5 ให้ประชาชนนั่งรถไฟฟ้าทุกสาย-ขสมก.ฟรี 7 วัน 25-31 ม.ค.นี้ เตรียมใช้งบกลางกว่า 140 ล้านบาท ชดเชยผู้ประกอบการ เข้มตั้งจุดตรวจควันดำ 8 จุด รอบ กทม.-ปริมณฑล