สธ. 6 ก.ย.-อธิบดีกรมการแพทย์ แจงเตรียมทยอยปิดศูนย์ดูแลผู้ป่วยโควิดใน กทม. ทั้งนิมิบุตร บุษราคัม และฮอสพิเทล ในสังกัดกรมการแพทย์ หลังแนวโน้มสถานการณ์โควิด กทม.ดีขึ้น โดยผู้ป่วยสีเขียวยังใช้ระบบ HI และ CI ส่วนสีเหลือง-สีแดง มีสถานพยาบาลดูแล ขณะที่ความคืบหน้าการจัดหายารักษาโควิด ทดแทน “ฟาวิพิราเวียร์” นั้น แจงผลการศึกษาไอเวอร์เมกติน ยาถ่ายพยาธิสัตว์ไม่ได้ผล รอลุ้น “โมลนูพิราเวียร์” ที่มีกลไกยับยั้งไวรัสในระบบเซลล์จากยาฟาวิฯ หากทดลองระยะ 3 ได้ผล ผ่าน FDA USA ก็เตรียมมาขึ้นทะเบียนในไทย พ.ย.นี้
นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า หลังจากสถานการณ์โควิด-19 เริ่มมีแนวโน้มที่ดีขึ้น ผู้ป่วยลดลงในพื้นที่ กทม. และปริมณฑล จึงเตรียมปิดการให้บริการในศูนย์แรกรับนิมิบุตร วันที่ 30 ก.ย.นี้ จากนั้นจะไปเปิดศูนย์แรกรับที่ รพ.เลิดสิน เพื่อเป็นศูนย์แรกรับและส่งต่อ พร้อมรับผู้ป่วยสีเหลืองและสีแดง โดยที่ศูนย์แรกรับนิมิบุตร เคยรับผู้ป่วยมากสุดถึง 350 เตียง เช่นเดียวกันใน รพ.บุษราคัม ก็เตรียมพิจารณาประเมินผลการให้บริการรับผู้ป่วยในเดือน ต.ค. เนื่องจากขณะนี้จำนวนการครองเตียงเหลือเพียง 824 เตียง มีเตียงว่าง 1,376 เตียง จากจำนวนเตียงทั้งหมด 2,200 เตียง
ส่วนที่ฮอสพิเทลในสังกัดกรมการแพทย์ ก็เตรียมปิดให้บริการ 4 แห่ง เหลือคงไว้ 2 แห่ง เพื่อใช้ในการดูแลผู้ป่วย สำหรับสถานที่ดูแลผู้ป่วยในจุดอื่นๆ คาดว่าหน่วยงานที่รับผิดชอบอื่น เช่น สังกัด กทม. ก็อาจมีการพิจารณาเช่นกัน แต่ทั้งนี้ต้องดูจำนวนผู้ป่วย เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ โดยยังคงเหลือระบบการรักษาแบบ HI และ CI เพื่อดูแลผู้ป่วยสีเขียว ส่วนสีเหลืองและสีแดง ก็มีสถานพยาบาลดูแล
นพ.สมศักดิ์ กล่าวว่า ส่วนความคืบหน้าในการจัดหายารักษาโควิด-19 จากการศึกษาวิจัยการใช้ไอเวอร์เมกติน (ยาถ่ายพยาธิในสัตว์) ในต่างประเทศ พบว่าไม่ได้ผล และไม่ได้มีคำแนะนำให้ใช้ ส่วนการศึกษาใน รพ.ศิริราช ก็ยังไม่สิ้นสุด แต่ในส่วนยา Molnupiravir (โมลนูพิราเวียร์) ยังอยู่ในระหว่างการศึกษาทดลองระยะ 3 และขึ้นของ FDA USA หากสำเร็จ ก็คาดว่าจะมีการขึ้นทะเบียนในเดือน ต.ค.นี้ และหากสำเร็จก็จะมีการขึ้นทะเบียนในไทยได้ราวเดือน พ.ย. โดยยาโมลนูพิราเวียร์ เป็นยาตระกูลเดียวกับฟาวิพิราเวียร์ ช่วยยับยั้งการแบ่งตัวของไวรัสในชั้นเซลล์ เหมาะกับการใช้รักษาในผู้ป่วยที่ไม่มีอาการรุนแรง หากการทดลองยานี้สำเร็จก็จะนำมาทดแทนยาฟาวิพิราเวียร์ สำหรับขนาดการใช้อยู่ที่ 40 เม็ด รับประทานต่อเนื่อง 5 วัน จากเดิมยาฟาวิพิราเวียร์ใช้ 50 เม็ด รับประทานต่อเนื่อง 5 วัน ส่วนยาโปรตีเอส ซึ่งเป็นยาของบริษัท ไฟเซอร์ ยังอยู่ระหว่างการศึกษาวิจัย.-สำนักข่าวไทย