พม. เร่งช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาจากโควิด-19 ตามภูมิลำเนา ทั่วประเทศ

กรุงเทพฯ 3 ก.ย.- พม. เร่งช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาจากสถานการณ์โควิด-19 ทั้งในด้านเงินสงเคราะห์ ถุงยังชีพในการดำรงชีวิต รวมทั้งเชื่อมประสานในการเสริมทักษะอาชีพ สร้างรายได้ ต่อยอด หลังเดินทางกลับตั้งหลักภูมิลำเนาของตนเองทั่วประเทศ


นางพัชรี อาระยะกุล ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เผยว่าจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ที่ส่งผลให้ประชาชนหลายคนตกงาน ไม่มีรายได้ และหลายคนเดินทางกลับไปตั้งหลักที่ภูมิลำเนาของตนเอง กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

ในฐานะเป็นหน่วยงานภาครัฐที่ได้รับมอบหมายจากรัฐบาล ให้ช่วยดำเนินการให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าว ได้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการบริหารภาวะวิกฤติโควิด-19 กระทรวง พม. เพื่อเป็นศูนย์กลางด้านข้อมูลและการช่วยเหลือกลุ่มเปราะบาง ทั้งเด็ก ผู้สูงอายุ คนพิการ คนเร่ร่อน ไร้บ้าน และผู้ด้อยโอกาส รวมทั้งผู้ป่วยติดเตียง ที่ประสบปัญหาความเดือดร้อนและความยากลำบากจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 พร้อมทั้งการสื่อสารสังคม การรายงาน และติดตามผลการช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางจนสิ้นสุดกระบวนการ โดยทำงานเชื่อมโยงกับศูนย์ช่วยเหลือสังคม สายด่วน พม. โทร 1300 ตลอด 24 ชั่วโมง อีกทั้งได้มีการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการบริหารภาวะวิกฤติโควิด-19 ระดับจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อประสานการช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในระดับพื้นที่อย่างครอบคลุม  


นางพัชรี กล่าวเพิ่มเติมว่าในช่วงที่ผ่านมา กระทรวง พม. ได้มอบหมายให้บุคลากรจากหน่วยงานต่างๆ ในสังกัด ซึ่งมีอยู่ทุกจังหวัดทั่วประเทศ เร่งลงพื้นที่สำรวจเพื่อเข้าไปให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้น ทั้งในด้านเงินสงเคราะห์ ถุงยังชีพในการดำรงชีวิต  รวมทั้ง เชื่อมประสานในการเสริมทักษะอาชีพ สร้างรายได้ ต่อยอด รวมทั้งเปิดโอกาสให้ประชาชนที่ไม่มีที่ดินทำกิน ได้ใช้พื้นที่นิคมสร้างตนเองในการประกอบอาชีพ สร้างรายได้ เพื่อให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา หรือ โควิด-19 ส่งผลต่อประชาชนหลายคนตกงานไม่มีรายได้ และหลายๆ คน เดินทางกลับไปตั้งหลักภูมิลำเนา สามารถดำรงชีพอยู่ได้ อยู่รอด อยู่เป็น และอยู่ยืนในบ้านเกิดของตนเองต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกเอกราช

ศาลสั่งจำคุก 5 ปี 93 เดือน “เอกราช” สส.ภูมิใจไทย

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก 5 ปี 93 เดือน นายเอกราช ช่างเหลา สส.ขอนแก่น เขต 4 พรรคภูมิใจไทย พร้อมสั่งชดใช้เงินกว่า 405 ล้านบาท คดียักยอกเงินสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น 1,275 ล้านบาท

ลูกนายกเบี้ยว

“อนุทิน” ลั่นต้องดำเนินคดี “ลูกชายนายกเบี้ยว”

“อนุทิน” ลั่นไม่มีใครใหญ่กว่าผม ต้องดำเนินคดี “ลูกชายนายกเบี้ยว” ฮึ่มเป็นลูกใครทำผิดกฎหมายก็โดน ถามใหญ่กว่าผมไหม ถ้าไม่ใช่ก็โดนหมด

สลด แม่คลอดลูกเสร็จ ไปเล่นสงกรานต์ต่อ ปล่อยเด็กตาย

สลด สาววัย 27 ปี คลอดลูกทิ้งไว้ข้างกระถางต้นไม้ แล้วไปเล่นน้ำสงกรานต์ต่อ นานกว่า 1 ชม. มีคนแจ้งกู้ภัย พยายามปั๊มหัวใจ แต่ช่วยเด็กไม่ทัน

ผู้ป่วยแจ้งกู้ภัยเข้ามาช่วย แต่บอกบ้านเลขที่ผิด สุดท้ายเสียชีวิต

สลด หญิงวัย 54 ปี หายใจไม่ออกโทรแจ้งกู้ภัยให้เข้ามาช่วยพาส่งโรงพยาบาล แต่ปรากฏว่าแจ้งบ้านเลขที่ผิด เจ้าหน้าที่หลงทาง สุดท้ายไปไม่ทัน เสียชีวิตอยู่ข้างแม่ที่เป็นผู้ป่วยติดเตียง พบทั้งบ้านมีกองขยะสูงเท่าหลังคา

ข่าวแนะนำ

“นายกเบี้ยว” พาลูกเข้ารับทราบข้อกล่าวหา-ตร.ยัน “พีช” เจตนาทำผิดอาญา

กรณี “พีช” ลูกนายกเบี้ยว ขับรถหรูปาดหน้าชนกระบะลุงป้า ตำรวจ สภ.ลำลูกกา ยืนยันพฤติการณ์ไม่ใช่แค่ขับรถประมาท แต่เจตนาทำผิดคดีอาญา และโดนแจ้งข้อหาขับรถไม่มีใบอนุญาต เนื่องจากใบขับขี่หมดอายุตั้งแต่ปี 64 ขณะที่ล่าสุด “นายกเบี้ยว” พาลูกชายเข้ารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว

“ชัชชาติ” รับหลักฐานบางส่วนเสียหาย อาจตรวจสอบคุณภาพยาก

“ชัชชาติ” นำทีม กทม. พบ นายกฯ รายงานคืบหน้ากู้ซากอาคาร สตง. ถล่ม ย้ำ รัฐ-เอกชน ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ไม่ขาดเหลือด้านใด เผย นายกฯ ติดตามเรื่องนี้ต่อเนื่อง พร้อมให้ความร่วมมือตำรวจเก็บหลักฐาน แนะ ไปหน้างานประสานเจ้าหน้าที่เก็บหลักฐานได้เลย ยอมรับ หลักฐานบางส่วนพังเสียหาย อาจตรวจสอบคุณภาพยาก

ปิดเขาล้อมจับมือปืนลำดับ 93 หนีคดี 10 ปี

ปฏิบัติการบุกขึ้นเขาปิดล้อม จับกุมมือปืนคนสำคัญ ลำดับ 93 ค่าหัว 1 แสนบาท ก่อเหตุอุกอาจหนีคดีมา 10 ปี แต่สุดท้ายไม่รอดมือตำรวจ