กทม.2 ก.ย.-กทม.เตรียมปิดศูนย์ฉีดวัคซีน 25 แห่งชั่วคราว เป็นเวลา 1 เดือน หลังฉีดวัคซีนให้ผู้ลงทะเบียนล็อตแรกครบ 2 เข็มแล้ว ย้ำไม่กระทบกับผู้ฉีดวัคซีนเข็ม 2 ที่จะครบกำหนดต้นเดือน ต.ค.นี้ อย่างแน่นอน
พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯกทม.) พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงผลการดำเนินงานการฉีดวัคซีนในโครงการไทยร่วมใจ ที่มีการกระจายศูนย์ฉีดเอกชน 25 ศูนย์ไปยังพื้นที่ต่างๆ ทั่ว กทม.ในช่วงเกือบ 4 เดือนที่ผ่านมา ว่า ข้อมูล ณ วันที่ 1 กันยายน มีผู้ได้รับการฉีดวัคซีนผ่านโครงการนี้ไปแล้วทั้งสิ้น 1,467,876 คน หรือ 71% ของการลงทะเบียนจองฉีดวัคซีนสะสมผ่านโครงการไทยร่วมใจ 2,063,923 คน โดยแบ่งเป็นเข็มที่1 จำนวน 1,369,254 คน เข็มที่2 จำนวน 98,546 คน
ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวต่อไปว่า ในวันที่ 4 ก.ย.นี้ หน่วยบริการฉีดวัคซีนโควิด-19 กรุงเทพมหานคร-หอการค้าไทย ทั้ง 25 แห่งจะปิดให้บริการฉีดวัคซีนชั่วคราวพร้อมกันเป็นเวลา 1 เดือน ไม่ใช่ว่าวัคซีนหมด แต่เพราะคนที่รับวัคซีนเข็ม 2 ช่วงระหว่างวันที่ 7-25 มิ.ย.ที่ผ่านมา ได้รับวัคซีนครบ 2 เข็มแล้ว ก่อนหน้านี้ศูนย์ฉีดทั้ง 25 แห่ง ต้องหยุดบริการชั่วคราว เนื่องจากต้องรอการจัดสรรวัคซีน และกลับมาเปิดให้บริการฉีดวัคซีนเข็มที่1 อีกครั้ง ในวันที่ 22 ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งจะครบกำหนดฉีดวัคซีนเข็ม2 ประมาณต้นเดือนตุลาคมนี้
“การปิดหน่วยบริการครั้งนี้ จึงไม่กระทบกับผู้ได้รับการฉีดวัคซีนเข็ม2 แต่อย่างใด พร้อมกันนี้หลังมีการปิดหน่วยบริการฉีดวัคซีนจะทำการสำรวจอีกครั้งว่ามีวัคซีนเหลืออีกจำนวนเท่าไหร่ เนื่องจากมีบางคนไม่ได้มาตามนัดหมาย พร้อมกับสำรวจว่าเหลือกลุ่มเป้าหมายที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนเข็ม1 อีกเท่าไหร่ ก่อนจะเปิดให้ลงทะเบียนผ่านโครงการไทยร่วมใจ แต่หากวัคซีนไม่เพียงพอ ก็จะขอจัดสรรเพิ่มเติมจากกระทรวงสาธารณสุข เพื่อเก็บตกในกลุ่มนี้” ผู้ว่าฯกทม. กล่าว
ด้าน นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ภาคเอกชน โรงพยาบาลทั้งรัฐและเอกชน รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ใน 25 ศูนย์ฉีดวัคซีน ซึ่งดำเนินการด้วยตัวเองโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย พร้อมเดินหน้าฉีดวัคซีนให้กับประชาชนอย่างต่อเนื่อง
ขณะเดียวกันภาคเอกชนยังเห็นด้วยกับการที่รัฐบาลผ่อนคลายมาตรการ เชื่อว่าจะช่วยให้การขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้ดีขึ้น โดยเฉพาะในช่วงปลายปีนี้ เมื่อมีการเปิดเมืองมากขึ้น ให้ประชาชนสามารถเดินทางข้ามจังหวัดได้ก็จะช่วยให้เกิดการจับจ่ายใช้สอย อีกทั้งถ้าเร่งฉีดวัคซีนให้ได้มากๆ ด้วย ก็จะยิ่งช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ให้กลับมาฟื้นตัวได้เร็วขึ้น .-สำนักข่าวไทย