สำนักข่าวไทย 1 ก.ย.-กรมอนามัย แจงมาตรการผ่อนคลายนั่งรับประทานอาหารในร้านได้ ห้ามกินบุฟเฟต์ ห้ามดื่มสุราเด็ดขาด โดยระหว่างเดือน ก.ย. เป็นการเตรียมความพร้อมซักซ้อมแนวทาง เคร่งระยะห่าง ห้ามนั่งเผชิญหน้า พื้นที่สีแดงเข้ม ปิด 2 ทุ่ม ร้านติดแอร์นั่งทานได้แค่ 50% ไม่ติดนั่งทานได้ 75% ส่วน พนง.ร้าน หรือผู้ค้า ไม่ได้บังคับต้องรับวัคซีนเคร่งครัดครบโดส แต่เดือน 1 ต.ค. ต้องพร้อมครบทุกมาตรการ
นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า วันนี้ (1 ก.ย.) เป็นวันที่เริ่มต้นของการผ่อนปรนกิจกรรมและกิจการบางอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการรับประทานอาหารภายในร้าน ในพื้นที่ที่กำหนดไว้เหมือนเดิม ทั้งพื้นที่สีแดงเข้ม พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 29 จังหวัด, พื้นที่สีแดง พื้นที่ควบคุมสูงสุด 37 จังหวัด และพื้นที่สีส้ม พื้นที่ควบคุม 11 จังหวัด โดยทั้ง 3 กลุ่มสีนี้ ห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ภายในร้านอาหาร และห้ามรับประทานบุฟเฟต์
ส่วนระยะเวลาการปิดทำการนั้น ในส่วนพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ปิดทำการไม่เกิน 20.00 น. การรับประทานอาหารภายในร้าน สามารถนั่งรับประทานได้ตามปกติแบบมีระยะห่าง ร้านที่มีเครื่องปรับอากาศ นั่งได้ไม่เกิน 50% ของความจุพื้นที่ของร้าน และพื้นที่ที่ไม่มีเครื่องปรับอากาศ 75% ของความจุของร้าน
ส่วนพื้นที่ควบคุมสูงสุด ปิดทำการได้ไม่เกินเวลา 23.00 น. นั่งรับประทานอาการได้ตามปกติแบบมีระยะห่าง ไม่เกิน 50 คน
ส่วนพื้นที่ควบคุม เปิดทำการได้ตามปกติ แต่นั่งรับประทานอาหารได้ไม่เกิน 100 คน เนื่องจากการรับประทานอาหาร ถือเป็นการรวมกลุ่มคน จึงต้องปฏิบัติตัวให้ถูกต้อง ส่วนพื้นที่อื่นๆ แนวปฏิบัติยังเหมือนเดิม
นพ.สุวรรณชัย กล่าวย้ำว่า ทุกคนต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันตนเองจากการติดเชื้อแบบครอบจักรวาล ทั้งสวมหน้ากากอนามัย มีระยะห่าง ล้างมือ ทำอย่างเคร่งครัด สำหรับการบังคับข้อกำหนดต่างๆ จะมีการประเมินผล 1 เดือน และเริ่มบังคับมาตรการต่างๆ 1 ตุลาคม 2564 ในส่วนของโควิด ฟรีเซตติ้ง (covid free setting) จะบังคับใช้กับร้านอาหารที่อยู่ในห้างสรรพสินค้า หรือมีเครื่องปรับอากาศ ปฏิบัติอย่างเคร่งครัด เน้นเรื่องทำความสะอาด ปลอดภัย มีระยะห่าง ไม่แออัด มีระบบระบายอากาศที่ดี มีการประเมินการจัดการสภาพแวดล้อมที่ดี ผ่านการประเมินจากแอปฯ Thai Stop COVID และยังครอบคลุมไปถึงผู้ให้บริการและผู้รับบริการอีกด้วย ทั้งการรับวัคซีนครบโดส หรือเคยมีประวัติติดเชื้อมา 1-3 เดือน และทำการคัดกรองความเสี่ยง ผ่าน ATK หรือ RT-PCR และต้องผ่านการประเมินผ่านแอปฯ Thai Save Thai
นพ.สุวรรณชัย กล่าวว่า มาตรการ covid free setting ในร้านอาหาร ต้องจัดให้มีการทำความสะอาด ก่อนและหลังบริการ ต้องทำความสะอาดจุดสัมผัสร่วม จัดบริการเจลแอลกอฮอล์ประจำโต๊ะและจุดทางเข้า ห้องน้ำ ความห่างของโต๊ะอาหาร 1-2 เมตร ไม่เช่นนั้นต้องทำฉากกั้น และไม่ขัดขวางการระบายอากาศ ในพื้นที่ที่มีเครื่องปรับอากาศ ต้องห่าง 2 เมตร เน้นการไม่นั่งแบบเผชิญหน้ากัน และจำกัดเวลารับประทานอาหารไม่เกิน 1 ชม. ไม่เน้นรับประทานอาหารเพื่อการสังสรรค์ เพื่อไม่ให้แออัด และกำหนดให้มีมาตรการระบายอากาศก่อนและหลังการปิดทำการไม่เกินครึ่ง ชม. หรือ 30 นาที เพื่อให้อากาศได้ระบายถ่ายเท พร้อมระบุด้วยว่า ให้มีการปรับและพิจารณาอย่างเหมาะสม ในร้านที่มีเครื่องปรับอากาศให้เปิดระบายอากาศทุกๆ 1 ชั่วโมง ส่วนพนักงานให้บริการ กำหนดให้ดำเนินการเพิ่ม คือ ต้องมีการคัดกรองความเสี่ยงทุกวัน ผ่านไทยเซฟไทย และยกระดับการป้องกันตนเองแบบครอบจักรวาล มีการกำกับติดตามพนักงานทุกคน ห้ามรับประทานอาหารร่วมกัน
นพ.สุวรรณชัย กล่าวว่า ส่วนผู้รับบริการต้องมีเอกสารรับรอง หรือ covid free pass ว่าผ่านการรับวัคซีนแล้วครบโดส หรือมีประวัติการติดเชื้อ 1-3 เดือน หรือมีการตรวจเชื้อด้วย ATK ให้ผลเป็นลบ โดยทั้งหมดจะมีการบังคับใช้ภายใน 1 ต.ค.64 แต่ในระหว่างเดือน ก.ย. สามารถเปิดทำการได้ปกติ แต่มาตรการระยะห่างต้องเคร่งครัด ภายใต้ความรับผิดชอบของผู้ประกอบการ และผู้รับประทานอาหารก็ต้องให้ความร่วมมืออย่างเคร่งครัด และเป็นในส่วนการเตรียมความพร้อมก่อน ยังไม่ได้บังคับผู้รับบริการและผู้ให้บริการต้องรับวัคซีนครบโดส.-สำนักข่าวไทย