สธ.ออกประกาศเว้นสถานที่พักผู้ป่วยโควิดที่รัฐกำหนดฯ

สธ.30 ส.ค.-สธ.ประกาศยกเว้นบ้านพัก โรงแรม โรงเรียน วัดหรือสถานที่อื่นใดที่ภาครัฐกำหนดให้เป็นที่พักของผู้ป่วยโรคโควิด-19 ระหว่างรอการรักษา หรือจำหน่ายจากสถานพยาบาลเพื่อรักษาต่อเนื่อง ณ ที่พำนักของผู้ป่วย ไม่ต้องอยู่ในบังคับของกฎหมายสถานพยาบาล เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ป่วยโรคโควิด และเพิ่มความรวดเร็วในการจัดตั้งสถานพยาบาลเป็นกรณีเฉพาะ

นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) กระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า เพื่อให้การช่วยเหลือเยียวยาผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 มีความเหมาะสม ประชาชนทุกคนสามารถเข้าถึงระบบการดูแล รักษาพยาบาลอย่างรวดเร็ว และมีมาตรฐานสอดคล้องกับสถานการณ์การระบาดของโรคในปัจจุบัน กระทรวงสาธารณสุข โดยกรม สบส.จึงออกประกาศกระทรวงกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง สถานพยาบาลอื่นซึ่งได้รับการยกเว้นไม่ต้องอยู่ในบังคับตามกฎหมายว่าด้วยสถานพยาบาล เฉพาะผู้ป่วยโรคติดต่ออันตรายตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 (Coronavirus Disease 2019 (COVID -19)) ณ ที่พำนักของผู้ป่วย เป็นการชั่วคราว


โดยกำหนดให้สถานพยาบาล ประเภท 1. บ้านพักของผู้ป่วย (Home Isolation) 2. โรงแรม หอพัก หรืออพาร์ตเมนท์ (Hotel Isolation) และ3. หมู่บ้าน โรงเรียน วัด หรือสถานที่อื่นใดที่ภาครัฐเห็นเหมาะสม (Community Isolation) ซึ่งใช้ในการดูแลรักษาผู้ป่วยโรคโควิด 19 ระหว่างรอการรักษาจากสถานพยาบาล หรือใช้ในการพักฟื้นผู้ป่วยที่ที่ผ่านการรักษาจากสถานพยาบาลมาแล้วสิบวัน หรือตามเวลาที่เหมาะสม ได้รับการยกเว้นไม่ต้องอยู่ในบังคับของพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ.2541 โดยประเภทที่ 1 คือ บ้านพักผู้ป่วย (Home Isolation) ไม่ต้องขอรับใบอนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาล และไม่ต้องชำระค่าธรรมเนียม กับผู้อนุญาต คือ กรม สบส. หรือสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด ส่วนประเภทที่ 2 Hotel Isolation และประเภทที่ 3 Community Isolation ต้องยื่นคำขออนุมัติเพื่อดำเนินการต่ออธิบดีกรม สบส.แต่ไม่ต้องชำระค่าธรรมเนียมแต่อย่างใด

ด้านทันตแพทย์อาคม ประดิษฐสุวรรณ รองอธิบดีกรม สบส.กล่าวว่า แม้สถานพยาบาลข้างต้นจะได้รับการยกเว้นไม่ต้องอยู่ในบังคับของกฎหมายสถานพยาบาล แต่ทางภาครัฐก็จะมีการควบคุม มาตรฐาน สถานพยาบาลเหล่านี้ให้มีสภาพเหมาะสมต่อการดูแลผู้ป่วยเพื่อความปลอดภัย โดยสถานที่จะต้องมีการแบ่งสัดส่วนแยกออกจากผู้อื่น สะดวก ปลอดภัย เหมาะสมต่อการให้การรักษาพยาบาล หรือลักษณะอื่นตามที่กรม สบส. หรือกรมการแพทย์กำหนด และจะต้องจัดให้จัดหาอาหารหรือมีผู้จัดหาอาหารและของใช้จำเป็น โดยไม่ต้องให้ผู้ป่วยออกไปจัดหาสิ่งของด้วยตนเองนอกสถานที่ ประการสำคัญ สถานพยาบาลต้องจัดให้มีผู้ประกอบวิชาชีพทางการแพทย์และสาธารณสุข หรือเจ้าหน้าที่ให้เพียงพอ และเหมาะสม เพื่อติดตามและประเมินอาการของผู้ป่วย ผ่านระบบการสื่อสารทุกวัน และหากผู้ป่วยมีอาการทรุดลงจะต้องพร้อมส่งตัวผู้ป่วยไปรักษาตัวในสถานพยาบาลที่เหมาะสมโดยทันที จึงขอให้ประชาชนทุกคนมั่นใจได้ว่าในระหว่างรอรับการรักษาจากโรงพยาบาล หรือหลังเข้ารับการรักษาที่สถานพยาบาลหรือสถานที่ที่รัฐจัดให้แล้ว และจำหน่ายเพื่อรักษาต่อเนื่อง ณ ที่พำนักของผู้ป่วย ก็จะได้รับการดูแล การติดตามและประเมินอาการของผู้ป่วย ที่มีคุณภาพมาตรฐานอย่างเหมาะสม ตามที่ภาครัฐกำหนดอย่างแน่นอน .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชิงทอง

สอบเครียด! คนร้ายชิงทอง 113 บาท สารภาพเอาไปจำนำบางส่วน

สอบเครียดทั้งคืน ผู้ต้องหาชิงทอง 113 บาท รับสารภาพนำทองไปจำนำบางส่วน ซื้อเบ้าหลอมเพื่อให้ยากต่อการติดตามของตำรวจ

เมียวดีระส่ำ! ปั๊มเหลือน้ำมันสำรองได้อีก 3-4 วัน

เมียวดีระส่ำหนัก หลังไทยตัดกระแสไฟฟ้า-อินเทอร์เน็ต-น้ำมันข้ามชายแดน โดยเฉพาะน้ำมันขาดแคลนหนัก ปั๊มน้ำมันกว่า 20 แห่ง เหลือน้ำมันสำรองได้อีก 3-4 วัน ประธานหอการค้าเมียวดี เรียกร้องรัฐบาลไทยทบทวน อยากให้ 2 ประเทศ ร่วมกันปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้ถูกจุด

ข่าวแนะนำ

ทำแผนชิงทอง

คุมทำแผนโจรบุกเดี่ยวชิงทอง 113 บาท

คุมตัวทำแผน โจรบุกเดี่ยวชิงทอง 113 บาท ในห้างฯ ย่านลำลูกกา สารภาพนำทองไปจำนำบางส่วน และซื้ออุปกรณ์หลอมทองเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่

จับเรือประมงเมียนมา

จับเรือประมงเมียนมา รุกล้ำน่านน้ำไทย

ศรชล.ภาค 3 จับกุมเรือประมงเมียนมาพร้อมลูกเรือ 13 คน ขณะลักลอบนำเรือประมงจอดลอยลำในทะเลอาณาเขตของไทย บริเวณ จ.ระนอง ใกล้เกาะค้างคาว